เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผงาดขึ้นเป็นหนึ่งในตลาดอีวีที่ร้อนแรงที่สุดในโลก และอาจช่วยชดเชยดีมานด์ที่ชะลอลงในสองตลาดใหญ่สุดอย่างจีนและอเมริกาให้เทสลา อย่างไรก็ตาม งานนี้คงไม่ง่าย เพราะค่ายรถไฟฟ้าเบอร์หนึ่งของอเมริกาแห่งนี้ต้องเผชิญการแข่งขันเดือดพล่านกับคู่ปรับสำคัญอย่างบีวายดีและบริษัทอีวีแห่งอื่นๆ ของจีน
สัปดาห์ที่ผ่านมา เทสลาส่งมอบ Model Y ล็อตแรกในมาเลเซีย ภายหลังได้รับใบอนุญาตจำหน่ายรถในประเทศนี้จากรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม เมื่อปีที่แล้ว นอกจากนั้น เทสลายังส่ง Model 3 ไปขายในแดนเสือเหลือง รวมทั้งมีแผนสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จอีวีในประเทศนี้
ผู้ซื้อ Model Y โพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่าในฐานะชาวมาเลเซียคนหนึ่ง การรอคอยให้เทสลามาถึงดูเหมือนนานแสนนาน
ผู้บริหารอาวุโสคนหนึ่งของเทสลาตอบโพสต์ดังกล่าวโดยระบุว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่สำคัญสำหรับการเติบโตในช่วงหลายปีนับจากนี้ทั้งในแง่ระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่และการยอมรับรถยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี
ในความเป็นจริง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้แจ้งเกิดในฐานะหนึ่งในตลาดอีวีที่ร้อนแรงที่สุดตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน และอาจนำเสนอฐานลูกค้าขนาดใหญ่ให้แก่เทสลาในช่วงเวลาที่ดีมานด์รถยนต์ไฟฟ้าในตลาดใหญ่ 2 แห่งอย่างจีนและอเมริกาชะลอตัว
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ภูมิภาคนี้เติบโตโดดเด่นคือ เนื่องจากอัตราการยอมรับอีวียังต่ำกว่าตลาดอื่นๆ โดยในปี 2022 ยอดขายอีวีในภูมิภาคนี้อยู่ที่เพียง 2.1% ของยอดขายรถทั้งหมด
แต่จากข้อมูลของเคาน์เตอร์พอยต์ รีเสิร์ช ช่วงไตรมาส 2 ปีที่แล้ว เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นตลาดอีวีที่ร้อนแรงที่สุดในโลก ด้วยยอดขายที่โตขึ้นถึง 894% และเมื่อถึงไตรมาส 3 ยอดขายอีวีคิดเป็นสัดส่วน 6.4% ของยอดขายรถยนต์นั่งทั้งหมดในภูมิภาค โดยอินโดนีเซีย ไทย และมาเลเซียเป็นตลาดรถใหญ่ที่สุดในย่านนี้
นักวิเคราะห์ระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ขัดขวางการยอมรับอีวีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงการขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จอีวีนอกเมืองใหญ่ การขาดมาตรการกระตุ้นทางภาษีและมาตรการอุดหนุนสำหรับทั้งผู้ผลิตและผู้ซื้อ ตลอดจนถึงความล่าช้าในการพัฒนาอีวีราคาถูก
อย่างไรก็ตาม ในรายงานล่าสุดของบริษัทที่ปรึกษา อีวาย ตั้งข้อสังเกตว่า ความกังวลของสังคมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งในส่วนนโยบายของภาครัฐและทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่ออีวี
รายงานฉบับนี้สำทับว่า การเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้ายังได้แรงหนุนจากมาตรการจูงใจทางการเงินเพื่อให้อีวีมีราคาที่ผู้บริโภคจ่ายได้มากขึ้น
ตัวอย่างเช่น ในงบประมาณล่าสุดของมาเลเซียมีการเสนอมาตรการจูงใจทางภาษีหลายอย่างสำหรับผู้ผลิตอีวี ผู้ซื้อ และแม้แต่สำหรับการเช่าอีวี เพิ่มเติมจากการยกเว้นภาษีที่บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2022
เอเชีย ไฟแนนเชียลระบุว่า ไทยและอินโดนีเซียมีมาตรการจูงใจในลักษณะนี้เช่นกัน
นอกจากนั้นเทสลายังเดินสายเจรจาเพื่อขยายปฏิบัติการในประเทศอื่นๆ ในจำนวนนี้รวมถึงไทยที่เป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกรถรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รัฐบาลไทยยังกำหนดเป้าหมายทำให้ยอดการผลิตรถประจำปี 30% จากทั้งหมด 2.5 ล้านคันเป็นอีวีภายในปี 2030
เจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยเปิดเผยเมื่อต้นเดือนว่า เทสลาได้หารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการตั้งโรงงานผลิตภายหลังเข้ามาสำรวจสถานที่เมื่อปลายปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ความทะเยอทะยานในการปักหมุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเทสลายังต้องเผชิญบททดสอบสำคัญในรูปการแข่งขันกับผู้เล่นจีนที่ร่วมกันครองยอดขายอีวีในภูมิภาคนี้ถึง 75% ในไตรมาสแรกปี 2023
คู่แข่งสำคัญที่สุดคือบีวายดีที่โค่นเทสลาขึ้นเป็นบริษัทอีวีที่มียอดขายสูงสุดในโลกเป็นที่เรียบร้อย บริษัทรถจีนแห่งนี้ยังทิ้งห่างผู้เล่นอื่นๆ ด้วยการกวาดยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 25%
แทนที่จะใช้กลยุทธ์เข้าหาลูกค้าโดยตรงแบบเทสลา บีวายดีเลือกที่จะเป็นพันธมิตรกับกลุ่มกิจการท้องถิ่นขนาดใหญ่ซึ่งช่วยให้บริษัทเข้าถึงตลาดกว้างขึ้น ได้ทดสอบความต้องการของผู้บริโภค และสำรวจกฎระเบียบอันซับซ้อนของภาครัฐในภูมิภาคนี้
จากข้อมูลของเคาน์เตอร์พอยต์ ไตรมาส 2 ปีที่ผ่านมา บีวายดีทำยอดขายกว่า 26% ของยอดขายรถทั้งหมดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ยอดขายของเทสลาอยู่ที่เพียง 8%