มาสด้า ประเทศไทย เปิดตัว "มาสด้า2" โฉมไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ปรับดีไซน์เพิ่มความทันสมัย พร้อมรุ่นพิเศษอีก 2 รุ่น ทั้ง Rookie Drive และ Clap Pop เน้นความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ SKYACTIV เบนซิน 1.3 ลิตร และดีเซล 1.5 ลิตรเช่นเดิม
นายทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "มาสด้ามุ่งมั่นอย่างเต็มที่เพื่อส่งมอบคุณค่าให้กับผู้คนผ่านยนตรกรรมของเรา เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ความตื่นเต้นและความสนุกสนาน ซึ่งมาสด้า2 คือหนึ่งในรถยนต์ที่ถ่ายทอดประสบการณ์เหล่านี้ได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นรถรุ่นที่สร้างยอดขายให้กับมาสด้า หลังจากเปิดตัวมาพร้อมกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมันจนประสบความสำเร็ยจากอย่างต่อเนื่อง และยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 10% พร้อมทั้งยังถือเป็นโมเดลหลักที่ขับเคลื่อนธุรกิจของมาสด้าในประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ดังนั้นการเปิดตัว New Mazda2 ในวันนี้ คือการเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจของมาสด้า และเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า"
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "มาสด้าวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์เพื่อสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าไว้อย่างชัดเจน New Mazda2 จึงมาพร้อมแนวคิด “Express Your Identity เลือกต่างในแบบเรา” เพื่อมอบความสนุกอย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยความพิเศษของดีไซน์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์วัยรุ่นยุคใหม่เจเนอเรชั่น Z ด้วยการเป็นรถคันแรกที่สะท้อนให้เห็นถึงตัวตนและคุณค่าของผู้ขับขี่อย่างชัดเจน ผ่านการเลือกใช้สีและวัสดุเพื่อสะท้อนถึงคอนเซ็ปต์ใหม่และส่งมอบคุณค่าที่ตรงต่อความชื่นชอบที่แตกต่าง มีความสนุกและมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำแบบใคร โดยได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นตามแนวคิดการออกแบบ Kodo: Soul of Motion ด้วยเส้นสายที่เรียบง่าย แต่แฝงด้วยความโฉบเฉี่ยวปราดเปรียวทรงพลัง มุ่งเน้นดีไซน์ที่แตกต่างด้วยการผสมผสานของสีในแต่ละส่วนของรถเพื่อมอบความรู้สึกใหม่ทั้งดีไซน์ภายนอกและภายใน อาทิ กระจังหน้า ล้อหลังคา และกระจกมองข้าง เป็นต้น
มาสด้า2 ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อยมาตรฐาน ทั้งตัวถังแบบ 4 ประตู และ 5 ประตู พร้อมดีไซน์ที่มีให้เลือกทั้งแบบ Sport Design ตกแต่งเน้นความสปอร์ต และ New Wave Design ตกแต่งเน้นความมีชีวิตชีวา อีกทั้งยังเพิ่มทางเลือกด้วยรุ่นพิเศษอีก 2 รุ่น (เฉพาะตัวถังแบบ 5 ประตู) ได้แก่ รุ่น Rookie Drive และรุ่น Clap Pop เช่นเดียวกับเวอร์ชันญี่ปุ่น รวมเป็นทั้งสิ้น 7 รุ่นย่อย พร้อมราคาจำหน่าย ดังนี้
รุ่น 1.3 C ราคา 599,000 บาท
รุ่น 1.3 S ราคา 680,000 บาท
รุ่น 1.3 SP ราคา 730,000 บาท
รุ่น 1.5 XD ราคา 720,000 บาท
รุ่น 1.5 XDL ราคา 830,000 บาท
รุ่น 1.3 Rookie Drive Sports ราคา 662,000 บาท
รุ่น 1.3 Clap Pop Sports ราคา 657,000 บาท
มาสด้า2 แบบ Sport Design ถูกตกแต่งเน้นความสปอร์ตด้วยกันชนหน้าและกระจังหน้าแบบ Mesh Grille ดีไซน์ใหม่ เสริมความสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยกระจกมองข้างและหลังคาสีดำ พร้อมล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วดีไซน์ใหม่ ขณะที่ห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังสีดำสลับผ้า Grand Luxe Suede แบบสปอร์ต พร้อมกรอบช่องแอร์ตกแต่งด้วยสีแดงและเบาะนั่งเดินตะเข็บสีแดง
