บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์อเนกประสงค์ SUV รุ่น “โคโรลล่า ครอส” ครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทยเมื่อปี 2563 นับตั้งแต่วันนั้น โคโรลล่า ครอส ถือเป็นรถรุ่นที่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมจากลูกค้าคนไทยมาตลอดจนมียอดสะสม 71,160 คัน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2563 ถึงเดือนธันวาคม ปี 2566
ล่าสุดโตโยต้า ได้ปรับปรุง ปรับโฉม ให้กับ โคโรลล่า ครอส ใหม่ในทุกรุ่นย่อยและวางเป้าหมายการขายไว้ที่ 1,500 ต่อเดือน โดยหวังว่ารุ่นปรับโฉมนี้จะสามารถตอบรูปแบบการใช้ชีวิตของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายซึ่งเป็น “ผู้บริหารและครอบครัวรุ่นใหม่ ได้อย่างครบถ้วน
แต่ก่อนที่รายงานการทดลองขับให้ฟัง ให้อ่าน เรามาดูกันว่า โคโรลล่า ครอส โฉมไมเนอร์เชนจ์ มีการปรับอะไรบ้าง เริ่มจากเปลี่ยนกระจังหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Multi-dimensional ไร้กรอบคล้ายกับเลกซัส RX ให้ตัวรถดูกว้าง มีความทันสมัย ไฟหน้าแบบ LED Crystalized Headlamp พร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ล้ำสมัย ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยสีทูโทน
ภายในปรับเปลี่ยนให้ดูพรีเมียมขึ้น ด้วยสีแบบทูโทน มีทั้งหมด 2 สีคือ สีดำ และสีใหม่สีแดง ดาร์ก โรส (Dark Rose) ให้ความรู้สึกหรูหรา หลังคา พานอรามิก รูฟ (Panoramic Roof ) แบบเฟรมเลส (Frameless) ขนาดใหญ่ พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ ดูอัล โซน (Dual Zone) ) ปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา อิสระ หน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียดแบบ HD รองรับการเชื่อมต่อ แอปเปิล คาร์เพลย์ (Apple CarPlay) และแอนดรอยด์ ออโต้ (Android Auto) แบบไร้สาย และช่องต่อ USB Type-C 2 จุดสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ,เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ABH และสัญญาณเตือนกระระยะหน้า-หลัง ทั้งหมดถือเป็นการเพิ่มความคุ้มค่าน่าใช้มากยิ่งขึ้น แถมยังคงราคาจำหน่ายเท่าเดิมทุกรุ่นด้วย
ด้านความปลอดภัย รุ่น HEV ติดตั้งระบบ TOYOTA Safety Sense ที่มาพร้อมกับ Dynamic Reder Cruise Control แบบ All-speed ,ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน LTA ,ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS ,ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA ,ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB
กล้องมองรอบคัน PVM ให้ภาพชัดเจน มากับระบบ PKSB หรือ Parking Support Brake ที่นอกจากจะเตือนรถเคลื่อนผ่านขณะจอดหรือถอยออกจากซองได้แล้ว ยังสามารถเบรกเองได้โดยอัตโนมัติหากพบความเสี่ยงที่ตัวรถจะเคลื่อนตัวชนกับวัตถุรอบคันทั้งหน้าและหลังได้อีกด้วย
โตโยต้า โคโรลล่า ครอส มากับเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร และเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร มีพละกำลังที่เพียงพอต่อการใช้งาน พร้อมอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 98 กรัม/กิโลเมตร ในรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด โครงสร้างตัวถังและช่วงล่างถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานตัวถัง TNGA ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวลและมั่นใจ
สำหรับรุ่นที่เราได้มีโอกาสทดสอบในทริปนี้ เป็นรุ่น HEV Premium Luxury ต้องบอกว่ายังคงรักษามาตรฐานการทำงานของระบบไฮบริดที่นุ่มนวลและราบรื่น จนเราแทบไม่สามารถแยกออกเลยว่าตัวรถอยู่ในโหมดขับขี่ด้วยไฟฟ้าหรือมีเครื่องยนต์เข้ามาเสริมการทำงานด้วย ถือเป็นข้อดีของโตโยต้าที่สามารถลดรอยต่อของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี
การเดินทางเราออกสตาร์ทจาก TOYOTA Alive มุ่งหน้าสู่หัวหิน โดยเส้นทางให้วิ่งขึ้นทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์ ออกพระราม 2 ต้องบอกว่าการจราจรค่อนข้างหนาแน่นแต่การขับขี่ไปอย่างสมูด คล่องตัว ขับสนุก รถทรงตัวดี พวงมาลัยแม่นขึ้น รถนิ่งจริง ๆ เข้าโค้งเนียนมาก ระยะเบรกดีขึ้น อัตราเร่งมาทันใจแบบขับสบายใจทั้งความเร็วสูงและความเร็วต่ำ
ช่วงล่างยังคงความดีงามตามฉบับรถที่ใช้แพล็ตฟอร์ม TNGA ซึ่งรุ่น Premium Luxury ที่ทีมงานขับบอกเลยนุ่มนวลแต่ยังคงเสถียรภาพและความนิ่งที่ความเร็วสูงได้ดี สำคัญอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยที่ 23.5 กม.ลิตร กับความเร็วที่ใช้เดินทางประมาณ 90-120 กม./ชม.
ส่วนห้องโดยสารของรุ่น HEV Premium Luxury พอเข้าไปนั่งบอกได้เลย กว้างขวางพอสมควร แม้ตัวถังไม่ใหญ่มาก พอเข้าไปนั่งแล้วไม่อึดอัด ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง สบายสบาย
ถึงบรรทัดนี้ขอบอกว่าใครที่ยังไม่ตกผลึกกับรถไฟฟ้า โคโรลล่า ครอส ไมเนอร์เชนจ์ ตัวนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดี ทั้งการขับขี่ ความประหยัด และชื่อชั้น โตโยต้า หายห่วงเรื่องการบริการหลังขาย ที่สำคัญออปชั่นเพิ่มแต่เราคาเท่าเดิม
