xs
xsm
sm
md
lg

AAS เปิดรับจอง เบนท์ลีย์ รุ่นย่อยปี 2024 ราคา เริ่มต้นที่ 16.3 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด พร้อมเปิดรับคำสั่งจองเบนท์ลีย์รุ่นย่อยปี 2024 กับรูปโฉมใหม่ที่เน้นความหรูหราและความสะดวกสบายในรุ่น Azure พร้อมกับรุ่น S และรุ่น Speed ที่เน้นรูปลักษณ์ความสปอร์ตและสมรรถนะที่เหนือชั้น เจาะกลุ่มลูกค้ากับไลฟ์สไตล์หรูที่รักในความสะดวกสบายและใส่ใจสุขภาพ และผู้ที่ชื่นชอบในความสปอร์ตและต้องการสัมผัสกับสมรรถนะในการขับขี่ที่เหนือชั้น ผู้สนใจสามารถครอบครองเบนท์ลีย์รุ่นย่อยปี 2024 กับราคาเริ่มต้นที่ 16.3 ล้านบาท สำหรับรุ่น Flying Spur S Hybrid

โดย เอเอเอสฯ เปิดรับคำสั่งจอง 9 รุ่นย่อยใหม่ พร้อมราคาดังต่อไปนี้
รุ่น S ประกอบไปด้วย

•Flying Spur S Hybrid ราคาเริ่มต้น 16,300,000 บาท
•New Continental GT S V8 ราคาเริ่มต้น 22,400,000 บาท
•New Continental GTC S V8 ราคาเริ่มต้น 24,700,000 บาท

Continental GT Azure
รุ่น Azure ประกอบไปด้วย
• Flying Spur Azure Hybrid ราคาเริ่มต้น 16,900,000 บาท
• New Continental GT Azure V8 ราคาเริ่มต้น 23,900,000 บาท
• New Continental GTC Azure V8 ราคาเริ่มต้น 26,100,000 บาท


รุ่น Speed ประกอบไปด้วย
• Flying Spur Speed ราคาเริ่มต้น 23,000,000 บาท
• New Continental GT Speed ราคาเริ่มต้น 24,700,000 บาท
• New Continental GTC Speed ราคาเริ่มต้น 27,200,000 บาท


Continental GT Azure
การรังสรรค์สปอร์ตคูเป้รุ่น New Continental GT/GTC Azure V8 ได้รับแรงบันดาลใจจากแบบอเนกประสงค์รุ่นฐานล้อยาวพิเศษ Bentayga EWB Azure ที่มีการออกแบบด้วย 'Vertical Vane Grille' หรือกระจังหน้าแนวตั้งที่ดูสง่างามและโดดเด่นสะดุดตา โดยกระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ประกอบด้วยแผงโครเมียมแนวตั้งและกระจังหน้าแนวตาข่ายสีดำด้านหลัง พร้อมกับล้ออัลลอยด์รุ่น Azure ขนาด 22 นิ้ว 10 ก้านในเฉดสีดำ-เงาในแบบของรุ่น Flying Spur Azure ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่เน้นความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารรุ่นนี้


คูเป้รุ่น Azure ยังได้มาพร้อมกับรูปแบบการควิลท์เบาะโดยสารที่เน้นการให้ความสำคัญกับสุขภาพและเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายที่เป็นจุดเด่นของรุ่น Azure มากไปกว่านั้น รุ่น Azure ยังมาพร้อมกับพรมปูพื้นแบบใหม่ที่หรูหรากว่าด้วยการใช้ขนสัตว์บริสุทธิ์ 100% ซึ่งพรมปูพื้นแบบ Wilton ขนนุ่มให้ความรู้สึกที่หรูหราเป็นพิเศษด้วยการเลือกใช้ผ้าขนสัตว์หลากหลายชนิดที่คัดสรรมาเป็นพิเศษเพื่อความสะอาดและความบริสุทธิ์ของสีที่ผ่านการทดสอบเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามมาตรฐานด้านคุณภาพ พร้อมกับการใช้วิธีการย้อมเส้นด้ายที่จะช่วยให้ควบคุมคุณภาพของการย้อมสีดียิ่งขึ้น และช่วยให้การจับคู่สีตามที่ต้องการเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในระหว่างกระบวนการผลิตจะไม่มีการใช้สารฟอกขาว ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้คือพรมสำเร็จรูปที่มีคุณภาพสวยงามจากขนสัตว์แท้พรมแบบมาตรฐานภายในห้องโดยสารสำหรับอัครยนตรกรรมรุ่นปี 2024 ได้รับการปรับปรุงให้มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืนด้วยการใช้ผ้าไนลอนรีไซเคิล 100% มอบความสบายเฉกเช่นเดียวกับพรมรุ่นก่อนซึ่งใช้วัสดุไนลอนบริสุทธิ์ 100%


