xs
xsm
sm
md
lg

ทริป ปล่อยพลัง“ไฮลักซ์ รีโว่” ขน 4X4 ลุยเส้นทางออฟโรด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดศักราชใหม่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดกิจกรรม “ไฮลักซ์ รีโว่ ออฟโรด เพรส ทริป เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมาบนเส้นทางกรุงเทพ-เขาใหญ่ โดยให้วิ่งเส้นทางธรรมดาและเตรียมเส้นทางวิ่งบนเขาแผงม้าเพื่อทดลองขับบนถนนออฟโรด

กิจกรรมนี้เพื่อตอกย้ำว่า “ไฮลักซ์ รีโว่” ยังคงเป็นผู้นำในตลาดรถกระบะ 4X4 ด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50 % จึงมั่นใจในจุดแข็ง ทั้งเรื่องเครื่องยนต์ สมรรถนะการขับขี่ทั้งออนโรดและออฟโรด ไม่เป็นรองใครแน่นอน


ปัจจุบันนี้ ไฮลักซ์ รีโว่ มีทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ 1.บี-แค็บ หรือกระบะตอนเดียว 2.ซี-แค็บ กระบะมีแค็บด้านหลัง 3.ดี-แค็บ กระบะ 4 ประตู 4.ร็อคโค่ แต่งหล่อขึ้นมาเล็กน้อย มีทั้งรุ่นมีแค็บ 2 ประตู และรุ่น 4 ประตู และ 5.รุ่นท็อป จีอาร์ สปอร์ต มาพร้อมชุดแต่งชุดใหญ่ไฟกะพริบจากโรงงาน

ไฮลักซ์ รีโว่ มากับ เครื่องยนต์ 1GD-Kai ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อ ชม. ในเวลา 10 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 7.8 ลิตรต่อ 100 กม. สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Sequential shift



ขบวน ไฮลักซ์ รีโว่ เริ่มสตาร์ที่ โตโยต้า Alive มุ่งหน้าสู่เขาแผงม้าเพื่อทดสอบบนเส้นทางออฟโรดที่จัดเตรียมให้สื่อมวลชนลอง ในช่วงแรกขับอยู่บนถนนออนโรด ต้องบอกว่าอัตราเร่งดีขึ้นกว่าเดิม เร่งแซงแบบ ชิล ชิล กดมากดมา ทั้งนี้โตโยต้าเครมว่าได้ใส่เทอร์โบใหม่ หัวฉีดใหม่ เรื่องนี้เลยหายห่วง บวกกับช่วงล่างใหม่ด้วยจากเดิมใช้แหนบ 5 เปลี่ยนเป็น 3 ทำให้รู้สึกเหมือนนั่งรถ SUV ฟิลลิ่ง ต่างจากการนั่งรถกระบะแบบเดิม ๆ นุ่มและหนึบ มีบางช่วงขับเพลินรถออกนอกเลนนิดหน่อย ระบบ LDA ที่มีหน้าที่ตรวจสอบเลนทั้งสองข้างจะดึงพวงมาลัยกลับโดยอัตโนมัติพร้อมสัญญาณเตือนเล่นเอาทั้งคนขับและผู้โดยสารตกใจพอสมควรของการกระชากจากพวงมาลัย แต่ถ้าชินก็ถือเป็นเรื่องดีเพราะมันเป็นเรื่องของความปลอดภัย


สำหรับเส้นทางทดสอบอย่างที่บอกมีทั้ง ออนโรดและออฟโรด โดยเฉพาะอย่างหลังทริปนี้เน้นเป็นพิเศษ เพราะโตโยต้าได้เตรียมสถานีเพื่อทดลองระบบไว้ 3 จุด ณ เขาแผงม้า คือ จุด A Function 4x4 (4-Hi) ,จุด B Function 4x4 (4-LO) และ Walking Speed และจุด C Function 4X4 , HAC (Hill-start Assist Control ) –DAC (Downhill Assist Control)


