Royal Enfield (โรยัล เอ็นฟีลด์) ผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางระดับโลก (250 ซีซี - 750 ซีซี) ได้เปิดตัว THE ALL-NEW HIMALAYAN โดยครั้งนี้ Royal Enfield ได้พลิกโฉมระบบขับเคลื่อนให้กับ THE ALL-NEW HIMALAYAN รุ่นล่าสุดนี้ด้วยระบบเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำSherpa 450 ใหม่ ที่ควบรวมกับฟีเจอร์เทคโนโลยีอีกมากมาย ช่วยยกระดับการเดินทางผจญภัย พร้อมสร้างประสบการณ์การขับขี่ให้กับนักบิดสายลุยได้สนุกกับทุกโค้ง ทุกถนน กับตัวเครื่องที่เบาที่สุด และล้ำสมัยที่สุดของ Royal Enfield โดย Royal Enfield - THE ALL-NEW HIMALAYAN เตรียมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยภายในสิ้นปี 2567 นี้แน่นอน ซึ่งมาพร้อมกับ 3 เฉดสี ได้แก่ HANLE BLACK, KAZA BROWN, และ SLATE HIMALAYAN SALT
อนุจ ดัว - หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ โรยัล เอ็นฟีลด์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค (Head of Business, Royal Enfield-APAC) กล่าวว่า "ก่อนที่เราจะเริ่มพัฒนา THE ALL-NEW HIMALAYAN เราได้ร่วมขับขี่ไปกับผู้บริโภคของเรา ได้พูดคุยกับนักเดินทางรอบโลก นักสำรวจ และนักกีฬา เพื่อเก็บข้อมูลมาผนวกกับประสบการณ์ของพวกเราเอง และได้ตัดสินใจเลือก DNA ที่สำคัญที่เราจำเป็นต้องรักษาไว้สำหรับ All New Himalayan 450 จับคู่กับระบบเครื่องยนต์ Sherpa 450 ที่ระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งเป็นครั้งแรกจาก Royal Enfield นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เรามีระบบคันเร่งไฟฟ้า ปรับได้ 4 รูปแบบ ให้การส่งกำลังและแรงบิดที่เหมาะสมสำหรับภูมิประเทศที่ท้าทาย และเป็นครั้งแรกในความร่วมมือกับ Google Maps ที่เรามี Tripper-Dash พร้อมการนำทางแผนที่เต็มรูปแบบ เราได้ทดสอบรถรุ่นนี้กับระยะทางมากกว่า 5,500 กม. ออกตัวจาก Chennai ไปจนถึง UmLing La ที่มีระดับความสูงถึง 19,024 ฟุต ดังนั้น THE ALL-NEW HIMALAYAN จึงเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแนวคิดจากผู้เชี่ยวชาญ การพัฒนาเทคโนโลยี และ DNA ของ Royal Enfield ที่แท้จริง เรามั่นใจว่า THE ALL-NEW HIMALAYAN จะปลุกหัวใจนักผจญภัยชาวไทยผู้หลงใหลในวิถีไบเกอร์พร้อมร่วมทาง ‘Pure Motorcycling’ ปกับเรามากยิ่งขึ้น”
All New Himalayan มีกำลังและแรงบิดมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ให้แรงบิดรอบต่ำที่ยอดเยี่ยม และยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Royal Enfield ด้วยกำลังสูงสุด 40.02 แรงม้า ที่ 8,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 40 นิวตันเมตร ที่ 5,500 รอบต่อนาที เครื่องยนต์ Sherpa ขนาด 452 ซีซี ใหม่ สร้างแรงบิดสูงถึง 90% ของแรงบิดตั้งแต่ 3,000 รอบต่อนาทีขึ้นไป ไม่จำเป็นที่ต้องลากรอบให้สูงเพื่อเรียกกำลัง เพราะพละกำลังนั้นมาในช่วงรอบต่ำ ลักษณะนี้มีประโยชน์มากที่สุดเมื่อปีนขึ้นไปบนทางลาดชันที่ลื่น ช่วยให้ล้อสามารถหาจุดยึดเกาะได้ไม่ยากและถ้าเทียบกับเครื่องที่ไม่ได้แรงบิดรอบต้น ล้ออาจจะลื่นและเสียการควบคุม นอกจากนี้ แรงบิดที่สูงยังช่วยให้การขับขี่ขับได้ง่ายและสะดวกสบายเมื่อขับขี่พร้อมผู้ซ้อนและสัมภาระ เครื่องยนต์ใหม่มีการออกแบบอ่างน้ำมันเครื่องแบบกึ่งแห้งเพื่อเพิ่มระยะห่างจากพื้นสูงสุดและช่วยให้ตัวเครื่องมีรูปแบบกระทัดรัด นี่เป็นครั้งแรกของ Royal Enfield ที่ติดตั้งหม้อน้ำระบายความร้อนและปั๊มน้ำการระบายความร้อนแบบสองทางช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการขับขี่ในเส้นทางที่ค่อนข้างวิบากที่ต้องไต่ระดับความชันในระดับความสูงเหนือน้ำทะเล เป็นการออกแบบใหม่เพื่อรักษาสมรรถนะของเครื่องยนต์ เกียร์แบบ 6 สปีดใหม่มีอัตราส่วนที่ห่างขึ้น เหมาะสำหรับการขับขี่บนทางหลวงที่ดีขึ้น พร้อมระบบ Sliper Clutch ทำให้การทำงานของคลัตช์นิ่มลงและช่วยให้อายุการใช้งานของคลัตช์ยาวนานขึ้น
เทคโนโลยีล่าสุดของ All New Himalayan มีจุดประสงค์เดียวคือเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ขับขี่ จุดเด่นของ TripperDash คือ หน้าจอสีตัวใหม่ รูปทรงกลมแบบคลาสสิก แต่มีคุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรมมากมายสำหรับผู้ขับขี่ พร้อมตัวเลือกในการเปลี่ยนจากการแสดงผลแบบ อะนาล็อกดั้งเดิมเป็นรูปแบบดิจิทัล TripperDash นำเสนอการนำทางด้วยแผนที่เต็มรูปแบบครั้งแรกของโลกบนจอแสดงผลทรงกลมที่ใช้ Engine และข้อมูลแผนที่จากระบบ Google Maps พร้อมเสียงแนะนำในกว่า 130 ภาษา ตัวควบคุม Joystick ประกบแฮนด์ด้านซ้าย ช่วยให้คุณควบคุมฟังก์ชัน เพลง การโทร และข้อความ ได้โดยไม่ต้องละสายตาเพื่นค้นหา เครื่องมือสื่อสารและนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมต่อมือถือ ผู้ขับขี่สามารถเลือกระหว่างโหมดการขับขี่ Performance และ Eco การตอบสนองของคันเร่งจะเปลี่ยนด้วยระบบคันเร่งไฟฟ้าแบบใหม่ ABS ด้านหลังสามารถปิดการใช้งานได้เพื่อประสบการณ์การขับขี่แบบออฟโรดที่น่าดึงดูดยิ่งขึ้น
ด้วยอุปกรณ์ตกแต่งรถจักรยานยนต์ที่น่าตื่นเต้นจากโรงงานกว่า 30 รายการ มีมาให้เลือกติดตั้ง All New Himalayan ในแบบที่คุณต้องการ เพราะการผจญภัยและไลฟ์สไตล์ที่แต่งต่างของผู้ขับขี่ทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถปรับแต่งเพื่อสร้า'เอกลักษณ์ พร้อมจุดประกายและส่งต่อแรงบันดาลใจให้นักผจญภัยคนอื่นๆ ได้อีก ชุดอุปกรณ์ครั้งนี้มาใน 2 ธีม ได้แก่ แบบผจญภัย (Adventure) และแบบแรลลี่ (Rally) อุปกรณ์ตกแต่งของเหล่านักผจญภัย มุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการขับขี่ระยะไกล โดยมีกล่องเอนกประสงค์แบบอะลูมิเนียม หน้าจอแบบยกสูง ที่นั่ง Adventure Seat รวมถึงไฟตัดหมอกแบบ LED ส่วนชุดอุปกรณ์ตกแต่งแบบแรลลี่ จะช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดให้กับ All New Himalayan อย่างแท้จริง เมื่อจับคู่บังโคลนหลังแรลลี่ เข้ากับเบาะนั่งแรลลี่ที่เพรียวบาง ตัวรถจะดูดุดันขึ้นมาทันที มากไปกว่านั้นชุดธีมแรลลี่จะรองรับการติดตั้ง (กระเป๋าอ่อนที่ไม่ต้องการแรคในการยึด (Rackless Soft Bags) และ กระเป๋าหลัง (Tail Pack) ในขณะที่ การ์ดเบรกมือ การ์ดคลัตช์ การ์ดอ่าง และการ์ดไฟหน้าให้การปกป้องขั้นสูงสุดสำหรับ ภูมิประเทศที่มีทางฝุ่นที่อันตรายและมีระดับความขรุขระอยู่ในระดับสูง