บีวายดี ช็อกวงการหลังเปิดตัว “ซีกัล” รุ่นใหม่ในราคาเริ่มต้นแค่ 9,700 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยราว 352,700 บาท โดยที่บริษัทยังทำกำไรได้ นอกจากนั้นด้วยความกังวลว่า ผู้ผลิตอีวีเบอร์หนึ่งของโลกแห่งนี้ รวมถึงบริษัทจีนแห่งอื่นๆ อาจส่งรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกเข้าไปขายจนท่วมตลาดประเทศต่างๆ ยังทำให้ผู้บริหารบริษัทรถและนักการเมืองตั้งแต่ดีทรอยต์จนถึงเทกซัส เยอรมนี และญี่ปุ่นนั่งไม่ติด
ต้นเดือนนี้ บีวายดีที่ได้รับการสนับสนุนจากวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนระดับตำนาน เปิดตัว “ซีกัล อีวี ออเนอร์ เอดิชัน” (ดอลฟิน มินิ) ด้วยราคาเริ่มต้นสุดช็อกแค่ 9,700 ดอลลาร์ (352,700 บาทโดยประมาณ)
อีวีรุ่นนี้ใช้แบตเตอรี่เบลดของบีวายดีที่มีให้เลือก 2 เวอร์ชันคือ 30.08 kWh และ 38.88 kWh ระยะทางขับขี่สูงสุด 305 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC สำหรับเวอร์ชันแรก และ 405 กิโลเมตรสำหรับเวอร์ชันที่ 2 สามารถชาร์จ 30-80% ภายใน 30 นาที
ภายในมีหน้าจอหมุนได้ขนาด 10.1 นิ้วอยู่ตรงกลางและดีไซน์มินิมอล ไม่ได้ดูไก่กาเหมือนอีวีราคาถูกทั่วไป ด้วยเครือข่ายอัจฉริยะ DiLink ผู้ใช้สามารถโต้ตอบและเล่นวิดีโอได้ สื่อจีนเรียกซีกัลว่า “ลัมโบร์กินี มินิ” เพราะได้โวล์ฟกัง เอ็กเกอร์ อดีตนักออกแบบของลัมโบร์กินีมาเป็นผู้นำในการออกแบบ
แต่ที่สำคัญกว่านั้นอาจเป็นข้อเท็จจริงที่ว่า บีวายดียังสามารถทำกำไรได้จากลัมโบร์กินี มินิ ส่งผลให้บริษัทรถทั่วโลกถึงกับกุมขมับ และแม้ซีกัลยังไม่ได้เข้าไปขายในอเมริกา แต่บีวายดีกำลังขยายตัวทั่วโลก และบางคนคิดว่า อีวีจีนไปถึงตลาดอเมริกาแน่ แค่ไม่รู้ว่าจะเป็นเมื่อไหร่เท่านั้น
เทอร์รี วอยโชว์สกี อดีตผู้บริหารเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ที่ปัจจุบันเป็นประธานแผนกยานยนต์ของบริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม แคร์ซอฟท์ โกลบัล บอกว่า ซีกัลอาจเป็นเสียงเรียกร้องอย่างชัดเจนให้ผู้เล่นทั้งหมดในอุตสาหกรรมยานยนต์ลงมือทำบางอย่าง
ในการให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซี วอยโชว์สกียังบอกว่า อีวีราคาถูกของบีวายดีเป็น “เรื่องใหญ่” ที่ค่ายรถอเมริกันต้องไล่ตามให้ทั แคร์ซอฟต์ตรวจสอบชิ้นส่วนทั้งหมดของรถทั้งด้วยระบบดิจิตอลและการตรวจสอบทางกายภาพ เพื่อพิจารณาว่า ลูกค้าจะสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพได้อย่างไร
แต่หลังจากศึกษาบีวายดี ซีกัลรุ่นใหม่ แคร์ซอฟต์พบว่า ดีไซน์ของอีวีรุ่นนี้เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ แถมมีคุณภาพและความเชื่อถือได้เกินคาดสำหรับอีวีราคาไม่ถึง 10,000 ดอลลาร์ (ราว 364,000 บาท)
แม้บีวายดีไม่มีแผนเจาะตลาดอีวีอเมริกา แต่ถ้าทำจริง มีแนวโน้มว่า ซีกัลจะถูกกว่าราคาเฉลี่ยของอีวีในเมืองลุงแซมหลายหมื่นดอลลาร์ ขณะนี้บีวายดีเปิดตัวซีกัลในอเมริกาใต้ในชื่อ ดอลฟิน มินิ ราคาเริ่มต้นที่บราซิลอยู่ที่ราว 20,000 ดอลลาร์ (727,000 บาท)
ขณะเดียวกัน บริษัทรถอเมริกันกำลังสูญเสียส่วนแบ่งตลาด ท่ามกลางการมาถึงของค่ายรถญี่ปุ่นอย่างโตโยต้า มอเตอร์, นิสสัน มอเตอร์ และฮอนด้า มอเตอร์ ตลอดจนถึงบริษัทรถเกาหลีใต้อย่างฮุนได มอเตอร์ และเกีย โดยข้อมูลในอุตสาหกรรมระบุว่า “บิ๊กทรี” ซึ่งได้แก่ ฟอร์ด จีเอ็ม และไครสเลอร์ที่ปัจจุบันเป็นของสเตลแลนทิสนั้น ครองส่วนแบ่งตลาด 40% เมื่อปีที่แล้ว จาก 75% ในปี 1984
ผู้ผลิตรถตลอดจนถึงนักการเมืองทั่วโลกกำลังกลัวว่า คู่แข่งจากจีนที่กำลังบุกเข้าสู่ยุโรป ละตินอเมริกา และภูมิภาคอื่นๆ อาจส่งรถราคาถูกเข้าไปตัดราคาผู้ผลิตท้องถิ่น