เส้นทางออฟโรด ขบวนเราขับลุยขึ้นไปบนเขาแผงม้า ซึ่งช่วงนี้ต้นไม้ข้างทางค่อนข้างแห้งแล้งเลยทำให้ถนนเต็มไปด้วยฝุ่นแม้จะขับกันแบบเบามือแล้วก็ตาม และมีบางช่วงถนนค่อนข้างขรุขระ เลยได้ทดสอบ ระบบ VFC หรือระบบแปรผันน้ำหนักพวงมาลัยตามความเร็ว ทำให้การขับขี่ในระดับความเร็วไม่สูงมากนักสามารถควบคุมพวงมาลัยได้ง่ายขึ้น รวมถึงขึ้นเนินลาดชัน ระบบ HAC จะเข้ามาช่วยเมื่อเราเหยียบเบรกและปล่อยเบรก ระบบจะหยุดรถไว้ให้ 3 นาที เพื่อให้มีเวลาเหยียบคันเร่งขึ้นไปและระบบ DAC จะช่วยในการลงทางลาดชันระบบสั่งเบรกให้ทำงานขณะลงทางลาดชันเพื่อป้องกันการลื่นไถล ที่สำคัญหน้าจอตรงกลางของหน้าปัดจะมีแสดงสถานะของล้อหน้าบอกเพื่อให้เรารู้องศาของล้อเมื่อขับในทางที่เรามองไม่สะดวกหน้าจอตรงนี้จะช่วยให้เรามองเห็นขับง่ายขึ้น


ซึ่งการขับบนเส้นทาง 3 จุด ระบบการทำงาน 4X4 ของไฮลักซ์ รีโว่ สามารถเปิดปิดระบบเลือกใช้ระหว่างการขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ เพื่อให้รถผ่านไปได้อย่างง่ายดายในแต่ละจุด แต่ก่อนที่จะเปลี่ยนเราจะต้องหยุดรถ เข้าเกียร์ N พวงมาลัยตั้งตรงถึงจะหมุนไปเลือกว่าจะใช้ระบบ H2 -H4 หรือ 4Lได้ ที่สำคัญชุดเฟืองท้ายแบบเปิดของรีโว่ จะช่วยให้เครื่องยนต์ส่งกำลังได้เต็ม 100 % บวกกับช่วงล่างใหม่อย่างที่กล่าวข้างต้น เลยมีจุดเด่นด้านความทนทาน รับน้ำหนักได้ดี และเกาะถนน แม้ว่าจะไม่นุ่มนวลเท่าแบบคอยล์สปริง แต่รีโว่พยายามปรับไม่ให้แข็งจนเกินไป เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในเมือง


จากการที่ได้ทดสอบ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ มาทั้งแบบออนโรด และออฟโรด ทั้งเป็นผู้ขับขี่และผู้โดยสาร สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือช่วงล่างที่ถูกปรับจูนมาใหม่ดีขึ้นมาก นั่งแล้วสบายกว่าเดิม พวงมาลัยน้ำหนักกำลังดี ส่วนเครื่องยนต์ที่ถูกเพิ่มแรงม้าเข้าไปส่งให้อัตราเร่งมาอย่างต่อเนื่อง ทันใจกว่าเดิม ด้วยเทอร์โบลูกใหม่และหัวฉีดใหม่ สรุปเลยว่าน่าใช้สุดๆ

ส่วนเส้นทางออฟโรด ขึ้นเขา ลงเขาหลายลูกอยู่บนเขาแผงม้า ไฮลักซ์ รีโว่ ไปได้สบาย ๆ แถมการใช้งานบรรทุกก็หายห่วง ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับสายลุย


ที่สำคัญโตโยต้าได้ใส่ระบบความปลอดภัยมาให้ด้วย เรียกว่า “Toyota Safety Sense” อาทิระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System),ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control), ระบบการควบคุมการทรงตัว VSC ,ระบบเสริมแรงเบรก BA ,ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ,ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC ,ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC น่าจะเหมาะกับกลุ่มเกษตรกรที่ต้องการใช้งานหนัก ใช้งานที่ลาดชัน


สำหรับการจัดจำหน่ายไฮลักซ์ รีโว่ ล่าสุด แบ่งเป็น Hilux REVO GR Sport Hi-Floor 4×4 มี 1 รุ่น ราคา 1,324,000 บาท Hilux REVO GR Sport Lo-Floor มี 1 รุ่น ราคา 889,000 บาท Hilux REVO Rocco มี 4 รุ่น ราคา 971,000-1,281,000 บาท Hilux REVO Prerunner  Hi-floor 4×4 มี 5 รุ่น ราคา 904,000-1,207,000 บาท Hilux REVO Hi-Floor Pre-Runner มี 10 รุ่น ราคา 740,000-1,032,000 บาท Hilux REVO Z-Edition มี 8 รุ่น ราคา 629,000-805,000 บาท Hilux REVO Standard Cab มี 8 รุ่น ราคา 554,000-766,000 บาท




























กำลังโหลดความคิดเห็น