“เกีย เซลส์ (ประเทศไทย)” ประเดิมเซกเมนต์รถยนต์เอสยูวีขนาดใหญ่ ไฟฟ้า 100% ด้วยการเปิดตัว “Kia EV9” เอสยูวี 6 ที่นั่งรุ่นแรกในประเทศไทย พร้อมการรับประกัน 7 ปี ฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะ และความช่วยเหลือฉุกเฉิน
บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด ประกาศเปิดตัว “Kia EV9” รถยนต์เอสยูวี 6 ที่นั่ง รุ่นเรือธงคันแรกของบริษัทฯ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบในประเทศไทย โดย “Kia EV9” เป็นรถยนต์เอสยูวีขนาดใหญ่ที่โดดเด่นด้วยสไตล์ที่แตกต่าง ผสมผสานความปลอดภัย รวมทั้งการออกแบบ และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สร้างความตื่นเต้นให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์
นายจุน โอ อี ประธาน บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “วันนี้เรามีความยินดีที่จะแนะนํา Kia EV9 ซึ่งเป็นรถยนต์เอสยูวีรุ่นเรือธงที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกของเรา โดยการเปิดตัว Kia EV9 ครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์เกียที่มีต่อตลาดประเทศไทย โดยเรากำลังเร่งสร้างการเปลี่ยนแปลงของแบรนด์และตั้งเป้าหมายด้านการดําเนินธุรกิจในระยะยาว ผ่านกลยุทธ์หลักขององค์กรที่มีชื่อว่า ‘Plan S-5’ ซึ่งตั้งเป้าในการบรรลุส่วนแบ่งการตลาด 5% ในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศไทย รวมถึงการขยายอัตราส่วนการขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดขึ้นเป็น 50% ภายในปี 2571
เพื่อให้สามารถก้าวสู่เป้าหมายในการเป็น ‘แบรนด์ที่มุ่งตอบโจทย์การเดินทางอย่างยั่งยืน’ (Sustainable Mobility Solutions Provider)’ เราจึงให้ความสําคัญกับกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การเชื่อมต่อ (Connectivity) การขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous driving) ประสิทธิภาพ (Performance) และการออกแบบ (Design) ด้วยเหตุนี้ การเปิดตัว Kia EV9 รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 6 ที่นั่งรุ่นแรกของประเทศไทยในวันนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดของเรา
นายฌ็อง–ดาวิด คริสติญอง อาเรล รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “Kia EV9 มีความโดดเด่นด้วยปรัชญาการออกแบบ ‘Opposites United’ อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งเป็นการพลิกโฉมรถเอสยูวีที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% จากการผสมผสานองค์ประกอบที่เป็นธรรมชาติและมีความทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว สอดคล้องกับการสื่อสารของแบรนด์ภายใต้แนวคิด ‘The Inspiration Larger than Life’ ในแง่ของการใช้งาน Kia EV9 มีตัวเลือกการปรับที่นั่งอันหลากหลายซึ่งตอบสนองกับความต้องการในการใช้งานรูปแบบต่างๆ โดยสามารถปรับที่นั่งสำหรับ 6 ที่ได้ 2 แบบ สําหรับแถวที่ 2 เพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้พื้นที่ให้ตรงกับความต้องการได้มากที่สุด
สำหรับ Kia EV9 Earth Long Range ยังมาพร้อมนวัตกรรมเบาะนั่งปรับหมุนได้ 180 องศา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการนำเสนอฟังก์ชันนี้ในรถยนต์กลุ่มเอสยูวีขนาดใหญ่ในไทย ช่วยให้ผู้โดยสารภายในสามารถโต้ตอบ เชื่อมต่อ และสื่อสารกับคนที่คุณรักได้ และ Kia EV9 GT-Line AWD มาพร้อมเบาะนั่งพักผ่อนระดับเฟิร์สคลาสที่ให้ความสะดวกสบายอย่างเหนือชั้น ด้วยที่นั่งแบบเลานจ์ที่มีที่พักเท้าแบบปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมด้วยระบบอุ่น และสามารถระบายอากาศได้ ซึ่งเป็นเบาะนั่งผู้โดยสารในแถวที่สองแบบ Relaxation ที่ดีที่สุด มาพร้อมฟังก์ชันการนวดต่างๆ
รูปลักษณ์ภายนอกของ Kia EV9 ให้ความรู้สึกร่วมสมัยและเรียบหรู เข้ากับสไตล์อันซับซ้อนของคอนเซปต์การขับเคลื่อนที่ยั่งยืนในยุคปัจจุบัน โดยตัวรถมีระยะฐานล้อ 3,100 มม. สามารถรองรับล้อรถขนาด 21 นิ้วหรือ 20 นิ้ว ตามแต่จะเลือกใช้ ซึ่งรุ่น GT-Line AWD มีความยาวโดยรวมตลอดตัวรถอยู่ที่ 5,015 มม1. กว้าง 1,980 มม. และสูง 1,780 มม2. ทำให้มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและร่วมสมัย ในขณะที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Kia EV9 ได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกับ ‘Panoramic Wide Display’ ที่มีจอแสดงผลแบบคลัสเตอร์ขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และจอแสดงผลสำหรับระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารขนาด 5.3 นิ้ว ช่วยให้สามารถควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและส่งผ่านข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ โหมด EV ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบและควบคุมข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับ EV ทั้งหมดได้ในโหมดเดียว โดยผู้ขับขี่สามารถแก้ไขและกําหนดค่าอินเทอร์เฟซในสไตล์วิดเจ็ตได้อย่างอิสระตามต้องการ
