ฮอนด้า N-BOX เจเนอเรชันที่ 3 ใหม่ ถูกเผยโฉมผ่านทางเว็บไซต์ฮอนด้าประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่การเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบจะมีขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
"N-BOX" ถูกพัฒนาให้เป็นรถยนต์ประเภทอีโคคาร์ (Kei-car) ขนาดเล็กของประเทศญี่ปุ่น โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์การออกแบบทรงเหลี่ยมเพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารให้กว้างที่สุด มีให้เลือก 2 รุ่นหลัก ได้แก่ N-BOX และ N-BOX Custom โดยในรุ่น N-BOX มาพร้อมไฟหน้าแบบแอลอีดีที่ส่องสว่างเป็นรูปวงกลม สื่อถึงความเรียบง่ายและเป็นมิตรกับผู้คน เสริมด้วยกระจังหน้าที่ตกแต่งด้วยช่องระบายอากาศรูปวงกลมขนาดเล็กเรียงรายล้อมรอบโลโก้ H-Mark
ขณะที่รุ่น N-BOX Custom ถูกตกแต่งเน้นความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้วยไฟหน้าแบบ Direct-projection LED ที่ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกของฮอนด้า รับกับกระจังหน้าสีดำแบบ 3 มิติ พร้อมแถบไฟแอลอีดีด้านบนที่เชื่อมไฟหน้าทั้งสองข้างเข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังสามารถเลือกตัวถังสีทูโทนหลังคาดำจากโรงงานได้
ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้มีกระจกหน้าต่างขนาดใหญ่รอบด้าน ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยและลดจุดอับสายตาเพื่อความปลอดภัย ติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT ความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว สามารถแสดงข้อมูลการทำงานของระบบ Honda SENSING อีกทั้งยังมีการเพิ่มเติมวัสดุซับเสียงบริเวณเพดานและพื้นห้องโดยสารเพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ฮอนด้ายังได้ติดตั้งระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT เวอร์ชันล่าสุดที่สามารถสั่งเปิด-ปิดการทำงานของระบบปรับอากาศ, เปิด-ปิดประตูสไลด์ไฟฟ้า, ค้นหาตำแหน่งรถ, บริการโทรออกฉุกเฉิน รวมถึงมีฟังก์ชันกุญแจดิจิทัลที่สามารถใช้สมาร์ทโฟนแทนกุญแจรถได้
ลูกค้ายังสามารถเลือกติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว จาก Gathers ที่พัฒนาขึ้นสำหรับรุ่น N-BOX โดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากจะทำงานคู่กับระบบ Honda CONNECT ยังมีระบบนำทาง, ระบบแสดงภาพจากกล้องมองหลัง และเสาอากาศรับสัญญาณทีวีดิจิทัลอีกด้วย
ฮอนด้า N-BOX เจเนอเรชันที่ 3 ยังถูกติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูง Honda SENSING เป็นอุปกรณ์มาตรฐานซึ่งถูกเพิ่มเติมด้วย 2 ฟังก์ชันใหม่ ได้แก่ ระบบช่วยยับยั้งการเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงโดยไม่ตั้งใจ (Sudden acceleration suppression function) และระบบช่วยเบรกหากเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงขณะมีสิ่งกีดขวาง (Close-range collision mitigation brake) เช่น กำแพง ฯลฯ