"เลกซัส" เผยโฉมเอ็มพีวีหรู "LM" อย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกที่งานออโต้เซี่ยงไฮ้ ประเดิมโชว์ตัวด้วยรุ่น 4 ที่นั่งสุดหรู พร้อมจอไวด์สกรีนขนาด 48 นิ้วใหญ่สะใจ เตรียมวางจำหน่ายในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก พร้อมเตรียมบุกตลาดยุโรปและญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก
เลกซัส LM เจเนอเรชันที่ 2 ถูกเปิดตัวตามหลังโฉมแรกที่เริ่มวางจำหน่ายในปี 2020 เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าชาวจีนและเอเชียที่มองหารถเอ็มพีวีระดับหรูเหมาะสำหรับมีผู้ขับให้นั่ง โดยมีการปรับปรุงเพิ่มความหรูหราเพื่อตอบสนองความเป็น "Luxury Mover" ซึ่งเป็นที่มาของชื่อรุ่น LM นั่นเอง
ดีไซน์ของ Lexus LM ถูกพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ที่เรียกว่า "Dignified Elegance" ที่รวมเอาความหรูหราภายนอกและห้องโดยสารที่สะดวกสบายเข้าไว้ด้วยกัน ตัวถังมีความยาวตลอดคันอยู่ที่ 5,125 มม. (เพิ่มขึ้น 85 มม.) ความกว้าง 1,890 มม. (เพิ่มขึ้น 40 มม.) ความสูง 1,955 มม. (เพิ่มขึ้น 10 มม.) และความยาวฐานล้อ 3,000 มม. (เท่าเดิม)
รูปลักษณ์ด้านหน้ายังคงรักษาเอกลักษณ์ Spindle Body ตามฉบับเลกซัส แต่ได้มีการเพิ่มสีตัวถังเข้าไปบริเวณกระจังหน้าเพื่อสร้างความต่อเนื่องกับตัวถัง พร้อมด้วยไฟหน้าและไฟท้ายที่ถูกออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด ทั้งยังตกแต่งเสา A-pillar และ D-pillar ด้วยสีดำเงาเพื่อสร้างความต่อเนื่องของแนวกระจกจากด้านหน้าไปจนถึงด้านท้าย มาพร้อมประตูคู่หลังแบบสไลด์ขนาดใหญ่ และประตูคู่หน้าพร้อมระบบ e-Latch เพื่อช่วยเสริมแรงในการปิดประตู
ภายในห้องโดยสารสามารถเลือกได้ทั้งแบบ 3 แถว 6 หรือ 7 ที่นั่ง หรือจะเลือกเพิ่มความหรูหรายิ่งขึ้นด้วยห้องโดยสารแบบ 2 แถว 4 ที่นั่ง ซึ่งจะมาพร้อมแผงกั้นเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวของผู้โดยสาร และยังฝังหน้าจอแบบไวด์สกรีนขนาด 48 นิ้วเอาไว้ สามารถใช้ในการประชุมผ่านออนไลน์หรือรับชมคอนเทนท์ความบันเทิงต่างๆ ได้อย่างจุใจ เสริมด้วยตู้แช่เย็นและช่องเก็บของกระจุกกระจิกบริเวณใต้หน้าจอ
เลกซัส LM ยังคงเน้นความสบายในการโดยสารเป็นสำคัญ ด้วยการเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างตัวถังขึ้นอีก 50% เมื่อเทียบกับรุ่นแรก รวมถึงการเพิ่มวัสดุยึดโครงสร้างบริเวณตัวถังช่วงบนและพื้นด้านล่างเพื่อลดแรงสะเทือนเข้ามายังห้องโดยสาร ทั้งยังมีการใช้ระบบ AVS Suspension with Frequency-Sensitive Piston Valve เป็นครั้งแรก ซึ่งเลกซัสระบุว่าจะช่วยคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพการขับขี่ที่ดีเยี่ยมไม่ว่าจะใช้ความเร็วเท่าใดก็ตาม
รถรุ่นนี้ยังถูกติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง Lexus Safety System + ที่มาพร้อมระบบ Proactive Driving Support (PDA) ที่สามารถหักพวงมาลัยหรือเบรกเพื่อป้องกันการชนคนเดินถนน, ผู้ใช้จักรยาน และรถที่จอดอยู่ได้ และหากผู้ขับขี่ใช้ความเร็วสูงเกินไปก่อนเข้าโค้ง ระบบก็จะช่วยลดความเร็วอย่างนุ่มนวลเพื่อความปลอดภัย เป็นต้น
นอกจากนี้ ระบบ Lexus Safety System+ ยังมีการเพิ่มระบบ Abnormal Driver Response System ที่ทำงานร่วมกับระบบตรวจจับเลน Lane Tracing Assist หากพบว่าผู้ขับขี่อยู่ในภาวะไม่ปลอดภัย ระบบจะเปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่โดยรอบ พร้อมกับการลดความเร็วลงอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งหยุดนิ่ง จากนั้นประตูรถจะปลดล็อกโดยอัตโนมัติ พร้อมโทรขอความช่วยเหลือจากระบบ Help Net เพื่อให้ทีมกู้ภัยเข้าทำการช่วยเหลือต่อไป