รถยนต์รุ่น Kia EV9 มาพร้อมตัวเลือกระบบส่งกําลังไฟฟ้ามากมายตามมาตรฐาน Electric Global Modular Platform (E-GMP) และใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นที่ 4 ของเกีย โดยมีการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 99.8 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ทั้งในรุ่น Kia EV9 Earth Long Range และในรุ่น Kia EV9 GT-Line AWD โดยในรุ่น Kia EV9 Earth Long Range ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 149.5 กิโลวัตต์ / 350 นิวตันเมตร ทําให้ตัวรถสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม.ในเวลา 9.4 วินาที
ส่วนรุ่น Kia EV9 GT-Line AWD มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ให้กําลังรวมถึง 282.6 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวม 700 นิวตันเมตร โดยการผสมผสานที่ทรงพลังนี้ช่วยให้เอสยูวีรุ่นนี้สามารถพุ่งทะยานขึ้นจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.3 วินาที
นอกจากนี้ Kia EV9 ยังมอบความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการใช้งานด้วยระยะทางจากพลังงานไฟฟ้า สูงสุดถึง 680 กิโลเมตร3 ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC ซึ่งในการชาร์จแบบรวดเร็วพิเศษ (Ultra-fast Charge) 350 กิโลวัตต์ เป็นเวลา 24 นาที จะสามารถวิ่งได้เป็นระยะทางถึง 450 กิโลเมตร4 และที่สำคัญ Kia EV9 ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงมากมายซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากเกีย เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยของผู้โดยสาร อาทิ Blind-Spot Collision-Avoidance Assist (BCA), Lane Keeping Assist (LKA), Smart Cruise Control (SCC) with Stop & Go และ Forward Collision Avoidance Assist (FCA) with Junction Assist ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ในสถานการณ์ที่อาจเกิดอันตรายได้ นอกจากนี้ Kia EV9 ยังมอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ ด้วยฟีเจอร์พิเศษต่างๆ เช่น Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance (RCCA) และ Parking Collision-Avoidance Assist (PCA)
รถยนต์เอสยูวีรุ่น Kia EV9 มีให้เลือกใน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Kia EV9 Earth Long Range ราคา 3,499,000 บาท และ Kia EV9 GT-Line AWD ราคา 3,899,000 บาท โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมการรับประกันคุณภาพยาวนาน 7 ปี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ระยะเวลา 7 ปี รวมถึงฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรงและค่าอะไหล่) ตลอด 7 ปี พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี สําหรับลูกค้ากลุ่มแรกที่จอง Kia EV9 GT-Line AWD ในเดือนมีนาคม บริษัทฯ จะเริ่มทำการส่งมอบรถยนต์ภายในเดือนเมษายน 2567 และสําหรับลูกค้ากลุ่มแรกที่จอง Kia EV9 Earth Long Range บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะส่งมอบรถยนต์ได้ภายในเดือนมิถุนายน 2567 เป็นต้นไป สําหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียด รวมถึงลงทะเบียนทดลองขับได้ที่บูธเกีย ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ได้ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม ถึง 7 เมษายนนี้
• ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ (ต้นงวด) 1.79% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระนาน 48 เดือน1
• ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. ระยะเวลา 2 ปี2
• ฟรี อุปกรณ์ Kia Home Charger 1 ชุด และฟรี ค่าติดตั้ง Kia Home Charger ให้กับลูกค้า3
• ฟรี ค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรงและค่าอะไหล่) ตลอด 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร4
• การรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร5
• บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง6
• การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร7