ขณะที่งานมอเตอร์โชว์ทั่วโลกอยู่ในขาลงเพราะหลายๆ ที่ลดทั้งขนาดของการจัดงานเพราะจำนวนแบรนด์รถยนต์ที่ลดน้อยลง หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนชื่อและเมืองที่ใช้ในการจัดงาน แต่สำหรับมอเตอร์โชว์ที่เมืองจีนกลับสวนทาง และงานอย่าง Shanghai International Automobile Industry Exhibition หรือเรียกสั้นๆ ว่า Auto Shanghai ยังมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ มาเปิดตัวอย่างมากมาย ไม่เฉพาะแบรนด์ที่อยู่ในประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแบรนด์รถยนต์ต่างแดนที่อยู่นอกเมืองจีนด้วย
แน่นอนว่าตรงนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะจีนคือตลาดรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ในด้านตัวเลขยอดขายสูงสุดของโลก บวกกับที่นี่คือ คือตลาดที่ยังมีโอกาสและช่องว่างในการเข้ามาเจาะตลาดและลงทุน รวมถึงยังเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่มีตัวเลขยอดขายสูงที่สุดในโลก จึงทำให้หลายแบรนด์ทั้งในจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ยุโรปและสหรัฐอเมริกา ต่างเข้ามายึดพื้นที่ในการจัดแสดงรถยนต์ใหม่ๆ ที่ส่วนใหญ่แล้วเน้นในการทำตลาดที่นี่ และอาจจะมีบางรุ่นที่เปิดตัวและส่งออกมาขาย
งานปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 20 แล้วนับจากการเริ่มจัดงานครั้งแรกปี 1985 ซึ่งปัจจุบันตัวงานมีการจัดในลักษณะปีเว้นปี โดยสลับกันงาน Auto China ซึ่งจะมีขึ้นที่เมืองปักกิ่ง โดยปีนี้งานรอบสื่อมวลชนมีขึ้นในระหว่างวันที่ 18-19 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่รอบสำหรับคนทั่วไปจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 20-27 เมษายน โดยจัดขึ้นที่ National Center for Exhibition and Convention ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานมาตั้งแต่ปี 2015
กระแสและสิ่งที่เกิดขึ้นหลัง โควิด-19
ประเทศจีนเพิ่งจะคลายล็อกดาวน์ และเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวกลับเข้ามาในประเทศได้เมื่อต้นปี 2023 ดังนั้น ตรงนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อจำนวนรถยนต์ใหม่และรูปแบบการจัดงานค่อนข้างมาก เพราะถ้าลองเปรียบเทียบกับงานครั้งนี้ซึ่งอยู่ในช่วงที่อยู่ในยุคของโควิด-19 ในแง่ของจำนวนรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวแล้ว ยังถือว่าค่อนข้างน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2017, 2019 หรือแม้แต่ปี 2021
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะน้อยกว่าในเชิงปริมาณ แต่ก็ไม่ได้หมายความน้อยชนิดที่ไม่ได้มีอะไรที่น่าสนใจ เพราะหลายค่ายหลายแบรนด์ต่างเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่น่าสนใจออกมามากมาย โดยเฉพาะกับแบรนด์รถยนต์จีน ที่ตอนนี้กำลังถูกจับตามองและได้รับความสนใจจากผู้บริโภคทั่วโลกในฐานะของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาซึ่งสามารถเข้าถึงได้
ขณะที่แบรนด์รถยนต์ต่างแดนที่มีการเปิดตัวรถยนต์ใหม่ออกมาก็มีทั้ง Nissan Arizon และ Parthfinder Concept ตามด้วยขบวนรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ Honda อย่างเช่น NP2, NS2 และ N SUV ทางค่ายยุโรปก็มี BMW i7 M70 xDrive, Polestar 4, Porsche Cayenne ใหม่, Volvo Ex90, Volkswagen I.D.7
