เมื่อ เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง ได้รับเชิญให้ไปเวียดนามเพื่อเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ Vespa รถที่สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้คนอยู่เสมอ เลยเก็บเกี่ยวข้อมูลมาเล่าสู่กันฟัง
โรงงานผลิต เวสป้า หรือ Piaggio Vietnam ถือเป็น 1 ใน12 โรงงานการผลิตของ เวสป้า ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม จังหวัดหวิงฟุก (Vinh Phuc) เริ่มก่อตั้งสร้างโรงงานที่เวียดนามในปี ค.ศ. 2007 และเริ่มสร้างโรงงานในช่วงต้นปี ค.ศ. 2008 หากนับจนถึงตอนนี้เป็นระยะเวลากว่า 15 ปี ที่โรงงานแห่งนี้ได้ผลิตผลงานมาสเตอร์พีซอย่าง Vespa, Aprilia และ Piaggio ไปแล้วหลายแสนคัน โดยโรงงานแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นฮับการผลิตสำคัญของ Vespa, Aprilia และ Piaggio ที่คงมาตรฐานการผลิตเช่นเดียวกันกับทุกโรงงานของ เวสป้า ที่กระจายตัวอยู่ในทั่วโลก ซึ่งถือเป็นโรงงานที่มีขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 265,000 ตารางเมตร ครอบคลุมการผลิตที่ครบวงจร พร้อมเทคโนโลยีและเครื่องจักรในการผลิตที่ทันสมัย โดยแบ่งกลุ่มเครื่องจักรออกเป็น 12 ส่วน และห้องตรวจเช็คคุณภาพ,สายงานประกอบเครื่องยนต์ (Engine Lines) จำนวน 3 สาย ,สายงานเชื่อมประกอบโครงสร้างตัวถัง (Welding Line)จำนวน 3 สาย, สายงานการพ่นสี (Painting Lines) จำนวน 3 สาย,สายงานการประกอบ (Assembly Line ) จำนวน 3 สาย, ห้องตรวจเช็คคุณภาพ (Quality Lab) จำนวน 2 ห้อง อีกทั้งยังมีส่วนวิจัยและพัฒนา (R&D) สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิครวมถึงสนามทดสอบภายในโรงแรมแห่งนี้อีกด้วย
กลุ่ม Piaggio Group มีฐานการผลิตทั้งสิ้น 12 แห่ง แบ่งเป็นอิตาลี 5 แห่ง อินเดีย 3 แห่ง เวียดนาม 2 แห่ง จีน 1 แห่ง และอินโดนีเซีย 1 แห่ง มีการจัดจำหน่ายใน 100 ประเทศทั่วโลกและมีตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 4,000 แห่ง 800 โชว์รูม ที่สำคัญมีศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 7 แห่ง แบ่งเป็นอิตาลี 2 แห่ง สหรัฐอเมริกา 2 แห่ง อินเดีย 1 แห่ง เวียดนาม 1 แห่ง และ จีน 1 แห่ง
ในส่วนของไลน์การผลิตจากโรงงานแห่งนี้จะเน้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์สกู๊ตเตอร์ ประกอบด้วย 3 แบรนด์ ได้แก่ แบรนด์ Vespa แบรนด์ Aprilia และแบรนด์ Piaggio ประกอบด้วยสกู๊ตเตอร์รุ่นต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Vespa GTS ซึ่งถือเป็นกลุ่มท็อปของแบรนด์ ที่เริ่มผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013 นอกจากนี้ยังมี Piaggio Liberty ที่เริ่มผลิตในปี ค.ศ. 2011 และ Piaggio Medley S ที่เริ่มขึ้นสายการผลิตในปี ค.ศ. 2015 รวมถึง สกู๊ตเตอร์รุ่นล่าสุด Aprilia SR GT 200
