Arun Plus – KYMCO ประกาศจัดตั้งบริษัทร่วมทุน Aionex เปิดตัวธุรกิจจำหน่ายและให้บริการจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร เพื่อผลิตและจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้า KYMCO แบรนด์สากลระดับโลกซึ่งมียอดจำหน่ายใน 100 ประเทศ อันดับ 1 ในไต้หวัน อันดับ 3 ในยุโรปและแอฟริกาใต้ ที่โดดเด่นทั้งดีไซน์และนวัตกรรมการขับขี่ที่ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของผู้ขับขี่ทุกกลุ่มเป้าหมาย และสถานีสลับแบตเตอรี่สำหรับจักรยานยนต์ไฟฟ้า ionex (ionex Energy Station) ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อผู้ขับขี่ พร้อมบริการหลังการขายจากทีมงานมืออาชีพเพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้ทุกการเดินทางไม่มีสะดุด
บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (Arun Plus) และ บริษัท Kwang Yang Motor Company Limited (KYMCO) และ บริษัท KYMCO CAPITAL PRIVATE EQUITY MANAGEMENT Company Limited (KC บริษัทย่อยที่ KYMCO ถือหุ้น) ลงนามสัญญาร่วมทุนเพื่อจัดตั้ง บริษัท เอไอออเนกซ์ จำกัด (Aionex) บริษัทร่วมทุนที่ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่าย และผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงให้บริการสถานีสลับแบตเตอรี่สำหรับจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสกับนวัตกรรมการขับขี่ที่ทันสมัยภายใต้แบรนด์ KYMCO แบรนด์สากลระดับโลก ซึ่ง KYMCO เป็นผู้ผลิตจักรยานยนต์ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจจักรยานยนต์มากว่า 60 ปี และมีผลิตภัณฑ์จักรยานยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรูปแบบที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ขับขี่ทุกกลุ่ม ด้วยกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าตั้งแต่ 0.8 กิโลวัตต์ ถึง 8.3 กิโลวัตต์ จึงสามารถสร้างความเพลิดเพลินในการขับขี่และการใช้งานที่หลากหลายกว่าเดิม และยังมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า ทั้งนี้ การร่วมทุนดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อเงื่อนไขบังคับก่อนตามสัญญาร่วมทุนสำเร็จครบถ้วน ซึ่งรวมถึงการได้รับอนุมัติ ความยินยอม หรือการผ่อนผันที่จำเป็นสำหรับการร่วมทุนดังกล่าวจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องสำเร็จครบถ้วน
นายเอกชัย ยิ้มสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อรุณ พลัส จำกัดกล่าวว่า “Aionex เกิดขึ้นจากการพัฒนาธุรกิจร่วมกันระหว่าง Arun Plus กับ KYMCO Group ที่เล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจในตลาดจักรยานยนต์ของประเทศไทยซึ่งมีผู้ใช้งานมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเมื่อเทียบกับสัดส่วนครัวเรือนภายในประเทศและมีจักรยานยนต์สะสมในประเทศประมาณ 22 ล้านคัน ตัวเลขสถิติเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อการใช้งานจักรยานยนต์ ซึ่งจักรยานยนต์ไฟฟ้าเป็นนวัตกรรมการขับขี่สมัยใหม่ที่ Arun Plus เล็งเห็นว่าสามารถเข้ามาสร้างความแตกต่างในตลาดจักรยานยนต์ของบ้านเราได้ จึงได้ร่วมมือกับ KYMCO Group ผู้ผลิตแบรนด์จักรยานยนต์ระดับโลก ซึ่งมีจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ทั้งพฤติกรรมของผู้ขับขี่ไทยในปัจจุบันและช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน อีกทั้งจักรยานยนต์ของ KYMCO มีความเป็น state of art ที่โดดเด่นเพราะมีพื้นฐานการออกแบบมาจากรถจักรยานยนต์เครื่องยนต์สันดาป จึงสามารถให้บริการบำรุงรักษารถได้อย่างต่อเนื่องผ่านเครือข่ายจุดซ่อมบำรุงของกลุ่ม ปตท. และพันธมิตร
นอกเหนือจากจักรยานยนต์ไฟฟ้า KYMCO แล้ว Aionex ยังมีแผนติดตั้งสถานีสลับแบตเตอรี่สำหรับจักรยานยนต์ไฟฟ้า ionex จำนวน 300 สถานีภายในปี 2568 ทั้งภายในและภายนอกพื้นที่บริเวณสถานีน้ำมัน ปตท. โดยผู้ขับขี่จะได้รับประสบการณ์การใช้บริการสลับแบตเตอรี่แบบไม่ต้องรอชาร์จ และใช้เวลาสลับแบตเตอรี่เพียงไม่กี่วินาที ซึ่งบริการดังกล่าวมาพร้อมกับ Smart Application ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ในการค้นหาและเข้าใช้งานสถานีสลับแบตเตอรี่ เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสกับนวัตกรรมการขับขี่สมัยใหม่เช่นเดียวกับที่จำหน่ายอยู่ในหลากหลายประเทศทั่วโลก