สำหรับรุ่น Speed ที่เน้นประสิทธิภาพและสมรรถนะในการขับขี่ การตกแต่งภายนอกมาพร้อมกับการตกแต่งด้วยเฉดสีเทา Granite ที่ให้ความรู้สึกร่วมสมัย เสริมด้วยชุดแต่ง Blackline Specification ในเฉดสีดำที่เน้นรูปลักษณ์ที่ดูดุดันและสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากสมรรถนะในการขับขี่ที่เหนือชั้น โดยในรุ่นปี 2024 Flying Spur Speed และ New Continental GT/GTC S V8 ได้มีการนำกระจังหน้าแบบเมทริกซ์มาตกแต่งแทนกระจังหน้าแบบแนวตั้ง สะท้อนแรงบันดาลใจจากรถแข่งเบนท์ลีย์ในช่วงปี 1920


ในส่วนของการตกแต่งภายในห้องโดยสาร วีเนียร์แบบอลูมิเนียมขัดเงาเฉดสีเข้ม (Dark Tint Diamond Brushed Aluminium) ถูกนำมาตกแต่งบริเวณคอนโซลหน้าและบริเวณประตูข้างห้องโดยสารในโฉมใหม่ของรุ่น Continental GT และ Flying Spur สะท้อนการออกแบบกระจังหน้าแบบเมทริกซ์ โดยพื้นผิวที่สวยงามนี้ผลิตขึ้นด้วยกระบวนการที่ซับซ้อนในการแปลงอะลูมิเนียมด้วยความแม่นยำสูงจากหลายทิศทางเพื่อให้ได้เอฟเฟกต์แบบสามมิติที่ร่วมสมัย ผู้ครอบครองยังได้มีโอกาสเลือกเฉดสีภายนอกใหม่กับเฉดสีฟ้า Topaz Blue ที่ผสมผสานความเข้มข้นของเฉดสีน้ำเงินและเฉดสีเขียวเข้าด้วยกัน สะท้อนคุณลักษณะที่เยือกเย็นและสงบ พร้อมกับพื้นผิวที่งดงามประดุจดั่งเพชรพลอยสีฟ้าครามระยิบระยับ

Continental GT Azure
การเปิดตัวเบนท์ลีย์โฉมใหม่ได้ตอกย้ำความชัดเจนของจุดเด่นในเรื่องของความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารและความหรูหราผ่านรุ่น Azure ในขณะที่รุ่น S และรุ่น Speed ได้แสดงให้เห็นถึงจุดเด่นด้านการตกแต่งแบบสปอร์ตและสมรรถนะอันเหนือชั้นที่มาพร้อมกับประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ


เอเอเอสฯ มอบข้อเสนอที่ดีที่สุดในการครอบครอง รุ่น S กับราคาเริ่มต้นที่ 16.3 ล้านบาท รุ่น Azure กับราคาเริ่มต้นที่ 16.9 ล้านบาท และรุ่น Speed กับราคาเริ่มต้นที่ 23 ล้านบาท พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดที่ ‘นานที่สุด’ ถึง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) สำหรับรถยนต์แบบเครื่องยนต์ไฮบริด การรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิต และบริการผู้ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 3 ปีเต็ม

Flying Spur Speed







Flying Spur S

Continental GTC S








กำลังโหลดความคิดเห็น