นับตั้งแต่เปิดตัว ซูซูกิ XL7 รถในกลุ่มครอสโอเวอร์ ที่ผ่านมาได้รับความนิยมจากกกลุ่มลูกค้าครอบครัวและผู้นิยมเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องการออกแบบที่ดูสปอร์ต อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน มีความคล่องตัวในเมือง แต่สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากถึง 7คน และราคาที่คุ้มค่า
ล่าสุด ซูซูกิ ได้นำเทคโนโลยี HYBRID คันนี้เพิ่มมาให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก โดยรุ่นใหม่มีความแตกต่างจากรุ่นเก่า ดังนี้ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ,ด้านหลังออกแบบ Chrome Back Garnish ให้มีความโดดเด่น พร้อมป้าย HYBRID ,ระบบไฟหน้า เปิด-ปิด อัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน Guide Me ที่ระบบจะทำงานอัตโนมัติเพื่อส่งทางเข้าบ้านและเมื่อเดินเข้าตัวรถ ให้ความสะดวก ปลอดภัย ,Idling STOP ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อรถหยุดสนิท,Cruise Control ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางไกล ,โหมดแสดงการทำงานของระบบ HYBRID ผ่านชุดจอ MID (Multi Information Display ),ระบบไฮบริด (Battery Lithium 10Ah 12V) ของเดิม 6 Ah, Up date หน้าจอสัมผัสความคมชัดสูง ขนาด 10.1 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android ระบบพับ-กาง กระจกมองข้าง อัตโนมัติ และยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ คือ ราวหลังคาสไตล์สปอร์ต บ่งบอกถึงความเป็นรถครอสโอเวอร์ ที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง
ขณะที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง กับเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ถูกตกแต่งคอนโซลลายไม้ ผสมผสานกับดีไซน์คอนโซลแบบสปอร์ต มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงข้อมูลการขับขี่ Driving G-Force และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ครบครันด้วยหน้าจอระบบสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว มาพร้อมฟังก์ชันเอ็นเตอร์เทนเมนต์ รองรับทุกการเชื่อมต่อความบันเทิงภายในตัวรถ สะดวกไปกับแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย พวงมาลัยเป็นทรง D-Shape แนวสปอร์ต มาพร้อมกับปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มสั่งการโทรศัพท์ เพิ่มความคล่องตัวให้กับการขับขี่ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือ Cruise Control
โดดเด่นและปลอดภัยด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT ที่ช่วยสมรรถนะในการขับขี่ มั่นใจทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กล้องมองภาพด้านหลัง ระบบเซ็นเซอร์ถอยหลังพร้อมสัญญานเตือนขณะถอยจอด ระบบ Hill Hold Control ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ระบบ Idling Stop ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองขณะรถหยุดวิ่ง
XL7 HYBRID มากับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร 1,462 ซีซี กระบอกสูบ X ระยะช่วงชัก: 74.0 x 85.0 นิวตันเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5:1 พละกำลัง 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับ Integrated Starter Generator (ISG) Mild Hybrid และแบตเตอรี่ Lithium-ion 10Ah 12v จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้าเคลมอัตราสิ้นเปลือง 19.2 km/l
จากการที่ทำงานร่วมกับ Integrated Starter Generator (ISG) Mild Hybrid เข้ามาทำให้การขับขี่ระยะทางกว่า 200 km กรุงเทพฯ-ราชบุรี ต้องยอมรับว่าอัตราเร่งมาแบบเรื่อย ๆ ไม่ได้ปรู๊ดปร๊าด ขับสบาย ๆ เครื่องยนต์ติดอย่างรวดเร็วและนิ่งเงียบไม่สั่นสะเทือน ทำให้ระบบ Idling Stop ทำงานดียิ่งขึ้น ISG ถูกออกแบบมาเสริม แรงบิดสูงถึง 50 N-m หรือกว่า 36 % เครื่องยนต์ทำงานทันที่ที่เริ่มกดคันเร่ง เสริมกำลังกับแรงม้า ช่วยให้รถออกตัวได้ดี ตอบสนองในแต่ละช่วงย่านความเร็วรอบของเครื่องยนต์ดีขึ้นกว่าเดิม จากการขับขี่ในเมือง-นอกเมือง ทำได้ 16-17 กม./ลิตร แต่ทางซูซูกิเคลมไว้ 19.2 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน Eco Sticker)
แต่เนื่องด้วยไม่ใช่ไฮบริดแบบเต็มระบบจึงทำให้ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาไม่แตกต่างจากรุ่นเดิม ไม่จุกจิก หากแบตเตอรี่ Li-on ขัดข้องหรือเสียหาย รถยนต์คันนี้ก็ยังสามารถขับเคลื่อนได้ตามปกติ ซึ่งจะแตกต่างจากระบบไฮบริดอื่นที่รถยนต์อาจหยุดทำงานไม่สามารถเคลื่อนที่ไปได้ ตรงนี้กลายเป็นข้อดีของ มินิไฮบริด ไปที่สำคัญราคาไม่แพงด้วย