Aionex จะทำการส่งต่อองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีจาก KYMCO มาสู่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการภายในประเทศ และจะทำการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่ใหม่ๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมยกระดับให้ประเทศไทยมีศักยภาพและองค์ความรู้ในระดับสากล โดยจะเน้นการเลือกใช้ชิ้นส่วนและอะไหล่ที่ผลิตได้โดยผู้ประกอบการในประเทศ เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้มีความมั่นคงและเปี่ยมไปด้วยศักยภาพที่ทัดเทียมในระดับสากล ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือความตั้งใจของ Arun Plus และ KYMCO Group ที่อยากผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียนในอนาคต” นายเอกชัยกล่าว
ทำไมจักรยานยนต์ไฟฟ้า KYMCO จึงครองใจคนไต้หวันและผู้ขับขี่ทั่วโลก
“New Move. New Experience. New Life. KYMCO Makes Mobility Achieve Every Journey Full of Happiness” คือคำอธิบายที่ KYMCO แบรนด์จักรยานยนต์ระดับโลกจากไต้หวันบอกเล่าถึงประสบการณ์ใหม่ที่ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสจากจักรยานยนต์ไฟฟ้า KYMCO ที่พร้อมส่งมอบนวัตกรรมการขับขี่อันทันสมัย สามารถตอบสนองต่อการใช้งานและความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันในราคาที่จับต้องได้ โดย KYMCO ยังเน้นการร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อสร้างจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอุดมคติสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการใช้งานเชิงพาณิชย์ จากประสบการณ์ในตลาดมอเตอร์ไซค์กว่า 60 ปี KYMCO ได้พัฒนาจักรยานยนต์ไฟฟ้ามาแล้วหลากหลายรุ่น มาทำความรู้จักกับจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่เปิดตัวในปี 2023 กันให้มากขึ้น
i-One Fly ครบเครื่องเรื่องขับขี่ นุ่มนวลทุกท่วงท่า
“เงียบ ง่าย มีประสิทธิภาพ และประหยัดพลังงาน” คือนิยามของ i-One Fly จักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง มีจุดเด่นที่ความอึดด้วยกำลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่แบบคู่ (Dual-Battery) ทำให้สามารถวิ่งได้ไกลถึง 180 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง แฮนด์มอเตอร์ไซค์และวงล้อที่มีน้ำหนักเบาทำให้การหักเลี้ยวสามารถทำได้ง่ายดายและนุ่มนวลมากขึ้น ให้ความรู้สึกสบายในการขับขี่ โดยล้อรถยังถูกออกแบบมาให้สามารถป้องกันการเกาะตัวของน้ำและโคลนในวันฝนตก ทำให้สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายมากขึ้น มอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่ด้านข้างตัวรถแทนที่จะอยู่ภายในตัวถังทำให้สามารถทำความสะอาดและซ่อมบำรุงได้สะดวกขึ้น แต่ยังสามารถขับขี่ได้อย่างสะดวกไม่เกะกะ เนื่องจากรถรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้ส่งพลังการขับเคลื่อนได้โดยไม่ต้องใช้โซ่ (Chainless drive design) ทำให้เสียงเครื่องยนต์เงียบยิ่งกว่าปกติ และทำให้รถมีน้ำหนักเบายิ่งขึ้น ตัวเบาะรองนั่งเป็นผ้าฝ้ายคุณภาพสูง หนาแต่มีความนุ่ม ให้ความรู้สึกสบายเหมือนนั่งโซฟา ช่องวางของด้านหน้ารถขนาดใหญ่สามารถใส่ขวดเครื่องดื่มและโทรศัพท์มือถือไว้ในช่องเดียวกัน และความโดดเด่นอีกอย่างของรถรุ่นนี้คือดีไซน์และเทคโนโลยีที่ใส่มาแบบครบครันทั้งหน้าจอแสดงผลแบบ LED พร้อมช่องเสียบ USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ และความสามารถในถอยหลังรถได้ง่ายเพียงปุ่มเดียว (Smart Reversing One-Button Start) โดย i-One Fly มีคู่สีที่สามารถเลือกได้มากถึง 4 คู่สี พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งรถที่สามารถแต่งเติมเพิ่มได้ตามความต้องการ โดยชิ้นส่วนต่างๆ ของรถผลิตขึ้นจากพลาสติกแบบ ABS (ABS Material) จึงสามารถรีไซเคิลได้ ทำให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มีหัวใจรักษ์โลก
