หลังเปิดตัวทำตลาดในประเทศไทยได้เพียงเดือนกว่าๆ โควต้าการจำหน่าย 10,000 คัน ของ BYD ATTO3 ก็ได้หมดลงมีผู้จองเข้ามาครบจำนวนเรียบร้อย เรียกว่าเป็นการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย รวมถึงปลุกกระแสการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าให้กลายเป็นประเด็นที่ต้องกล่าวถึงกันในหมู่ผู้ใช้งานรถยนต์
ในอีกด้านหนึ่ง เรเว่ ออโตโมทีฟ ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของรถยนต์ BYD ในประเทศไทย ได้ซุ่มทำภารกิจลับด้วยการขับ BYD ATTO3 ทั่วประเทศไทยมีเป้าหมายเป็นระยะทาง 160,000 กม. ภายในระยะเวลา 6 เดือน โดยใช้รถคันแรกที่เข้ามาทำการทดสอบเพื่อพิสูจน์ความทนทาน ทีมงานได้เชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นสักขีพยานและทดลองขับ BYD ATTO3 คันดังกล่าวด้วย และนี่คือข้อมูลที่น่าสนใจซึ่งเรารวบรวมมาหลังจากได้ขับสำเร็จ
สภาพโดยรวม
เราได้ขับในช่วงเลขไมล์ที่ประมาณ 139,000 กม. แล้ว หลังจากที่ทีมงานของเรเว่า ได้ขับมาตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม โดยโปรเจ็คนี้ตั้งใจขับให้ครบ 160,000 กม. ตามระยะการรับประกันคุณภาพของเรเว่ แคร์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานรถยนต์ BYD ATTO3
ตัวถังรอบคันมีริ้วรอยและมีการบุบเล็กๆน้อยๆในหลายชิ้นส่วน เป็นอีกหนึ่งจุดที่พิสูจน์ให้เห็นว่า มีการขับอย่างแท้จริง และเมื่อสอบถามทีมงานระบุว่า จะมีการสลับกันขับตลอดเวลา มีคนเปลี่ยนกันขับหลายท่าน และจอดพักในช่วงเวลาที่ชาร์จไฟเป็นหลัก โดยในแต่ละวันจำเป็นต้องขับได้เฉลี่ย 900 กม. ฉะนั้นวันไหนที่ขาดหายหรือขับได้น้อยกว่า จะต้องมีการขับชดเชยต่อไป
ภายในห้องโดยสาร ยังคงสภาพเหมือนรถใหม่ วัสดุต่างๆ ยังไม่เสียหาย มีเพียงเบาะนั่งทางด้านหลังซ้ายที่เราไปนั่งแล้วรู้สึกว่า ฟองน้ำของเบาะยุบสัมผัสได้ถึงโครงสร้างของตัวเบาะ แต่เบาะฝั่งขวายังนั่งสบายอยู่ การใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ยังปกติ มีเพียงเรื่องของพวงมาลัยที่ขับแล้วเอียง คาดว่ามาจากการตั้งศูนย์ไม่ตรง
การบำรุงดูแล
ผ่านระยะทาง 140,000 กม. ทีมงานระบุว่า มีการเปลี่ยนใหญ่เพียง 1 รายการคือ ยางรถยนต์ โดยเปลี่ยนจากยางเดิม Atlas รุ่น Batman ที่ระยะทาง 80,000 กม. มาเป็นยางชุดใหม่ของ บริดสโตนรุ่น Alenza ขนาด 225/55R18 ซึ่งเป็นสเป็กมาตรฐานที่ติดตั้งมาจากโรงงาน ทั้งนี้สภาพของยางชุดแรกทีมงานบอกว่า ยังอยู่ในสภาพที่ดี
ขณะที่การดูแลอื่นๆ มีเพียงการเปลี่ยนของเหลวและเช็คระยะตามรอบการดูแลรักษาปกติ โดยของเหลวที่เปลี่ยนหลักคือ น้ำมันเกียร์ในชุดเฟืองส่งกำลัง ส่วนระบบขับเคลื่อนและระบบเบรกยังไม่มีความเสียหายใดๆ ซึ่งจะมีการเปลี่ยนผ้าเบรกในช่วงระยะทาง 140,000-150,000 กม.
