โตโยต้า แกรนด์ ไฮแลนด์เดอร์ ใหม่ ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งานชิคาโกออโต้โชว์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ชูจุดเด่นด้วยห้องโดยสารแบบ 3 แถว รองรับได้สูงสุด 8 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Hybrid MAX กำลังสูงสุด 362 แรงม้า
โตโยต้า แกรนด์ ไฮแลนด์เดอร์ ถูกพัฒนาให้มีตัวถังขนาดใหญ่กว่า ไฮแลนด์เดอร์ รุ่นปกติที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ห้องโดยสารแบบ 3 แถว รองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 8 ที่นั่ง ซึ่งโตโยต้าระบุว่าเบาะนั่งแถวที่ 3 มีความกว้างขวางพอที่จะรองรับผู้โดยสารผู้ใหญ่ 3 คนได้อย่างสบายๆ ทั้งยังสามารถบรรทุกกระเป๋าสัมภาระแบบหิ้วขึ้นเครื่องได้ถึง 7 ใบ แม้ว่าจะมีผู้โดยสารทุกที่นั่งก็ตาม แต่หากพับเบาะนั่งแถวหลังลงจะขยายพื้นที่เก็บสัมภาระเพิ่มขึ้นเป็น 98 ลูกบาศก์ฟุต หรือประมาณ 2775 ลิตรเลยทีเดียว
ดีไซน์ภายนอกของ โตโยต้า แกรนด์ ไฮแลนด์เดอร์ ได้รับการพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม TNGA-K พร้อมทั้งมีรูปลักษณ์แตกต่างไปจาก ไฮแลนด์เดอร์ รุ่นปกติอย่างสิ้นเชิง ซึ่งหากดูด้วยสายตาแล้วแทบจะไม่มีชิ้นส่วนใดสามารถใช้ร่วมกันได้เลย โดยไฟหน้าแบบแอลอีดีถูกออกแบบให้มีความเพรียวบาง รับกับกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ และไฟท้ายทรงยาวที่ออกแบบให้ส่องสว่างเป็นรูปตัวซี ประดับด้วยสัญลักษณ์ GRAND HIGHLANDER เหนือช่องติดแผ่นป้ายทะเบียน
ภายในห้องโดยสารติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น รองรับการเชื่อมต่อ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto ได้ ทั้งยังมาพร้อมระบบเชื่อมต่อ Connected Service Drive Connect ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ เช่น ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ (Intelligent Assistant) ที่สามารถเริ่มต้นคำสั่งเสียงเพียงพูดคำว่า “Hey Toyota”, ระบบนำทางผ่านคลาวด์ (Cloud Navigation) เพื่อให้แผนที่อัปเดตล่าสุดอยู่เสมอ และบริการ Destination Assist ที่สามารถติดต่อศูนย์บริการเพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยตั้งค่าจุดหมายปลายทางได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ โตโยต้า แกรนด์ ไฮแลนด์เดอร์ ยังมาพร้อมช่องจ่ายไฟแบบ USB-C ถึง 7 ตำแหน่ง เพื่อให้เพียงพอต่อผู้โดยสารทุกคน รวมถึงช่องวางแก้วน้ำถึง 13 ตำแหน่ง ซึ่งสามารถบรรจุขวดดื่มขนาดใหญ่ได้ เสริมด้วยช่องจ่ายไฟแบบ AC กำลังสูงสุด 1,500 วัตต์ สำหรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ได้
ด้านขุมพลังมีให้เลือกถึง 3 รุ่น โดยทุกรุ่นสามารถเลือกได้ทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.4 ลิตร เครื่องยนต์ไฮบริด 2.5 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid MAX ที่มีแรงบิดสูงสุด 542 นิวตัน-เมตร (400 ปอนด์-ฟุต) สามารถเร่งความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. ได้ในเวลา 6.3 วินาที และรองรับน้ำหนักลากจูงได้สูงสุด 2,268 กิโลกรัม (5,000 ปอนด์)