สโฟวล์ท SVOLT ขยายการลงทุนทุ่ม 1,250 ล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในไทย กำลังผลิต 60,000 ชุด/ปี รองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ได้ “GWM” และ “Neta” เป็นลูกค้ากลุ่มแรก
หยาง หงซิน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สโฟวล์ท เปิดเผยว่า สโฟวล์ทในประเทศไทย ดำเนินงานผ่านบริษัทในเครือภายใต้ บริษัท สโฟวล์ท เอเนอจี้ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ที่ดูแลการดำเนินงานของโรงงาน โดยเน้นความต้องการในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล
ทั้งนี้โรงงานของ สโฟวล์ท ประเทศไทย มีกำลังการผลิต 60,000 ชุดต่อปี แบ่งสายการผลิตไว้ 2 สาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าภายในประเทศ ได้แก่ สายแรกการผลิตโมดูลสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) ส่วนสายที่สองจะผลิตโมดูลและชุดอุปกรณ์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) โดยทั้งสองสายการผลิตประกอบด้วยเซลล์แบตเตอรี่ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะ ทั้งเซลล์แบบ Soft Pouch และเซลล์แบบ Prismatic
“มูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 1,250 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นการผลิตได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 โดยมีลูกค้า 2 รายแรกคือ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (รถยนต์แบรนด์ Haval และ Ora) และ โฮซอน ออโต้ (รถยนต์แบรนด์ Neta) ซึ่งพร้อมเปิดรับลูกค้าจากทุกค่ายรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นสัญชาติใดก็ตาม” หยางกล่าว
ส่วนแผนการจัดการแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพจะมีการตั้งโรงงานรีไซเคิลแบตเตอรี่ในอีก 3 ปีข้างหน้า เนื่องจากอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ส่วนใหญ่จะครอบคลุมราว 8 ปี ในรถยนต์ และ 3 ปีในรถจักรยานยนต์ ดังนั้นจึงยังไม่จำเป็นต้องตั้งโรงงานรีไซเคิลในเวลานี้
หยาง หงซิน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สโฟวล์ท เปิดเผยว่า สโฟวล์ทในประเทศไทย ดำเนินงานผ่านบริษัทในเครือภายใต้ บริษัท สโฟวล์ท เอเนอจี้ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ที่ดูแลการดำเนินงานของโรงงาน โดยเน้นความต้องการในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล
ทั้งนี้โรงงานของ สโฟวล์ท ประเทศไทย มีกำลังการผลิต 60,000 ชุดต่อปี แบ่งสายการผลิตไว้ 2 สาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าภายในประเทศ ได้แก่ สายแรกการผลิตโมดูลสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) ส่วนสายที่สองจะผลิตโมดูลและชุดอุปกรณ์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) โดยทั้งสองสายการผลิตประกอบด้วยเซลล์แบตเตอรี่ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะ ทั้งเซลล์แบบ Soft Pouch และเซลล์แบบ Prismatic
“มูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 1,250 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นการผลิตได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 โดยมีลูกค้า 2 รายแรกคือ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (รถยนต์แบรนด์ Haval และ Ora) และ โฮซอน ออโต้ (รถยนต์แบรนด์ Neta) ซึ่งพร้อมเปิดรับลูกค้าจากทุกค่ายรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นสัญชาติใดก็ตาม” หยางกล่าว
ส่วนแผนการจัดการแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพจะมีการตั้งโรงงานรีไซเคิลแบตเตอรี่ในอีก 3 ปีข้างหน้า เนื่องจากอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ส่วนใหญ่จะครอบคลุมราว 8 ปี ในรถยนต์ และ 3 ปีในรถจักรยานยนต์ ดังนั้นจึงยังไม่จำเป็นต้องตั้งโรงงานรีไซเคิลในเวลานี้