การใช้พลังงาน
เรารับรถมาด้วยพลังไฟในแบตเตอรี่ที่ 92% พร้อมเซ็ตระยะทางการขับไว้ที่ 0 กม. และเมื่อเช็คการแสดงผลบนหน้าจอที่มีตัวเลขระยะทางรวมระบุค่าเฉลี่ยการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดกับระยะทางวิ่ง 139,061 กม. ที่ระดับ 16.9 kWh/100 กม. ซึ่งถือว่าเป็นค่าเฉลี่ยในระดับมาตรฐานของการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า
ส่วนการขับของเราได้ขับเป็นระยะทางจริง 100 กม. ใช้พลังงานไฟฟ้าไปทั้งสิ้น 32% หรือคิดเป็นประมาณ 18 kWh/100 กม. จากการขับขี่ที่ความเร็วไม่เกินกฎหมายกำหนด โดยเฉลี่ยจะอยู่ระหว่าง 80-120 กม./ชม. มีทั้งจังหวะเร่งแซงฉุกเฉินและวิ่งด้วยความเร็วสูงคงที่ รวมถึงทดลองใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ซึ่งเรานั่งไปทั้งสิ้น 4 คน เรียกว่าแบกน้ำหนักมากกว่า 300 กิโลกรัมด้วย
แบตเตอรี่
อย่างที่ทราบกันว่า BYD ATTO3 ใช้แบตเตอรี่แบบ เบลด แบตเตอรี่ ที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะของ BYD เท่านั้น มีความโดดเด่นในเรื่องของการระบายความร้อนได้ดีและลดความเสี่ยงจากการระเบิดได้มากกว่า 99% ผ่านการทดสอบด้วยการเจาะโดยไม่มีการระเบิดแต่อย่างใด
สำหรับขนาดความจุของคันที่เราขับ(รุ่น Extended Range) คือ 60 kWh ตามข้อมูลพื้นฐานระบุว่าวิ่งได้ระยะทางไกลสุด 480 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) ส่วนตัวเลขของคันนี้เมื่อใช้งานผ่าน 139,000 กม. ตัวเลขบนหน้าปัดเมื่อชาร์จเต็ม 100% ยังระบุระยะทางวิ่งที่ 480 กม.
ส่วนการขับจริงของเรา 92% วิ่งได้ระยะทางราว 300 กม. จากการสอบถามทีมงานระบุว่า แบตเตอรี่มีการเสื่อมไปทั้งสิ้น 4% (SOH = 96%) โดยตรวจสอบด้วยเครื่องมือ VDS ที่ระยะทาง 130,000 กม. การชาร์จไฟทั้งหมดมิได้มีการเก็บข้อมูลไว้ และการชาร์จส่วนใหญ่จะใช้การชาร์จแบบเร็วDC ตามสถานีชาร์จต่างๆ และจะมีการตรวจสอบอีกครั้งหลักจากวิ่งครบ 160,000 กม. ตามเป้าหมาย
สมรรถนะ
ในส่วนของสมรรถนะเปรียบเทียบการขับขี่กับคันที่เราได้เคยทดลองขับก่อนหน้า สารภาพตามตรงว่า คันที่วิ่งเกือบ 140,000 กม. ภาพรวมให้ความรู้สึกที่ดีกว่า โดยเฉพาะการทรงตัวและการโยนตัวของรถเมื่อขับด้วยความเร็วสูง เราบอกมาตลอดเรื่องของช่วงล่างที่รู้สึกว่า นุ่มและยวบไปเวลาเข้าโค้ง รวมถึงเมื่อขับด้วยความเร็วสูงจะมีการโยนตัวที่สัมผัสได้ชัด แต่คันนี้ที่แม้จะวิ่งอย่างสมบุกสมบันมาแล้ว กลับทำให้เรารู้สึกมั่นใจและตัวรถนิ่งกว่าคันอื่นชัดเจน
สิ่งที่แตกต่างจากการขับ BYD ATTO3 คันอื่นของเราคือ จำนวนผู้โดยสารที่มากกว่า กับยางที่เปลี่ยนไปแล้ว ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า ยางน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญกับความรู้สึกในการขับขี่ที่ดีขึ้นของเรา โดยความเร็วสูงสุดที่ผู้ร่วมเดินทางของเราขับได้คือ 170 กม./ชม. ต้องไม่ลืมว่านั่งกันทั้งหมด 4 คนด้วย เรียกว่าสมรรถนะอัตราเร่งและความแรงไม่แตกต่างจากรถใหม่
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ BYD ATTO3 คันนี้ยังไม่ใช่บทสรุปสุดท้าย เพราะระยะทางเป้าหมายที่ทีมงาน เรเว่ ออโต้โมทีฟ ตั้งใจพิสูจน์คือ 160,000 กม. ซึ่งเราจะรวบรวมข้อมูลทุกอย่างมานำเสนออีกครั้ง รวมถึงการใช้งานจริงที่ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่หลายคนอยากทราบข้อมูล
