รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ครองที่ 1 ในไทย 34 ปีซ้อน กวาด 5 อันดับแรก รุ่นรถที่มียอดจำหน่ายสูงสุด เดินหน้ารุกตลาดปี 2023 ด้วยรถเซกเมนท์ใหม่ พร้อมยกระดับศูนย์ฯ งานบริการ และกิจกรรมที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในทุกซับคัลเจอร์
ไทยฮอนด้า เปิดเผยตัวเลขยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยปี 2565 ที่ 1.38 ล้านคัน ครองอันดับ 1 เป็นปีที่ 34 ติดต่อกัน พร้อมคว้าอันดับ 1 ทั้งเซกเมนท์รถครอบครัว รถเอ.ที. และรถสปอร์ต คาดตลาดปี 2566 จะยังเป็นไปในทิศทางที่ดี ในขณะที่ฮอนด้าตั้งเป้าเติบโตขึ้นจากรถเซกเมนท์ใหม่ และการทำ Digital & Experience Marketing อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้าง Brand Engagement และ Community สนองต่อไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ
ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยกล่าวว่า “ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ไทยปี 2022 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยตลาดรวมมียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 1.80 ล้านคัน เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 12% ทั้งนี้รถครอบครัวยังเป็นเซกเมนท์ที่ใหญ่ที่สุดด้วยส่วนแบ่งตลาดถึง 51.8% ตามมาด้วยกลุ่มรถเอ.ที. ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 43.5% เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 0.5% ถือเป็นกลุ่มที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กลุ่มรถสปอร์ตมีสัดส่วนอยู่ที่ 3.7%”
ในปี 2565 นี้ รถจักรยานยนต์ฮอนด้าปิดตัวเลขที่ 1.38 ล้านคัน เติบโตขึ้น 12% เท่ากับตลาดรวม โดย 5 โมเดลแรกที่มียอดจำหน่ายสูงสุดยังคงเป็นฮอนด้า นำโดย Honda Wave110i ที่มีตัวเลขอยู่ที่ 541,649 คัน ตามด้วยอันดับที่ 2 คือ Honda Wave125i มียอดจำหน่ายที่ 271,646 คัน อันดับที่ 3 เป็น Honda Scoopy มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 186,487 คัน อันดับที่ 4 คือ Honda PCX160 ด้วยยอดจำหน่ายที่ 150,501 คัน และอันดับที่ 5 Honda Click Series ที่มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 118,373 คัน จากตัวเลขดังกล่าวทำให้ Honda Wave110i ครองความเป็นที่ 1 ในกลุ่มรถครอบครัว และมี Honda Scoopy ครองอันดับ 1 ในกลุ่มรถเอ.ที. และในส่วนของกลุ่มรถสปอร์ต Honda CRF300L มียอดจำหน่ายสูงสุดในกลุ่มนี้ที่ 6,577 คัน
ชิเกโตะ คิมูระ กล่าวต่อว่า “สำหรับสภาพเศรษฐกิจในปี 2566 เราคาดการณ์ว่าจะยังมีแนวโน้มดีด้วยปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัว แต่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนซึ่งจะส่งผลกระทบกับการส่งออกของไทย จึงคาดการณ์ว่าตลาดรวมในปีนี้จะอยู่ที่ 1.75 ล้านคัน โดยฮอนด้าตั้งเป้าไว้ที่ 1.38 ล้านคัน เท่ากับปีที่ผ่านมา
ในส่วนของตลาดรถบิ๊กไบค์ หรือรถจักรยานยนต์ขนาด 400 cc ขึ้นไป ตลอดปี 2565 มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 17,467 คัน คิดเป็น 91% ของปีก่อนหน้า ในขณะที่ฮอนด้าทำยอดจำหน่ายได้ 6,598 คัน เติบโตขึ้น 2% และในปี 2566 นี้ คาดการณ์ว่าตลาดบิ๊กไบค์จะเติบโตขึ้นถึง 20,500 คัน หรือเพิ่มขึ้น 17% โดยปัจจัยสำคัญคือเทรนด์การเติบโตของรถในกลุ่ม Adventure ที่คนไทยหันมาให้ความสนใจกับกิจกรรมขับขี่ในสไตล์แอดแวนเจอร์ทัวริ่งมากขึ้นเรื่อยๆ โดยฮอนด้าตั้งเป้ายอดจำหน่ายไว้ที่ 8,150 คัน เพิ่มขึ้น 24%”
"ฮอนด้าพร้อมรุกตลาดปี 2566 ด้วยรถจักรยานยนต์เซกเมนท์ใหม่ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของคนไทย ผ่านศูนย์ฮอนด้า วิง เซ็นเตอร์ ที่ในปีนี้จะมีการปรับโฉมถึง 370 แห่ง พร้อมกับยกระดับการทำการตลาดออนไลน์บนทุกแพลตฟอร์มให้เป็นไปตามเทรนด์ปัจจุบัน รวมไปถึงการเพิ่มขีดความสามารถของแอพลิเคชัน My Honda Moto ให้สามารถรองรับงานบริการได้อย่างรวดเร็ว และหลากหลายมากยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ ฮอนด้ายังมุ่งไปในการสร้างคอมมูนิตี้เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในระดับซับคัลเจอร์ ด้วย Signature Event และกิจกรรมมากมายที่จัดร่วมกับร้านผู้จำหน่ายฯ ทั่วประเทศตลอดปี โดยเตรียมสร้างความคึกคักตั้งแต่ต้นปี 2023 ด้วย Big Event ในรูปแบบของเฟสติวัลที่รวมเอาความสนุกจากพรีเซนเตอร์ของฮอนด้ามาไว้ด้วยกัน โดยร่วมกับร้านผู้จำหน่ายฯในแต่ละพื้นที่เพื่อส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าทั่วประเทศ
ชิเกโตะ คิมูระ กล่าวปิดท้ายว่า “ขอบคุณคนไทยที่ให้ความเชื่อมั่นและสนับสนุนฮอนด้ามาโดยตลอด 34 ปี เราจะพยายามพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบความสุข ความพึงพอใจให้กับผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของเราอย่างไม่มีวันสิ้นสุด”