ผู้ผลิตรถยนต์จีนไม่แผ่ว BYD ยังมีของใหม่เพียบ
แน่นอนว่า เมื่อดูจากรถยนต์ใหม่ที่ถูกนำมาจัดแสดงงานนี้เราได้เห็นรถยนต์รุ่นใหม่ จากแบรนด์จีนมาเปิดตัวมากมาย และส่วนใหญ่ก็เป็นรถยนต์ในกลุ่ม NEV หรือ New Energy Vehicle ซึ่งมีความหมายครอบคลุมรถยนต์ไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก PHEV และรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งตอนนี้กลายเป็นกระแสหลักของตลาดไปแล้ว
อย่างค่าย BYD ที่ถือว่าเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมจากคนไทยในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ก็มีการเปิดตัวรถยนต์ใหม่ออกมาหลายรุ่น เช่น Destroyer 07 PHEV พร้อมความสามารถในการแล่นโหมด EV ได้สูงสุดถึง 200 กิโลเมตร โดยตัวรถจะมีเครื่องยนต์เบนซิน 1,500 ซีซี ทั้งแบบ NA และเทอร์โบให้เลือกใช้งาน แต่ไฮไลท์คือ แบตเตอรี่ที่มีความจุให้เลือก 2 แบบซึ่งไม่ได้มีการระบุ สเป็กโดยตรง แต่บอกว่าในการชาร์จ 1 ครั้งมีให้เลือกทั้งแบบแล่นได้ 121 กิโลเมตร และอีกรุ่นคือ 200 กิโลเมตร โดยจะมีราคาในจีนอยู่ที่ 199,800 และ 249,800 หยวนตามลำดับ
อีกรุ่นของค่ายที่น่าสนใจคือ Seagull รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับเจาะกลุ่มตลาดผู้ที่เริ่มมีรถยนต์คันแรกเปิดตัวออกมาแล้ว บนตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 ประตูซึ่งถูกสร้างสรรค์ขึ้นบนพื้นตัวถัง e-Platform 3.0 และเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นจากกลุ่ม Ocean Series ของ BYD ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 55 กิโลวัตต์ หรือ 75 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง พร้อมแบตเตอรี่ให้เลือก 2 แบบ คือ ขนาด 30 kWh แล่นได้ 305 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และ 38 kWh แล่นได้ 405 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และใช้เวลาเพียง 30 นาทีในการทำ Quick Charge 80% ของแบตเตอรี่ ส่วนราคาในจีนอยู่ที่ 11,400-13,900 เหรียญสหรัฐฯ
Denza D9 Premier มาในรูปแบบสีทูโทน จับคู่กับล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ภายในห้องโดยสารตกแต่งโดยเน้นความหรูหรา เป็นส่วนตัวมากขึ้น จากรุ่นปกติที่มาในรูปแบบ 7 ที่นั่ง สำหรับรุ่น Premier จัดการถอดเบาะหลังออกให้เหลือเพียง 4 ที่นั่ง โดยระหว่างห้องโดยสารตอนหน้าและหลัง จะถูกแยกจากกันด้วยชุดหน้าจอขนาดใหญ่ การตกแต่งภายในเลือกใช้สีทูโทนเพื่อยกระดับความพรีเมียม เช่นเดียวกับชุดเบาะ Super VIP Captain Seat
อีกรุ่นที่น่าสนใจแต่ยังเป็นต้นแบบอยู่คือ Song L Concept ใช้โครงสร้าง e-Platform 3.0 แบบ Cell to Body ที่พัฒนามาเพื่อใช้กับรถ EV สมรรถนะสูงโดยเฉพาะ มีจุดเด่นที่การออกแบบให้ชุดแพค BYD Blade Battery เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้าง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวถัง ลดอาการบิดตัวในขณะเข้าโค้ง ช่วยให้ตัวรถมีเสถียรภาพ รวมถึงความปลอดภัยในระดับสูงสุด ระบบขับเคลื่อนมาในรูปแบบมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนแบบ All Wheel Drive