S7 อิสระของการขับขี่แบบไร้ขอบเขต
หากคุณเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยวและรักการเดินทาง S7 เป็นจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์นักเดินทางเป็นอย่างมาก เพราะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ช่วยให้สามารถเดินทางไกลได้ถึง 155 กิโลเมตรด้วยการชาร์จไฟเพียงหนึ่งครั้ง พร้อมระบบขับขี่ไร้กุญแจ และไฟหน้า LED แบบ Fisheye เสริมด้วย ABS Dual Disc brake ทั้งล้อหน้าและล้อหลังเพิ่มความปลอดภัย และมีลูกสูบเบรก 3 ตัวช่วยยกระดับความปลอดภัยถึงขีดสุด ช่วยเสริมการควบคุมในขณะเร่งเครื่องเพื่อไต่ขึ้นพื้นที่สูงชันให้เสถียรยิ่งขึ้น นอกจากนี้ S7 ยังมีระบบ Fast POWER+ ช่วยจุดขุมพลังเพิ่มอัตราเร่งให้รถเพียงสัมผัสเดียวสำหรับเพิ่มพลังให้การขับไต่ขึ้นที่สูงเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น โดยมีตัวควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่ช่วยจัดการการจ่ายพลังงานให้แก่เครื่องยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองทุกรูปแบบการขับขี่ด้วยนวัตกรรมประหยัดพลังงาน มีที่เก็บของใต้เบาะความจุถึง 24 ลิตรสามารถจุของได้มากขึ้น มาพร้อมมือจับท้ายรถแบบเพรียวลม และหน้าจอแสดงผลแบบ LED มีสีให้เลือกสรรตามไลฟ์สไตล์ถึง 4 สี ได้แก่ Flat Black, Flat White, Gaming Blue และ Graphite Green
S7R จุดลงตัวระหว่างสมรรถนะกับสุนทรียการออกแบบ
จุดระเบิดขุมพลังแห่งการขับขี่ไปกับ S7R จักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นพรีเมียมที่ถูกออกแบบเพื่อคนที่มีไลฟ์สไตล์ชอบความเร็ว เน้นความแรง แต่รักความแตกต่าง ด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 2 สปีด ส่งกำลังแบบ Electronic Torque Shift ทำให้สามารถเพิ่มอัตราเร่งได้อย่างนุ่มนวลแบบรถในระดับ First-Class สามารถเร่งความเร็วจาก 0-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.3 วินาที พร้อมขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงถึง 8.3 กิโลวัตต์ ที่มีแรงบิดสูงสุดที่ 25.2 นิวตันเมตร ทำความเร็วได้สูงถึง 98 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแบตเตอรี่ถึง 2 ลูก ช่วยให้สามารถขับขี่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น แต่เสริมความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยระบบเบรก The Bosch 10.1 ABS ที่มี Disc Brake ล้อหน้า 220 มิลลิเมตรพร้อมลูกสูบเบรกคู่ และ Disc Brake ล้อหลัง 180 มิลลิเมตร พร้อมคาริเปอร์เบรกที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้เหนือกว่ามาตรฐาน และมีระบบไฟเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุการณ์เบรกกระทันหัน ช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุไม่คาดฝัน จุดเด่นอีกข้อของ S7R คือเทคโนโลยีระบบเรียนรู้การขับขี่อัจฉริยะ (Smart Learning System) ที่จดจำและเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ขับขี่เพื่อคำนวณอัตราการใช้พลังงาน และประเมินระยะทางที่สามารถขี่ต่อไปได้เมื่อเทียบกับพลังงานคงเหลือ โดยโมเดลดังกล่าวมาพร้อมระบบ Keyless ช่วยให้เริ่มต้นขับขี่ได้โดยไม่ต้องเสียบกุญแจ S7R มีสีให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Extremely Brilliant Green, Dark Blue Green, Space Gray และ Flat Black (Special Version)
KYMCO ยังมีจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่น่าสนใจอีกมากที่รอให้ผู้ขับขี่เข้าไปสัมผัส คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่า Aionex จะนำจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใดมาให้คนไทยได้สัมผัสกันบ้าง แต่เชื่อว่าไม่นานเกินรอ คนไทยจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เหมือนกับผู้ขับขี่ทั่วโลกที่ได้สัมผัสกับนวัตกรรมการขับขี่ชั้นนำจาก KYMCO มาแล้ว