สมาคมผู้ผลิตแห่งอเมริการายงานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า หากรถราคาถูกจากจีนที่ได้รับการอุดหนุนจากปักกิ่ง มาถึงอเมริกาอาจทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์อเมริกันถึงขั้นสูญพันธุ์
ปีที่แล้วบีวายดีทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ 1.57 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากแค่ 130,970 คันในปี 2020 และส่งให้บริษัทโค่นเทสลาของอเมริกาขึ้นเป็นผู้ผลิตอีวีเบอร์หนึ่งของโลก
การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเทสลาและบริษัทรถจีนแห่งอื่นๆ ทำให้อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งเทสลา เตือนเมื่อเดือนมกราคมว่า ถ้าไม่มีอุปสรรคทางการค้า ค่ายรถจีนจะทำลายล้างคู่แข่งทั่วโลก
นักการเมืองในอเมริกาที่กังวลกับชะตากรรมของผู้ผลิตท้องถิ่นกำลังพุ่งเป้าสกัดการนำเข้าจากจีน ขณะที่ยุโรปเปิดสอบสวนกรณีการอุดหนุนอีวีของปักกิ่ง
สัปดาห์ที่แล้ว อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และตัวเก็งผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีปลายปีนี้ แย้มว่า ถ้าชนะ จะเรียกเก็บภาษีรถจีนที่ผลิตในเม็กซิโก 100% เพื่อป้องกันบริษัทรถจีนใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีใหม่ระหว่างอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดา ด้วยการเข้าไปตั้งโรงงานผลิตในเม็กซิโก
ด้านบริษัทรถอเมริกันกำลังเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
มาริน จายา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของฟอร์ด โมเดล อี ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซีเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า ผู้ผลิตรถจะบุกเข้าสู่ทุกตลาดสำคัญ ดังนั้น ในที่สุดแล้วบริษัทอีวีจีนจะมาถึงอเมริกาอย่างแน่นอน
ฟอร์ดกำลังเปลี่ยนแผนไปโฟกัสที่อีวีขนาดเล็กราคาถูกลง ซึ่งรวมถึงปิ๊กอัพและเอสยูวีไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด แหล่งข่าวเผยว่า จะมีการเปิดตัวรุ่นแรกในปี 2026 ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 25,000 ดอลลาร์ (909,000 บาท)
ด้านจีเอ็มเล็งเปิดตัวเชฟวี โบลต์ อีวีรุ่นใหม่ปีหน้า ซึ่งจากการเปิดเผยของพอล จาค็อบสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน โบลต์ อีวีรุ่นใหม่จะลดต้นทุนได้หลายพันล้านดอลลาร์เนื่องจากใช้แพลตฟอร์มอัลเทียมที่ใช้แบตเตอรี่แอลเอฟพี ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่ฟอร์ดมีแผนใช้กับอีวีรุ่นใหม่เช่นเดียวกันเพื่อลดต้นทุน
เดือนที่ผ่านมา จิม ฟาร์ลีย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของฟอร์ด เตือนในงานประชุมของโวล์ฟ รีเสิร์ชว่า ถ้าบริษัทรถตามผู้ผลิตจีนอย่างบีวายดีไม่ทัน อาจสูญรายได้ 20-30%
ฟาร์ลีย์ยังบอกว่า ซีกัลรุ่นใหม่ “ค่อนข้างดี” และสำทับว่า ในฐานะซีอีโอของบริษัทที่ต้องแข่งขันกับค่ายรถญี่ปุ่นและเกาหลี เขาคิดว่า ฟอร์ดจำเป็นต้องแก้ปัญหานี้
ปัจจุบัน ฟอร์ดกำลังพัฒนาแพลตฟอร์มอีวีราคาถูกที่นำโดยอลัน คลาร์ก อดีตผู้รับผิดชอบงานวิศวกรรมของเทสลา โมเดลวาย นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า ฟอร์ดเลื่อนแผนเปิดตัวเอสยูวีไฟฟ้าขนาดใหญ่ออกไปก่อน
ขณะเดียวกัน อิเล็กเทร็กรายงานว่า บีวายดีได้เริ่ม “สงครามปลดแอก” จากรถใช้น้ำมัน โดยเปิดตัวอีวีราคาถูกหลายรุ่น ซึ่งรวมถึงดอลฟินรุ่นอัพเดต
บีวายดีมีข้อได้เปรียบสำคัญจากการผลิตชิ้นส่วนเกือบทั้งหมดเอง เช่น รุ่นดอลฟินที่ใช้ชิ้นส่วนเกือบทั้งหมดที่ผลิตในบริษัท ยกเว้นเพียงหน้าต่างและยางรถยนต์
นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า แพลตฟอร์มอีวีรุ่นต่อไปอาจลดต้นทุนได้อีก เพิ่มความกดดันให้บริษัทรถอเมริกันและคู่แข่งชาติอื่นๆ