ที่เร้าใจสุดๆ คือ Yangwang U9 ซูเปอร์สปอร์ตพลังไฟฟ้าพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว แต่ละตัวนั้น จะมีกำลังอยู่ที่ 295 และ 321 แรงม้า ส่งผลให้ตัวรถ มีกำลังรวมสูงสุดถึง 1,100 แรงม้า ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 2.x วินาที มาพร้อมเทคโนโลยี Blade Battery ขนาด 100 kWh รองรับการเดินทางสูงสุด 700 กม. ต่อชาร์จ ตามมาตรฐาน CLTC
GWM และ MG ยังมีอะไรเร้าใจเสมอ
ในปีนี้ ทาง Great Wall Motor หรือ GWM ยังมีรถยนต์รุ่นใหม่มาจัดแสดง พร้อมประกาศเปลี่ยนแปลงไปสู่พลังงานใหม่อย่างเต็มสูบโดยอาศัยแรงขับเคลื่อนจากระบบนิเวศแบบป่าไม้ (Forest Ecosystem) และเน้นย้ำกลยุทธ์ ONE GWM ที่นับจากนี้ไป GWM จะสื่อสารไปทั่วโลกด้วย Message เดียวกันทั้งหมดและเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ถึง 15 รุ่น
ส่วนที่เด่นๆ และน่าสนใจก็เช่น HAVAL A07 และ HAVAL B07 รถยนต์ SUV Plug-in Hybrid ที่จะมาแทน HAVAL H6 ส่วนรุ่น Tank ก็มีการเปิดตัวรุ่น Tank400 และ Tank500 ที่เป็นแบบ PHEV ออกมา ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Ora Good Cat ในบ้านเรา มีการเปิดตัวรุ่นใหม่เพิ่มเติมขึ้นมานั้นคือ Grand Cat ที่มีขนาดตัวใหญ่ขึ้น และ Ora Ballet Cat กับตัวถังทรง 5 ประตูที่มีทรวดทรงคล้ายกับ Volkswagen Beetle
ทางด้าน MG เผยโฉม Cyberster โรดสเตอร์ไฟฟ้าเปิดประทุน 2 ที่นั่ง ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์สุดล้ำ และประตูแบบปีกนก ที่จ่อเตรียมผลิตเพื่อจำหน่ายทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
ตามด้วย MG7 สปอร์ตซีดานหรูระดับแฟล็กชิพเจ้าของสถิติ กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด จากบททดสอบสุดทรหดบนเส้นทางสายลาซาในทิเบตที่ระดับความสูง 5,978.17 เมตร มีด้วยกัน 2 รุ่นย่อย คือ รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด และรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์สมรรถนะสูง พร้อมเกียร์ Dual Clutch แบบ 7 สปีด ให้กำลังสูงสุด 188 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 รอบต่อนาที โดยสามารถเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายในระยะเวลาเพียง 6.5 วินาที
ปิดท้ายด้วย EV รุ่นฮิตอย่าง MG4 ELECTRIC ที่สามารถพิชิตรางวัลคุณภาพระดับโลก พร้อมเสียงตอบรับจากผู้บริโภคทั่วโลกแล้ว MG4 ELECTRIC ยังได้รับเสียงชื่นชมจากสื่อมวลชนทั่วโลกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น รางวัล EV BREAKTHROUGH OF THE YEAR จาก Prestigious Fleet News Awards รางวัล THE UK CAR OF THE YEAR 2023 และรางวัล BEST FAMILY CAR จาก UKCOTY รางวัล ARIP BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARD 2023 รางวัล 2023’s Best Small EV จากนิตยสาร WHATCAR! รางวัลรถยนต์คุ้มค่าแห่งปี (Bargain of the Year) จากนิตยสารและรายการสารคดีรถยนต์ชื่อดังจากอังกฤษ Top Gear ซึ่งได้ให้คะแนนรถรุ่นนี้ถึง 9 คะแนน
ค่ายอื่นๆ ก็มีรถยนต์เด่นเช่นกัน