ในช่วงระหว่างการเดินชมโรงงานมี ดาเนียล ลานดีนี ผู้อำนวยการสายงานผลิตรถสองล้อ ภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก บริษัท พิอาจิโอ เวียดนาม จำกัด เป็นคนพาชมและอธิบายถึงขบวนการต่าง ๆตั้งแต่ การเชื่อมตัวถัง ตามไลน์การผลิตเริ่มจากประกอบชิ้นส่วนเล็กไปจนใหญ่ ส่วนการเชื่อมก็มีจุดให้เชื่อมตามแผนผังที่แจ้งไว้ ในส่วนของการเชื่อมก็จะควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งตรงนี้จะควบคุมด้วยกระแสไฟฟ้าให้เหมาะสมในแต่ละจุด เพราะแต่ละจุดใช้ความร้อนไม่เท่ากัน เพื่อจะให้ชัวร์ว่าปลอดภัยถูกต้อง ที่สำคัญโครงสร้างของรถมีจุดซึ่งเป็นรูเล็ก ๆ เพื่อให้เชื่อมถึง 330-360 จุด ซึ่งการเชื่อมแบบนี้จะช่วยให้โครงสร้างแข็งแรงมากขึ้น ที่สำคัญเทคโนโลยีการเจาะรูเพื่อเชื่อมเป็นเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ของรถเวสป้าที่เขาคิดค้นมาเมื่อ 77 ปีที่แล้ว และปัจจุบันก็ยังคงทำอยู่ ถือเป็นนวตกรรมที่หาได้ในแบรนด์ เวสป้า แบรนด์เดียว ดังนั้นการขันน็อตแต่ละตัวตามรูซึ่งต้องใช้เครื่องสแกนบาร์โค้ดแล้วสกรูไฟฟ้าก็จะอ่านค่าที่ได้จากบาร์โค้ดและขันให้ได้แรงตึงของน็อตแต่ละตัวตามสเป็กที่กำหนดไว้ เป็นต้น
จากการเดินดูไปเรื่อย ๆ จะสังเกตว่าพนักงานของเขาจะคอยทำความสะอาด ขัดเกลา เช็ดถู ตัวรถตลอดเวลา เจ้าหน้าที่บอกว่าเหมือนดูแลลูก ๆ เอาใจใส่ ตั้งแต่แรกเกิดจนโตขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้โชว์ เพลาขับเลี้ยว ซึ่งเป็นต้นแบบตั้งแต่สร้างแบรนด์เวสป้าก็ใช้ตัวนี้ ถือเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เลยก็ว่าได้
เราเดินไปอีกห้องหนึ่งจะเห็นไลน์ประกอบ โดยนำโครงสร้างตัวรถแช่น้ำยากันสนิม ซึ่งตรงนี้น้ำจะเข้าไปทุกซอก ทุกมุมประมาณ 3 นาที ขึ้นมาเข้าเตาอบให้แห้งและถึงจะไปขั้นตอนพ่นสี เป็นการเคลือบสี 2 ครั้งด้วยกัน ทั้งด้านใน ด้านนอก จะเป็นสีเดียวกันหมด ที่สำคัญตรงเพดานจะมีท่อทำให้อากาศสะอาด โดยใช้ประโยชน์ของละอองน้ำช่วยจับละอองสีไม่ให้ไปเกาะตามตัวรถ ดังนั้นรถจะสะอาดอยู่ตลอดเวลา
ในส่วนของเครื่องยนต์ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญอีกหนึ่งนอกจากตัวบอดี้ การผลิตเครื่องยนต์จะมีเครื่องจักรทั้งหมด 12 ตัว เป็นเครื่องจักรอุตสาหกรรมหนักจะผลิตส่วนต่าง ๆที่เป็นอะไหล่เครื่องยนต์ทั้งหมด เครื่องยนต์จะมาโครงเปล่าและเจ้าหน้าที่จะใส่วงแหวนต่าง ๆ เข้าไป ค่อย ๆ เติมที่ละชิ้น ตรงนี้ต้องแม่นยำ ตัวเพลาต้องประกบกัน ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้การประกอบเครื่องยนต์ ในหลายขั้นตอนมีการทำงานโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นหลักเพื่อให้ได้มาตรฐานแบบแป๊ะ ๆ เมื่อเครื่องยนต์ประกอบเสร็จจะมีการทดสอบโดยใส่เครื่องยนต์เข้าไปในกล่องซึ่งมีอยู่ 7 กล่อง พนักงานจะทำการทดสอบในส่วนต่าง ๆ ใช้งานไหมตรงกับสเป็กที่กำหนดหรือเปล่า ที่สำคัญในไลน์การผลิตจะมีพนักงาน QC ใส่เสื้อสีเขียวคอยเข้ามาตรวจเช็คตลอดเวลา
นอกจากนี้ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นจะมีบาร์โค้ดเพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบเวลาเกิดปัญหา ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดไม่ได้แตกต่างไปจากโรงงานในอิตาลี พูดง่าย ๆ คือ มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งทั้งหมดใช้เวลาในการประกอบรถออกมาจนเสร็จสมบูรณ์ 1 คัน ประมาณ 2 ชั่วโมงนิดหน่อย แน่นอนรถทุกคนถูกส่งออกไปจำหน่ายยังทั่วโลก รวมถึงเครื่องยนต์บางรุ่นก็ส่งกลับไปอิตาลี เช่นกัน
หลังจากเดินดูจนจบก็ไม่แปลกใจว่าทำไม เวสป้า ถึงเป็นรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ ที่ครองใจคนทั่วโลก
