‘บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC-ASIA’ ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) หลังนักลงทุนตอบรับการจองซื้อหุ้นคึกคักมากกว่าจำนวนหุ้นที่จัดสรรไว้ ตอกย้ำความเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจภายใต้ระบบนิเวศทางธุรกิจของกลุ่ม MGC-ASIA ตลอดจนประสบการณ์ในอุตสาหกรรมกว่า 20 ปี เตรียมนำเงินระดมทุนขยายพอร์ตธุรกิจ สู่กลุ่มธุรกิจบริการด้านการเงินอย่างครบวงจรสำหรับยานยนต์หรูและมารีน (ALPHA X) ธุรกิจให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ (MMS) และปรับโครงสร้างเงินทุน เพื่อขยายระบบนิเวศทางธุรกิจและรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน เดินหน้านำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก 26 เมษายน 2566 นี้
ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 26 เมษายน 2566 นี้ โดยใช้ชื่อย่อ ‘MGC’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ หลังประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้น IPO จำนวนรวมทั้งสิ้น 280 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขาย 7.95 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าการเสนอขายรวม 2,226 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเกินความคาดหมาย สะท้อนความเชื่อมั่นในพื้นฐานกลุ่มธุรกิจภายใต้ระบบนิเวศทางธุรกิจของกลุ่ม MGC-ASIA ที่มีความแข็งแกร่ง และศักยภาพเติบโตต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ ระบบนิเวศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ในปัจจุบัน มีสินค้าและบริการที่หลากหลายสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์การเดินทางอย่างครอบคลุมทุกมิติ ซึ่งกลุ่มธุรกิจภายในระบบนิเวศทางธุรกิจของกลุ่ม MGC-ASIA ประกอบด้วย ธุรกิจจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ระดับโลก ได้แก่ Rolls-Royce, BMW, MINI, Honda บิ๊กไบค์แบรนด์ BMW Motorrad, Harley-Davidson ธุรกิจนำเข้าและตัวแทนจำหน่ายเรือยอชท์ Azimut รายเดียวในประเทศไทย ธุรกิจนำเข้าและตัวแทนจำหน่ายเรือแม่น้ำ Chris-Craft และให้บริการที่เกี่ยวข้องรายเดียวในประเทศไทยและอาเซียน ธุรกิจจำหน่ายรถยนต์มือสองพร้อมการรับประกัน ธุรกิจจัดหาลูกค้าสำหรับบริการให้เช่าเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว VistaJet และตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารสายการบินชั้นนำ ธุรกิจบริการหลังการขายและบริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ MMS Bosch Car Service ธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมพนักงานขับ
นอกจากนี้ MGC-ASIA ได้ร่วมทุนกับ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) จัดตั้ง บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด (Alpha X) เพื่อขยายธุรกิจด้านการให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร ครอบคลุมสินเชื่อเช่าซื้อ ลีสซิ่ง และสินเชื่อรีไฟแนนซ์ สำหรับยานยนต์ในระดับลักชัวรีและมารีน และร่วมมือกับฮาวเด้น กรุ๊ป ซึ่งเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์รายใหญ่ที่สุดในยุโรปและมีชื่อเสียงระดับโลก ขยายธุรกิจนายหน้าประกันภัย ภายใต้บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด (Howden Maxi) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและส่งเสริมธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทฯ ที่มีศักยภาพและเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตของ MGC-ASIA
ทั้งนี้ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เพื่อรองรับแผนงานขยายการลงทุนใน บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด ที่จะขยายสู่บริการด้านการเงินสำหรับยานยนต์หรูครบวงจร ลงทุนในบริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ขยายบริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กลุ่มธุรกิจ นำไปปรับโครงสร้างเงินทุนผ่านการชำระเงินกู้ระยะสั้นและ/หรือระยะยาวแก่สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงาน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจและรองรับการเติบโตในอนาคต
“นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ MGC ในการมุ่งสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนชั้นนำของประเทศไทย พร้อมร่วมขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้ระบบนิเวศทางธุรกิจของกลุ่ม MGC-ASIA ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มบริษัทฯ มีแผนขยายระบบนิเวศทางธุรกิจภายใต้ MGC-ASIA Ecosystem ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ผ่านการขยายฐานสินค้าและบริการให้หลากหลาย ควบคู่กับการขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทุกเซกต์เมนต์ พร้อมชูจุดเด่นและสร้างความแตกต่างด้วยโมเดลธุรกิจ Lifestyle Mobility Ecosystem ที่จะสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าครอบคลุมทุกมิติ ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ ยังมุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจจัดจำหน่ายและบริการหลังการขายยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ด้วยการพัฒนาบุคลากรและมาตรฐานการให้บริการ ยกระดับการให้บริการโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ (Digitalization) เตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงสู่ Digi-Tech Lifestyle Mobility บนแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถสร้างผลกำไรให้กลุ่มบริษัทฯ ในระยะยาว นอกจากกลยุทธ์ดังกล่าวกลุ่มบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการยกระดับความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคม สิ่งแวดล้อมและธรรมาภิบาล รวมถึงมุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำ” ดร.สัณหวุฒิ กล่าว
นายวราห์ สุจริตกุล ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า MGC ถือเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ ที่มีรถยนต์แบรนด์ชั้นนำหลากหลายสามารถตอบโจทย์ลูกค้าระดับกลางถึงบน และมีสินค้าอื่น ๆ อาทิ บิ๊กไบค์ เรือยอชท์ และเรือแม่น้ำ รวมถึงบริการหลังการขาย ศูนย์ซ่อมบำรุงอิสระ บริการทางการเงิน ประกันภัย และบริการอื่น ๆ ที่ครอบคลุมการใช้บริการของลูกค้า มีแนวโน้มการเติบโตสูงในอนาคต ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งในพื้นฐานธุรกิจของ MGC ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ในช่วงการเสนอขายหุ้น IPO ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจอย่างดีทั้งจากนักลงทุนสถาบันชั้นนำและนักลงทุนรายย่อย ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่า MGC จะเป็นหนึ่งในหุ้นคุณภาพที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง