ฮิโรชิม่า – มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยรายละเอียดถึงแผนงานจัดแสดงรถยนต์มาสด้า ภายในงาน Japan Mobility Show 2023*1 โดยจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2566 ณ Tokyo Big Sight อาริอาเกะ เขตโคโต กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งงานในครั้งนี้ สำหรับบูธมาสด้าจะจัดขึ้นภายใต้ธีม “The Future created by the ‘love of Cars’“ หรือ “อนาคตที่สร้างขึ้นจากความรักในรถยนต์” โดยได้รับการออกแบบเพื่อถ่ายทอดความมุ่งมั่นของมาสด้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ที่รักในการขับขี่และรักในรถยนต์ รถยนต์มาสด้าที่จะนำมาจัดแสดงภายในงานฯ นั้นล้วนเป็นรถยนต์ได้รับการถ่ายทอดปรัชญาของมาสด้าในการยกระดับประสบการณ์ความสุขในทุกการขับขี่ และการใช้ชีวิตประจำวันในทุกๆ ด้านให้กับลูกค้าทุกคน
สำหรับบูธมาสด้าในครั้งนี้ จะเน้นการจัดแสดงรถสปอร์ตโรดสเตอร์ Mazda MX-5 ซึ่งเป็นแบรนด์ไอคอน และมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยได้นำ Mazda MX-5 มาจัดแสดงหลากหลายรุ่น ได้แก่ Mazda MX-5 เจเนอเรชั่นแรก ซึ่งเป็นรถที่เปรียบเสมือนต้นแบบสัญลักษณ์แห่งความยั่งยืนของมาสด้า ที่ถ่ายทอดปรัชญาความสนุกสนานในการขับขี่ Mazda MX-5 ขนาดสองในสามของรถคันจริงเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่แบบจำลองให้กับเด็กๆ Mazda MX-5 เจเนอเรชั่นที่ 4 รุ่นล่าสุด ที่ได้รับการพัฒนาอัพเกรดครั้งใหญ่ และ Mazda MX-5 SeDv*2 ที่สามารถควบคุมการขับขี่ได้ด้วยมือของผู้ขับเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้มาสด้ายังได้นำรถต้นแบบที่ได้รับการดีไซน์ให้เป็นดั่งสัญลักษณ์ของธีมบูธมาสด้ามาเปิดตัวครั้งแรกในงานนี้ซึ่งเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของโลกหรือ World Premier ภายในงานนี้
นอกจากนั้นแล้ว มาสด้ายังได้เข้าร่วมโปรแกรมที่จัดขึ้นโดยสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น ด้วยการจัดแสดงรถยนต์ Mazda2 Bio Concept ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไบโอดีเซล เจเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งอยู่ในส่วนพื้นที่จัดแสดงมอเตอร์สปอร์ตด้วยเช่นกัน
มาสด้ายังเข้าร่วมกับ “Out of KidZania” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ KidZania หรือ ศูนย์การเรียนรู้และความบันเทิงยอดนิยม ที่มุ่งเน้นให้เด็กๆ ได้มีโอกาสทดลองสวมบทบาทการทำงานในแต่ละอาชีพ โดยมาสด้าจะเปิดโอกาสให้เด็กๆ ที่เข้าเยี่ยมชมภายในงานได้ทดลองสวมบทบาทอาชีพในงานของมาสด้า ได้แก่ “Sand-casting” ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา และ “Stamping operator” ที่ออกแบบให้เหมาะสำหรับเด็กๆ ในชั้นก่อนวัยเรียน ซึ่งทั้ง 2 กิจกรรม จะจัดขึ้นในโรงงานมาสด้าแบบจำลอง ซึ่งจะมอบประสบการณ์ความสุขให้กับเด็กๆ ในการเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตรถยนต์
มาสด้าจะยังคงเดินหน้าในการส่งมอบ “ความสุขในการขับขี่" ต่อไป ภายใต้คุณค่าหลักที่ให้ความสำคัญกับการมุ่งเน้น "มนุษย์เป็นศูนย์กลาง" และมุ่งมั่นที่จะส่งมอบ "ความสุขในการดำเนินชีวิต" ด้วยการสร้างสรรค์ประสบการณ์ความสุขให้กับชีวิตประจำวันของลูกค้าทุกคน