บีเอ็มดับเบิลยู เผยแผนงานสำคัญ ยืนยันเตรียมประกอบรถยนต์ไฟฟ้า BEV ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ยังไม่ระบุรุ่นที่แน่ชัด วางเป้าเป็นฐานการผลิตEV ของภูมิภาค พร้อมกลับมาประกอบ มินิ อีกครั้งคาดเป็นรุ่น คันทรีแมน
ฌอง ฟิลิปป์ ปาแร็ง รองประธานอาวุโสฝ่ายการขาย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เปิดเผยว่า โรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทยถือว่าเป็นหนึ่งในไลน์การผลิตที่สำคัญและทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของบีเอ็มดับเบิลยู ด้วยการผลิตได้ทั้ง 3 แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น BMW, Mini และ BMW Motorad
ปัจจุบันโรงงานดังกล่าวมีการผลิตรถเครื่องยนต์สันดาปภายในและปลั๊กอินไฮบริด โดยแผนการในอนาคตจะมีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชนิดใช้แบตเตอรี่ 100% ( BEV) ในโรงงานแห่งนี้ ตามแผนงานของบริษัทฯ แม่ที่กำหนดนโยบายเพิ่มสัดส่วนการขายรถยนต์ไฟฟ้าเป็น 50% ของยอดขายทั้งหมดภายในปี 2573
“แผนการประกอบ BEV ในไทย ยืนยันว่าทำอย่างแน่นอน รอประกาศอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ ขณะที่แบรนด์ มินิ อยู่ระหว่างการพิจารณานำกลับมาประกอบในไทยอีกครั้งหนึ่ง ส่วนรุ่นที่จะผลิต ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่ง 2 เดือนแรกของปีนี้การขายบีเอ็มดับเบิลยูในตลาดไทยมีการเติบโตสูงที่สุดในโลก ด้วยอัตราเติบโตมากกว่า 20% โดยคาดหวังว่าทั้งปีจะเติบโตได้ราว 15%” ฌอง ฟิลิปป์ กล่าว
สำหรับยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ารวมทุกชนิดของบีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลก อยู่เหนือความคาดหมายมีสัดส่วนมากกว่า 30% ของยอดขายทั้งหมด โดยในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าชนิดใช้แบตเตอรี่คาดว่าจะสามารถส่งมอบได้ถึง 400,000 คัน จากกระแสความต้องการใช้งานที่ได้รับความนิยมทั่วโลก
อนึ่ง รถยนต์มินิที่จะนำกลับมาผลิตในโรงงานประกอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทย ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นรุ่น คันทรีแมน จากเดิมที่เคยมีการประกอบรุ่นดังกล่าวนี้ในประเทศไทยมาแล้ว อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะกลับมาประกอบในประเทศอีกครั้งแต่ไม่ส่งผลให้ราคาจำหน่ายลดลงแต่อย่างใด เนื่องจากปัจจุบัน มินิ คันทรีแมน มีการประกอบที่โรงงานในประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรนำเข้าเป็น 0% ตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน
ฌอง ฟิลิปป์ ปาแร็ง รองประธานอาวุโสฝ่ายการขาย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เปิดเผยว่า โรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทยถือว่าเป็นหนึ่งในไลน์การผลิตที่สำคัญและทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของบีเอ็มดับเบิลยู ด้วยการผลิตได้ทั้ง 3 แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น BMW, Mini และ BMW Motorad
ปัจจุบันโรงงานดังกล่าวมีการผลิตรถเครื่องยนต์สันดาปภายในและปลั๊กอินไฮบริด โดยแผนการในอนาคตจะมีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชนิดใช้แบตเตอรี่ 100% ( BEV) ในโรงงานแห่งนี้ ตามแผนงานของบริษัทฯ แม่ที่กำหนดนโยบายเพิ่มสัดส่วนการขายรถยนต์ไฟฟ้าเป็น 50% ของยอดขายทั้งหมดภายในปี 2573
“แผนการประกอบ BEV ในไทย ยืนยันว่าทำอย่างแน่นอน รอประกาศอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ ขณะที่แบรนด์ มินิ อยู่ระหว่างการพิจารณานำกลับมาประกอบในไทยอีกครั้งหนึ่ง ส่วนรุ่นที่จะผลิต ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่ง 2 เดือนแรกของปีนี้การขายบีเอ็มดับเบิลยูในตลาดไทยมีการเติบโตสูงที่สุดในโลก ด้วยอัตราเติบโตมากกว่า 20% โดยคาดหวังว่าทั้งปีจะเติบโตได้ราว 15%” ฌอง ฟิลิปป์ กล่าว
สำหรับยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ารวมทุกชนิดของบีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลก อยู่เหนือความคาดหมายมีสัดส่วนมากกว่า 30% ของยอดขายทั้งหมด โดยในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าชนิดใช้แบตเตอรี่คาดว่าจะสามารถส่งมอบได้ถึง 400,000 คัน จากกระแสความต้องการใช้งานที่ได้รับความนิยมทั่วโลก
อนึ่ง รถยนต์มินิที่จะนำกลับมาผลิตในโรงงานประกอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทย ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นรุ่น คันทรีแมน จากเดิมที่เคยมีการประกอบรุ่นดังกล่าวนี้ในประเทศไทยมาแล้ว อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะกลับมาประกอบในประเทศอีกครั้งแต่ไม่ส่งผลให้ราคาจำหน่ายลดลงแต่อย่างใด เนื่องจากปัจจุบัน มินิ คันทรีแมน มีการประกอบที่โรงงานในประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรนำเข้าเป็น 0% ตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน
