รัฐมนตรีพลังงานอเมริกาย้ำอีวีราคาถูกจากจีนอาจท่วมตลาด ขณะที่อียูเตือนการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าแดนมังกรที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องอาจทำให้สถานการณ์ของค่ายรถยุโรปสาหัสถึงขั้นที่แก้ไขลำบาก ยันพบหลักฐานได้รับการอุดหนุนจากปักกิ่งและเล็งเรียกเก็บภาษีศุลกากรย้อนหลัง
เจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีพลังงานสหรัฐฯ เตือนเมื่อวันพุธ (6 มี.ค.) ว่า จีนอาจส่งรถยนต์ไฟฟ้าหรืออีวีราคาถูกเข้าไปขายจนล้นตลาดอเมริกา และสำทับว่า ขณะนี้วอชิงตันกังวลอย่างมากว่า จีนอาจเข้าควบคุมอุตสาหกรรมอีวี แม้อเมริกาสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับการผลิตแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ จีนถูกมองว่า เป็นภัยคุกคามอุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐฯ ขณะที่ยอดส่งออกรถของอเมริกาตกลง และบริษัทอย่างเจเนอรัล มอเตอร์ปรับลดปฏิบัติการนอกประเทศ
แกรนโฮล์มสำทับว่า อเมริกาเคยเห็นเหตุการณ์สินค้าล้นตลาดคล้ายกันนี้มาก่อนแล้วในอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์
จากข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีน ปีที่ผ่านมาจีนส่งออกรถเกือบ 5 ล้านคัน และแซงญี่ปุ่นขึ้นเป็นประเทศผู้ส่งออกรถอันดับ 1 ของโลก โดยส่วนใหญ่เป็นผลงานความสำเร็จของบีวายดี เชอรี่ จีลี่ และ SAIC
เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ฟิตช์ เรทติ้งส์ระบุว่า ผู้ผลิตอีวีจีนเปิดตัวรถรุ่นใหม่เร็วมาก และแนวโน้มของผู้เล่นเหล่านี้ยังคงแข็งแกร่งแม้ต้องเผชิญการแข่งขันดุเดือดก็ตาม
แกรนโฮล์มสำทับว่า จีนกำลังลงทุนมหาศาลเพื่อเข้าควบคุมตลาดอีวี ดังนั้น อเมริกาจึงต้องเข้าใจว่า สิ่งสำคัญสำหรับผู้บริโภคคือการซื้ออีวีในราคาที่จ่ายไหว ซึ่งอเมริกาสามารถทำได้โดยที่ปกป้องประเทศให้ปลอดภัยไปพร้อมกัน
อนึ่ง เดือนที่ผ่านมา ทำเนียบขาวเผยว่า อเมริกากำลังตรวจสอบว่า รถนำเข้าจากจีนสร้างความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่ เนื่องจากรถเหล่านั้นสามารถรวบรวมข้อมูลอ่อนไหวเกี่ยวกับพลเมืองและโครงสร้างพื้นฐานของอเมริกาและส่งให้ปักกิ่ง
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงว่า นโยบายของจีนอาจทำให้รถจีนท่วมตลาดอเมริกา และเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ
ขณะเดียวกัน อเมริกากำลังพยายามส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานอีวีภายในประเทศผ่านกฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อที่เสนอเครดิตภาษีสำหรับรถที่ประกอบในอเมริกาเหนือ และปฏิบัติตามข้อกำหนดชิ้นส่วนแบตเตอรี่และแร่ธาตุสำคัญ ฯลฯ
กล่าวคือ ส่วนประกอบแบตเตอรี่ที่ผลิตหรือประกอบโดยนิติบุคคลต่างแดนที่น่ากังวลจะไม่ได้รับเครดิตภาษี
ในเวลาไล่เลี่ยกันนั้น คณะกรรมาธิการยุโรปเผยว่า มีหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่า อีวีจีนได้รับการอุดหนุนจากปักกิ่ง และกำหนดให้อีวีนำเข้าทุกคันต้องจดทะเบียนผู้นำเข้า-ส่งออกโดยมีผลตั้งแต่วันพฤหัสฯ (7 มี.ค.)
ข้อกำหนดนี้บ่งชี้ว่า สหภาพยุโรป (อียู) อาจเรียกเก็บภาษีศุลกากรย้อนหลังกับอีวีจีนเริ่มตั้งแต่วันดังกล่าว หากการสอบสวนกรณีการอุดหนุนอีวีที่ใช้แบตเตอรี่ของจีนได้ข้อสรุปว่า รถเหล่านั้นได้เปรียบในการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม
เอกสารที่เผยแพร่บนเว็บไซต์คณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อวันอังคารที่แล้ว (5 มี.ค.) ตั้งข้อสังเกตว่า การนำเข้าอีวีจากจีนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 11% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงที่มีการสอบสวนระหว่างเดือนตุลาคม 2022 ถึงกันยายน 2023 และเพิ่มขึ้น 14% ในเดือนตุลาคม 2023 ที่เริ่มต้นการสอบสวนอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า
เอกสารดังกล่าวยังระบุว่า การผลิตอีวีจีนได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาลจีน รัฐบาลท้องถิ่น และหน่วยงานเอกชนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ โดยลักษณะของการอุดหนุนรวมถึงการโอนเงินสนับสนุนหรือถ่ายโอนหนี้โดยตรง การที่รัฐยอมสละรายได้ และการจัดหาสินค้าหรือบริการให้โดยคิดค่าตอบแทนต่ำเกินจริง
เอกสารเตือนว่า หากมีการนำเข้าอีวีจีนในระดับนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผู้ผลิตรถในอียูจะได้รับผลกระทบรุนแรงถึงขั้นยากที่จะแก้ไข
การสอบสวนของคณะกรรมาธิการยุโรปมีกำหนดเสร็จสิ้นภายในเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ดี อาจมีการเรียกเก็บภาษีชั่วคราวตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
หอการค้าจีนในอียูแสดงความผิดหวังกับความเคลื่อนไหวนี้ และแย้งว่า การนำเข้าที่เพิ่มขึ้นสะท้อนดีมานด์อีวีที่เพิ่มขึ้นในยุโรป
ก่อนหน้านี้ จีนประณามการสอบสวนกรณีการอุดหนุนของอียูว่า เป็นการกีดกันการค้าอย่างโจ่งแจ้ง และประกาศว่า จะตอบโต้โดยอิงกับข้อสรุปของการสอบสวน อีกทั้งระบุว่า การสอบสวนดังกล่าวมีการเผยแพร่หลักฐานโดยไม่เหมาะสม
ทั้งนี้ การสอบสวนของอียูมีขึ้นขณะที่ผู้ผลิตอีวีจีนขยายตัวทั่วยุโรปอย่างรวดเร็ว โดยคณะกรรมาธิการยุโรประบุว่า อีวีจีนมีส่วนแบ่งยอดขายในยุโรปเพิ่มขึ้นเป็น 8% และอาจเพิ่มเป็น 15% ในปีหน้า