มาสด้า2 แบบ New Wave Design เน้นความมีชีวิตชีวาด้วยกันชนหน้าใหม่ กระจังหน้าใหม่ และล้อลายใหม่ เพิ่มความพิเศษด้วยแผงคอนโซลด้านในที่มีให้เลือกหลากสี ไม่ว่าจะเป็นสี Pure White, สี Mirror Black และสี Gross Light Blue จับคู่กับสีภายนอกและดีไซน์ของล้ออัลลอย ทั้งยังเลือกใช้ Bioplastic เป็นส่วนประกอบในการผลิตแผงคอนโซลเพื่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเลือกใช้ฟิล์มหลังคาทำจากวัสดุไวนิลที่ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เมื่อเทียบกับการเคลือบสีแบบทูโทน
มาสด้า2 รุ่นพิเศษ Rookie Drive ตกแต่งกระจังหน้าแบบใหม่ด้วยสีขาว พร้อมหลังคาขาวหรือดำขึ้นอยู่กับสีตัวถังภายนอก เสริมด้วยสีส้ม Racing Orange บริเวณสปอยเลอร์หลัง ชุดครอบกระจกมองข้าง คิ้วตกแต่งกันชนหน้า-หลัง และฝาครอบล้อ พร้อมชุดสติกเกอร์ตกแต่งดีไซน์พิเศษ
มาสด้า2 รุ่นพิเศษ Clap Pop เพิ่มความสปอร์ตด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมกระจกมองข้างและฝาครอบล้อสีขาว Ceramic Metallic กระจังหน้าสีขาวและหลังคาสีขาว พร้อมชุดสติกเกอร์ตกแต่งดีไซน์พิเศษ Clap Pop
มาสด้า2 ใหม่ ถูกติดตั้งหน้าจอสัมผัส Center Display ขนาด 7 นิ้ว ควบคุมผ่านปุ่ม Center Commander รองรับการเชื่อมต่อ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) รวมถึงติดตั้งเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมเมมโมรี่ 2 ตำแหน่ง และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control เป็นต้น
ขณะที่อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ ระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ, กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว, ระบบปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบหน่วงเวลา พร้อมฟังก์ชันตรวจจับน้ำฝนแบบอัตโนมัติ, พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและ Sport Paddle Shift, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, พนักพิงเบาะด้านหลังปรับพับแยก 60:40 และอื่นๆ
นอกจากนี้ มาสด้า2 ใหม่ ยังถูกติดตั้งระบบความปลอดภัย i-Activsense เป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ประกอบด้วย ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ Advanced SCBS (ทุกรุ่นย่อย), ระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP และ i-ELOOP (ทุกรุ่นย่อย), ระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus (ทุกรุ่นย่อย), ระบบกุญแจรีโมตอัจฉริยะ Smart Keyless Entry, กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 View Monitor, ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ HBC, ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC และระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA
ขณะที่ระบบความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HLA, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS, สัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน ESS, เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด, กุญแจนิรภัย Immobilizer และสัญญาณกันขโมย เป็นต้น
ด้านขุมพลังยังคงมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ความจุ 1.3 ลิตรกำลังสูงสุด 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตัน-เมตร รองรับน้ำมัน E20 ได้ และเครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D ความจุ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ทั้งคู่ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive แบบ 6 สปีด
ตัวถังของ Mazda2 2024 มีให้เลือกทั้งหมด 9 สี ได้แก่ สีแดง Soul Red Crystal, สีเทา Machine Gray, สีขาว Snowflake White Pearl, สีดำ Jet Black, สีบรอนซ์ Platinum Quartz, สีเทา Polymetal Gray, สีน้ำเงิน Deep Crystal Blue, สีฟ้า Air Stream Blue (สีใหม่) และสีเทา Aero Gray (สีใหม่)
ทั้งนี้ มาสด้ายังมอบข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัวด้วยข้อเสนอดอกเบี้ย 1.59% และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance นาน 1 ปี ลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อจองซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.mazda.co.th