นิสสันตั้งเป้าขาย 35,000 คัน โตขึ้น 40% ศึกษารถรุ่นใหม่คาดใช้ขุมพลัง e-Power หรือ BEV ขณะที่ปัญหาชิ้นส่วนขาดแคลนเริ่มดีขึ้น พร้อมขออภัยเรื่องแอร์ของ นิสสัน คิกส์ กำลังเร่งแก้ปัญหาคาดแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้
อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย และประธาน นิสสัน อาเซียน กล่าวว่า ตลาดรถยนต์รวมของไทยปีนี้ แต่เดิมคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 900,000 คัน แต่จากสถานการณ์ผ่าน 4 เดือนแรกทำให้ปรับประมาณการณ์ใหม่คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 850,000-900,000 คัน เนื่องจากปัจจัยลบหลายรายการ โดยเฉพาะการหดตัวลงของรถปิกอัพ
ภาพรวมของตลาดปิกอัพลดลงอย่างเห็นได้ชัดโดยมีสัดส่วนการขายต่ำกว่า 40% ของตลาดรวมทั้งหมด ซึ่งปกติจะมีสัดส่วนที่เกือบ 50% ทั้งนี้เหตุผลสำคัญมาจากการเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ ตามนโยบายของรัฐบาล ประกอบกับปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนทำให้ไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ให้ลูกค้าได้
“ก่อนหน้านี้นิสสันประสบปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนในการประกอบรถยนต์อย่างมากทำให้มีรถส่งมอบน้อย ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ยังมีบางส่วนที่ได้รับผลกระทบอยู่ ดังนั้นเราจึงตั้งเป้ายอดขายของปีงบประมาณ 2023 ไว้ที่ 35,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดขาย 20,500 คัน หรือเติบโตราว 40% โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาทำตลาดรถยนต์รุ่นใหม่” เซคิกุจิ กล่าว
สำหรับรถรุ่นใหม่ ที่กำลังศึกษาข้อมูลคาดว่าจะเป็นรถที่ใช้เทคโนโลยี e-Power ซึ่งได้รับความนิยมและยอมรับจากผู้บริโภคชาวไทย ส่วนรถยนต์ไฟฟ้ายังอยู่ในแผนการทำตลาดด้วยเช่นเดียวกัน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นรุ่นใด นิสสันมีทั้ง อริยะ , ซากูระ และ ลีฟ ที่ปัจจุบันยังคงจำหน่ายอยู่ โดยล็อตใหม่อยู่ระหว่างการดำเนินการให้เหมาะสมกับสภาพตลาด
“นิสสัน ลีฟ รถยนต์ไฟฟ้า 100% ยังคงมีจำหน่ายอยู่ ซึ่งรัฐบาลวางนโยบาย 30@30 คือให้รถยนต์ไฟฟ้ามีสัดส่วนการขาย 30%ของตลาดรวม แต่ต้องไม่ลืมว่าอีก 70% ยังเป็นรถน้ำมัน ฉะนั้นส่วนใหญ่ของตลาดจึงยังเป็นรถที่ใช้น้ำมัน อนึ่ง ปัญหาเรื่องแอร์ของนิสสัน คิกส์ ยอมรับและขออภัยลูกค้าทุกคน นิสสันกำลังเร่งที่หาสาเหตุที่แท้จริง และแก้ปัญหาให้ตรงจุดในขั้นสุดท้าย ซึ่งเราจะทำอย่างรวดเร็วที่สุดคาดว่าอีกไม่กี่วันจะสำเร็จ” เซคิกุจิ กล่าว
ล่าสุดนิสสัน ได้นิสสันส่ง อัลเมร่า รุ่นปรับปรุงโฉมเพื่อกระตุ้นยอดขายโดยหวังเป้าหมายได้สัดส่วนตลาดราว 8% หรือประมาณ 14,000 คัน โดยตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กมีประมาณ 180,000 คัน หรือราว 20% ของตลาดรวม
อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย และประธาน นิสสัน อาเซียน กล่าวว่า ตลาดรถยนต์รวมของไทยปีนี้ แต่เดิมคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 900,000 คัน แต่จากสถานการณ์ผ่าน 4 เดือนแรกทำให้ปรับประมาณการณ์ใหม่คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 850,000-900,000 คัน เนื่องจากปัจจัยลบหลายรายการ โดยเฉพาะการหดตัวลงของรถปิกอัพ
ภาพรวมของตลาดปิกอัพลดลงอย่างเห็นได้ชัดโดยมีสัดส่วนการขายต่ำกว่า 40% ของตลาดรวมทั้งหมด ซึ่งปกติจะมีสัดส่วนที่เกือบ 50% ทั้งนี้เหตุผลสำคัญมาจากการเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ ตามนโยบายของรัฐบาล ประกอบกับปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนทำให้ไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ให้ลูกค้าได้
“ก่อนหน้านี้นิสสันประสบปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนในการประกอบรถยนต์อย่างมากทำให้มีรถส่งมอบน้อย ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ยังมีบางส่วนที่ได้รับผลกระทบอยู่ ดังนั้นเราจึงตั้งเป้ายอดขายของปีงบประมาณ 2023 ไว้ที่ 35,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดขาย 20,500 คัน หรือเติบโตราว 40% โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาทำตลาดรถยนต์รุ่นใหม่” เซคิกุจิ กล่าว
สำหรับรถรุ่นใหม่ ที่กำลังศึกษาข้อมูลคาดว่าจะเป็นรถที่ใช้เทคโนโลยี e-Power ซึ่งได้รับความนิยมและยอมรับจากผู้บริโภคชาวไทย ส่วนรถยนต์ไฟฟ้ายังอยู่ในแผนการทำตลาดด้วยเช่นเดียวกัน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นรุ่นใด นิสสันมีทั้ง อริยะ , ซากูระ และ ลีฟ ที่ปัจจุบันยังคงจำหน่ายอยู่ โดยล็อตใหม่อยู่ระหว่างการดำเนินการให้เหมาะสมกับสภาพตลาด
“นิสสัน ลีฟ รถยนต์ไฟฟ้า 100% ยังคงมีจำหน่ายอยู่ ซึ่งรัฐบาลวางนโยบาย 30@30 คือให้รถยนต์ไฟฟ้ามีสัดส่วนการขาย 30%ของตลาดรวม แต่ต้องไม่ลืมว่าอีก 70% ยังเป็นรถน้ำมัน ฉะนั้นส่วนใหญ่ของตลาดจึงยังเป็นรถที่ใช้น้ำมัน อนึ่ง ปัญหาเรื่องแอร์ของนิสสัน คิกส์ ยอมรับและขออภัยลูกค้าทุกคน นิสสันกำลังเร่งที่หาสาเหตุที่แท้จริง และแก้ปัญหาให้ตรงจุดในขั้นสุดท้าย ซึ่งเราจะทำอย่างรวดเร็วที่สุดคาดว่าอีกไม่กี่วันจะสำเร็จ” เซคิกุจิ กล่าว
ล่าสุดนิสสัน ได้นิสสันส่ง อัลเมร่า รุ่นปรับปรุงโฉมเพื่อกระตุ้นยอดขายโดยหวังเป้าหมายได้สัดส่วนตลาดราว 8% หรือประมาณ 14,000 คัน โดยตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กมีประมาณ 180,000 คัน หรือราว 20% ของตลาดรวม