xs
xsm
sm
md
lg

BMW iX xDrive40 ได้ใหญ่ ยังแรง แต่แบตน้อยไป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

iX เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในซีรีส์ที่สูงที่สุดของ บีเอ็มดับเบิลยู เปิดตัวทำตลาดในเมืองไทยมาปีกว่าแล้ว ด้วยตัวท็อป xDrive50 ล่าสุดเติมเต็มความต้องการของตลาดด้วยการเสริมไลน์อัพรุ่นย่อย xDrive40 อีกหนึ่งทางเลือกเมื่อปลายปีที่ผ่านมา กับราคาค่าตัวที่เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น 4,999,000 บาท โดยเป็นราคาที่รวมแพ็คเกจ BSI นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทางไว้เรียบร้อยแล้ว


ทั้งนี้หากยังจำกันได้ ทีมงานเอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง ได้ทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้าของค่ายใบพัดฟ้าขาวมาเกือบครบทุกรุ่น โดยเจ้า iX xDrive40 เป็นรุ่นล่าสุดที่เราได้ทดลองขับ ซึ่งต้องยอมรับว่า iX เป็นเทคโนโลยีของเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งเป็นพื้นฐานให้กับ i7 ที่เพิ่งจะเปิดตัวมา ฉะนั้นแม้จะใกล้เคียงแต่ย่อมมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร




ตัวใหญ่ ทรงพลัง แต่แบตน้อย

โครงสร้างของตัวถังออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยอาศัย CLAR Platform เป็นพื้นฐาน ใช้ทั้งเหล็กแข็งทนแรงดึงสูงและอลูมินัมนำมาเป็นโครงสร้างหลักประกอบกับตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ชนิดพิเศษ carbon fibre reinforced plastic (CFRP) เพื่อให้รถมีน้ำหนักเบาแต่คงความแข็งแรงเอาไว้ได้

ขึ้นชื่อว่า X ย่อมหมายความว่าเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ฉะนั้น iX จึงประกอบไปด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนแบบคู่ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยมีพละกำลังสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 630 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์แบบ Single Speed นับเป็นเจเนอเรชันที่ 5 ของการพัฒนาระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า สมรรถนะ เคลมตัวเลข อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.


แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียม ไอออนขนาดความจุ 76.6 kWh สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลสุด 425 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP) เรามองว่าน้อยไปสักหน่อยสำหรับรถใหญ่ขนาดนี้ รองรับการชาร์จไวแบบ DC ที่ 150 kW แตกต่างจากรุ่น xDrive50 ที่รองรับ 200 kW ระยะเวลาการชาร์จ 10-80% ใช้เวลาไม่เกิน 40 นาที ขณะที่การชาร์จปกติ AC รองรับสูงสุด 11 kW

ระบบช่วงล่างด้านหน้าดับเบิลวิชโบน(ปีกนกคู่) และด้านหลังเป็นแบบ 5-ลิงค์ พร้อมระบบถุงลมควบคุมด้วยไฟฟ้า สามารถปรับระดับความสูงของตัวรถได้ และระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่อการเข้าโค้งหรือเลี้ยวให้ง่ายขึ้น ดิสก์เบรก 4 ล้อ มีระบบ Regenerative Braking ชาร์จไฟกลับทุกครั้งเบรก โดยปรับการหน่วงได้ 3 ระดับ








การออกแบบภายในห้องโดยสาร มากับแนวทางใหม่ สไตล์โซฟาหรูในห้องรับแขก จอแบบยาวโค้งมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า BMW Curved Display พวงมาลัยทรงหกเหลี่ยมและจอ Head-Up Display ปุ่มควบคุมเป็นแบบสัมผัสและระบบเปลี่ยนเกียร์แบบ rocker switch เครื่องเสียง Harman Kardon Surround Sound System มีลำโพงฝังอยู่ในพนักพิงศีรษะ และระบบเสียงแบบ 4D เบาะหน้าสั่นได้ตามเสียงเบส


iX ใช้เซนเซอร์เจเนอเรชั่นใหม่ และซอฟต์แวร์ใหม่ กล้อง 5 ตัว เรดาร์เซนเซอร์ 5 ตัว และอัลตร้าโซนิกเซนเซอร์ 12 ตัวในการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบคัน ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go และระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus ใช้กล้องแสดงภาพรอบรถให้เห็นแบบสามมิติ พร้อมด้วยระบบ BMW Live Cockpit Professional และ BMW Intelligent Personal Assistant




หนึบ แน่น นั่งสบาย

การทดลองขับเราเน้นไปที่การใช้งานแบบในเมืองเป็นหลัก มีการวิ่งทางยาวๆ บ้างเล็กน้อย ไม่มีการออกเดินทางไกลไปต่างจังหวัด เนื่องจากถูกจำกัดระยะทางการวิ่งไม่ให้เกิน 500 กม. เริ่มต้นการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ภายในห้องโดยสาร สิ่งแรกคือ ชอบการออกแบบให้ความรู้สึกที่สบายตั้งแต่เข้ามานั่ง ตรงกลางระหว่างเบาะคู่หน้าและคอนโซลหน้าโล่ง เพราะใช้ระบบเกียร์ไฟฟ้าแล้วทำให้มีพื้นที่เหลือเฟือ

