ฮุนได เตรียมเดินหน้าแบรนด์รถไฟฟ้า "IONIQ" (ไอออนิค) บุกตลาดไทยเต็มสูบ ประเดิมส่ง "IONIQ 5" เทียบชั้นรถยนต์ไฟฟ้าจากยุโรปและอเมริกา พร้อมดันไทยเป็นตลาดหลักของภูมิภาค เพื่อให้บริการและนวัตกรรมยานยนต์ต่างๆ ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม
ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย (HMT) ชูแคมเปญ "Thailand Meets IONIQ" เตรียมทำตลาดแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า "IONIQ" จากฮุนไดอย่างเต็มรูปแบบในไทยภายในเดือนพฤศจิกายน 2566 นี้ พร้อมตอกย้ำความเชื่อมั่น หลังบริษัทแม่จากเกาหลีใต้เข้ามาบริหารแบรนด์ฮุนไดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ทั้งยังมั่นใจในศักยภาพของไทย ด้วยการตั้งเป้าให้เป็นตลาดหลักของภูมิภาค
IONIQ 5 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ทำตลาดในไทยภายใต้การบริหารของ ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย โดยรถรุ่นดังกล่าวได้รับการพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม Electric-Global Modular Platform (E-GMP) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ บนเรือนร่างสไตล์แฮทช์แบ็ก 5 ประตู พร้อมความยาวฐานล้อถึง 3,000 มม. และใช้เทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่แบบ "อัลตร้าฟาสต์" รองรับแรงดันไฟสูงสุด 400 โวลต์ และ 800 โวลต์
IONIQ 5 ในตลาดโลกมีให้เลือกทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง และมอเตอร์คู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยรุ่นมอเตอร์คู่จะถูกติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังสูงสุด 301 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 605 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 5.2 วินาที
ขณะที่แบตเตอรี่มีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ ขนาด 58 กิโลวัตต์ชั่วโมง และ 72.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยรุ่นมอเตอร์เดี่ยวพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 72.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง จะมีระยะทางขับขี่สูงสุดอยู่ที่ 470 - 480 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มแต่ละครั้ง (ตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP) รองรับการชาร์จด่วนด้วยกำลังไฟสูงสุด 350 กิโลวัตต์ ใช้ระยะเวลาชาร์จจาก 0-80% ราว 18 นาทีเท่านั้น
ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งเรียบง่ายตามฉบับรถยนต์ไฟฟ้า มาพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 12 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ววางต่อเนื่องกัน เพิ่มเติมด้วยระบบ AR-HUD ที่สามารถแสดงข้อมูลการขับขี่แบบเสมือนจริงบนกระจกบังลมหน้าได้ อีกทั้งยังมีการติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ Highway Driving Assist 2 (HDA 2) และระบบความปลอดภัยขั้นสูง Hyundai SmartSense
ทั้งนี้ ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย ยังได้ตอกย้ำวิสัยทัศน์ “ความก้าวหน้าเพื่อมวลมนุษยชาติ (Progress for Humanity)” ซึ่งเป็นปรัชญาการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อให้เกิดโซลูชันแห่งอนาคตที่ยั่งยืน โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการใช้พลังงานไฟฟ้า ภายใต้กลยุทธ์ปี 2025