Geely Ruilan 7 เป็น SUV มาดสปอร์ตรุ่นใหม่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า และถือเป็นผลผลิตที่เกิดจากการทำงานร่วมกันของ Geely และ Lifan โดยตัวรถถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของพื้นตัวถังในรหัส GBRC หรือ Global Battery Rapid Change ซึ่งทั้ง 2 ค่ายร่วมกันพัฒนาขึ้นมา รองรับกับการชาร์จแบบเร็ว หรือการชาร์จแบบ 7kw ของ Wall Charge ที่บ้าน หรือการชาร์จแบบช้าแบบ 2kW ซึ่งพื้นตัวถังนี้มีความยืดหยุ่นในการดัดแปลงและยืดขยายระยะฐานล้อได้ตั้งแต่ 2,700-3,100 มิลลิเมตร ขึ้นอยู่กับการนำไปสร้างรถยนต์แบบไหน โดยทาง Geely เลือกใช้ในการผลิต SUV แบบสปอร์ตพร้อมความสามารถในการแล่นทำระยะทาง 550-750 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้งขึ้นอยู่กับการใช้งาน
NETA GT รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นล่าสุดมากับคอนเซ็ปต์ในการมอบความสปอร์ต (Sport) ดีไซน์ทันสมัย (Fashion) เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ (Young) ด้วยรูปลักษณ์ทรงสปอร์ตแบบ 2 ประตู ตัวรถมีความลู่ลมโดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (Cd) เพียง 0.21 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 78 kWh ให้ระยะทางสูงถึง 660 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม (มาตรฐาน CLTC) ขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อโดยมาพร้อมขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด ให้พละกำลังสูงถึง 340 กิโลวัตต์ หรือ 462 แรงม้า ให้อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม ภายใน 3.7 วินาที
Nio ES6 รถยนต์พลังไฟฟ้าแบรนด์พรีเมียมจากจีนมาพร้อมกับผลผลิตที่ 2 จาก ES6 ซึ่งครั้งนี้มากับตัวถังแบบ SUV ที่มีขนาดตัวถังไซส์เดียวกับ Mercedes-Benz EQB โดยจะมีกำลังขับเคลื่อนในระดับ 435-490 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ 70 kWh ที่สามารถแล่นทำระยะทางได้ถึง 482 กิโลเมตร
HiPhi Y ถือเป็นอีกแบรนด์ที่พยายามยกระดับตลาดรถยนต์จีนให้มีความน่าสนใจด้วยดีไซน์และรูปทรงที่แปลกและแตกต่าง โดยรุ่น Y ของพวกเขานั้นมากับตัวถังแบบ SUV ซึ่งมีความแตกต่างโดยประตูบานหลังจะเปิดออกในแบบปีกนก ตัวรถมีความยาว 4,938 มิลลิเมตร และขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 330 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ 115 kWh ซึ่งสามารถแล่นทำระยะทางได้ไกลสุด 804 กิโลเมตร
Xpeng G6 SUV ว่ากันว่านี่คือคู่แข่งสายตรงของ Tesla Model Y ตัวรถใช้แพลตฟอร์ม SEPA 2.0 มีความยาว 4,753 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อ 2,890 มิลลิเมตร พร้อมเทคโนโลยี 800V และเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ 3C บนแพลตฟอร์ม SiC ให้ระยะทางการขับขี่สูงสุด 755 กม. (มาตรฐาน CLTC) รวมถึงความสามารถในการชาร์จแบบ DC fast charged ที่รวดเร็ว สามารถส่งระยะทางได้สูงสุด 300 กิโลเมตร โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาที มีราคาประมาณ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ
นี่คือภาพรวมของงาน Auto Shanghai 2023 งานมอเตอร์โชว์แรกหลังการคลายล็อคดาวน์และเปิดประเทศอีกครั้งของจีน ซึ่งมีรถยนต์ใหม่เปิดตัวหลายรุ่นโดยเฉพาะจากแบรนด์เจ้าถิ่น เรียกว่าละลานตาและมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ให้สัมผัสกันอย่างมากมาย