เบาะนั่งหนานุ่ม ไม่โอบกระชับ เน้นความโอ่อ่า คนตัวใหญ่นั่งสบาย พวงมาลัยรูปทรงแปลกตาแต่ไม่เป็นปัญหาในการขับขี่ กระจกหน้าบานใหญ่ แต่จัดวางในตำแหน่งที่ลึกเข้ามาพอสมควร ทำให้แดดส่งถึงตัวได้ง่าย ทัศนวิสัยดีทุกมุมมองแม้เสาเอจะค่อนข้างใหญ่ โดยโครงสร้างตัวถังทั้งหมดเป็นคาร์บอนข้อดีคือ เบาและแข็งแรง แต่จุดอ่อนคือหากเกิดการชนหรือเสียหายจะซ่อมยากต้องเปลี่ยนใหม่ ค่าใช้จ่ายสูง


พละกำลังของ iX xDrive40 ดูตามตัวเลขไม่เยอะมาก แต่แรงบิดอยู่ในระดับสูง และเมื่อได้ลองขับจริง การตอบสนองทันใจ ไม่พุ่งพล่านมากนัก กำลังดีสำหรับครอบครัว โดยเป็นการขับขี่ในโหมดปกติ ช่วงล่างให้ความรู้สึกที่หนึบแน่น ตัวรถนิ่งกว่ารถสันดาปภายในอย่างชัดเจน ไร้แรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ เหมาะมากสำหรับคนชอบความนิ่งเงียบ

ระบบช่วงล่างแบบถุงลมสามารถปรับระดับความสูงได้ บีเอ็มดับเบิลยู เซ็ตเอาไว้ให้ความรู้สึก นุ่มหนึบ ไม่ยวบย้วย และแข็งกระด้างน้อยกว่าตระกูลเอ็กซ์3 การขับขี่ในเมืองคล่องตัวเกินความคาดหมาย พวงมาลัยไฟฟ้าเบามือดี ตัวรถเป็นเอสยูวีขนาดกลาง การขับเข้าตรอกซอกซอยต่างๆ ไม่มีปัญหา ปัจจัยสำคัญมาจากการมีระบบช่วยเลี้ยว 4 ล้อ คือ ล้อหลังหักมุมเลี้ยวได้ ช่วยให้รัศมีวงเลี้ยวแคบลง


การลองอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในโหมดปกติ ถือว่ามีแรงดึงพอสมควร แต่เมื่อเปลี่ยนโหมดมาเป็นสปอร์ต ดึงแบบหลังติดเบาะอย่างชัดเจน เรียกว่าเป็นคนละอารมณ์ได้ ขณะที่โหมดอื่นๆ จะปรับเปลี่ยนในส่วนของบรรยากาศภายในห้องโดยสารเป็นสำคัญ เช่น โหมดรีแลกซ์ จะมีเพลงเบาๆ พร้อมเบาะนวดทำงานในทันที


อัตราการกินไฟ หากรถจอดหยุดนิ่งจะใช้พลังงานราว 1 kWh ต่อหนึ่งชั่วโมง ส่วนการขับขี่จะขึ้นอยู่กับว่ากดคันเร่งหนักหรือวิ่งเร็วมาแค่ไหน ยิ่งขับเร็วยิ่งกินไฟมาก ลักษณะเดียวกับการใช้งานรถสันดาปภายใน ด้านตัวเลขการใช้ไฟฟ้าของเรา ประมาณ 30% วิ่งได้ราว 120 กม. รวมๆ แล้วน่าจะวิ่งได้จริงราว 400 กม. โดยเรามีการจอดนอนทั้งคืนเป็นเวลา 8 ชั่วโมง ระบบไม่มีการตัดการทำงาน และใช้ไฟฟ้าไปทั้งสิ้น 10%


หันกลับมาดูที่ค่าตัว 4,999,000 บาท มองรอบด้านกวาดตาเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน เช่น Audi e-Tron จะมีขนาดตัวถังเล็กกว่า ส่วน เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังไม่มีทำตลาดในไทย แต่อนาคตมีแน่นอน ส่วนเลกซัสจะมีเฉพาะ PHEV ฉะนั้นหากมองเฉพาะไฟฟ้าล้วน iX xDrive40 ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย


เหมาะกับใคร

ผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการที่ชอบขับรถเอง อยากได้รถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี พลังงานไฟฟ้า ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมืองและวิ่งต่างจังหวัดได้ แต่พึงต้องเตรียมตัวและวางแผนก่อนการเดินทาง พร้อมมีแผนสำรองกรณีสถานีชาร์จไม่สามารถให้บริการได้ โดย iX xDrive40 อยู่ในระดับราคาที่ค่อนช้างสูง แต่นาทีนี้รถยนต์หาซื้อยากจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะเรื่องของการขาดแคลนชิ้นส่วน ฉะนั้นแล้วหากจองได้คงไม่ต้องคิดมาก
































กำลังโหลดความคิดเห็น