xs
xsm
sm
md
lg

นิสสัน ไฮเปอร์ ทัวร์เรอร์ ไฟฟ้ามินิแวนต้นแบบ โชว์โฉม มอเตอร์โชว์ 2024

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นิสสันจุดประกายสร้างความตื่นเต้นในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 กับ "นิสสัน ไฮเปอร์ ทัวร์เรอร์ (Hyper Tourer)" รถยนต์ไฟฟ้ามินิแวนต้นแบบ ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ จัดแสดงในไทยเป็นประเทศแรก หลังเปิดตัวในงาน เจแปน โมบิลิตี้ โชว์ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา

รถยนต์ต้นแบบ ไฮเปอร์ ทัวร์เรอร์ สะท้อนมุมมองใหม่ของนิสสันที่มีต่อการเดินทางด้วยกันได้อย่างชัดเจน ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประชากรในอาเซียน เราเชื่อว่าแนวคิดการพัฒนารถต้นแบบ นิสสัน ไฮเปอร์ ทัวร์เรอร์ จะช่วยให้เรายกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในอนาคต และมีความสุขกับการเดินทางได้อย่างหรูหรา สะดวกสบาย"

นิสสัน ไฮเปอร์ ทัวร์เรอร์ เป็นหนึ่งในรถต้นแบบ 5 รุ่น ที่นิสสันเปิดตัวในงาน เจแปน โมบิลิตี้ โชว์ 2023 มินิแวนรุ่นนี้ ผสมผสานจิตวิญญาณของการให้บริการแบบญี่ปุ่นเข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ การขับขี่อัตโนมัติ ฟังก์ชัน V2X หรือ (vehicle-to-everything) และแบตเตอรี่ไฟฟ้าความจุสูงยังช่วยให้สามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับบ้าน ร้านค้า และสำนักงาน ขณะเดินทาง หรือทำกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ

รูปลักษณ์ภายนอกของรถยนต์รุ่นนี้สื่อถึงความรู้สึกสบายที่มาจากภายใน ด้วยรูปโฉมภายนอกตัวถังที่เรียบลื่นไหล มีเส้นสายที่เฉียบคม เข้ากันได้ดีกับรูปลักษณ์ที่ดูโอ่อ่ากลมกลืนกับภูมิทัศน์โดยรอบ พื้นที่ห้องโดยสารภายในกว้างขวางเป็นผลมาจากวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าของนิสสัน ซึ่งรวบรวมชิ้นส่วนขนาดเล็ก และแบตเตอรี่แบบ Solid-state ไว้อย่างกะทัดรัด และลงตัว เพื่อให้เกิดนวัตกรรมยานยนต์ที่มีความสร้างสรรค์ ขณะที่คอนโซลเหนือศีรษะ และไฟส่องสว่างมีลวดลายแบบคูมิโกะ และโคอุชิ อันเป็นลักษณะเฉพาะแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่สร้างความรู้สึกหรูหรา ในขณะที่พื้นห้องโดยสารประกอบด้วยแผง LED แสดงภาพคล้ายแม่น้ำ และท้องฟ้า ช่วยสร้างความผ่อนคลายที่ผสมผสานสไตล์ ที่มีทั้งความเป็นดิจิทัล และความธรรมชาติเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

รถยนต์ต้นแบบคันนี้มาพร้อมกับระบบควบคุมการขับขี่ e-4ORCE จากนิสสัน จะช่วยควบคุมล้อทั้งสี่ได้อย่างแม่นยำทั้งตอนเร่ง และชะลอความเร็ว ด้วยการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้เวลากับเพื่อนร่วมทางได้อย่างเต็มที่ เบาะหน้าสามารถปรับหมุนได้ 360 องศา ช่วยให้ผู้โดยสารตอนหน้า และตอนหลังสามารถหันมาพูดคุยกันได้อย่างสะดวก ผู้โดยสารตอนหลังสามารถใช้จอแสดงผลแบบสวมใส่ (wearable display) เพื่อดู และใช้งานระบบนำทาง และควบคุมเครื่องเสียงบนจอแสดงผลตรงกลางเบาะหน้า ช่วยให้ผู้โดยสารทุกคนรู้สึกสะดวกสบาย และมีส่วนร่วมในการเดินทาง นอกจากนี้ ระบบ AI สามารถตรวจจับข้อมูลแบบไบโอเมตริค biometrics อาทิ คลื่นสมอง อัตราการเต้นของหัวใจ การหายใจ และเหงื่อ สามารถเลือกเพลงอัตโนมัติ และปรับบรรยากาศในห้องโดยสารให้เหมาะกับอารมณ์ในช่วง














กำลังโหลดความคิดเห็น