ปัจจุบันตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ในประเทศไทยกำลังขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ อันจะเห็นได้จากยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกเปิดตัวในช่วงปี 2565 ที่ผ่านมา ล้วนแต่ได้รับความนิยมอย่างสูงจนทำให้ออเดอร์พุ่งทะลุเป้าแทบทุกรุ่น ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าที่คาดการณ์ว่าจะถูกเปิดตัวในปี พ.ศ. 2566 ก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นกัน อาทิ
1. นิสสัน อริยะ
“อริยะ” เป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าของนิสสัน มีจุดเด่นอยู่ที่รูปลักษณ์ภายใต้ปรัชญาการออกแบบ “Timeless Japanese Futurism” หรือ “โลกแห่งอนาคตแบบญี่ปุ่นที่อยู่เหนือกาลเวลา” เน้นความเรียบง่ายแต่ทรงพลัง โดยที่ญี่ปุ่นมีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ e-4ORCE ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าถึง 4 ขนาด ให้กำลังสูงสุดตั้งแต่ 160 - 290 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่ที่ให้ระยะทางขับขี่ตั้งแต่ 430 - 610 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง
2. เมอร์เซเดส-เบนซ์ EQE
ภายหลังจากที่มีการแนะนำ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ EQS” ให้แก่ลูกค้าชาวไทยเมื่อช่วงกลางปี 2565 ที่ผ่านมา ก็คาดการณ์ว่าจะมีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกลางอย่าง “EQE” ภายในปี 2566 ที่จะถึงนี้ โดยเป็นรถยนต์ระดับเดียวกับ “อี-คลาส” แต่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนเพียงอย่างเดียว พร้อมทั้งย่อส่วนรูปลักษณ์ทั้งภายนอกและภายในมาจาก EQS วางจำหน่ายภายใต้รหัส EQE 300, EQE 350 4MATIC, EQE 350 และ EQE 500 4MATIC ส่วนรายละเอียดที่แน่ชัดสำหรับเวอร์ชันไทยต้องรอภายหลังจากการเปิดตัวอีกครั้ง
3. เมอร์เซเดส-เบนซ์ EQS SUV
สำหรับตลาดรถเอสยูวีขนาดใหญ่ก็คาดว่าจะถูกเสริมทัพด้วย “EQS SUV” อีกหนึ่งรุ่น ชูจุดเด่นด้วยห้องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง คล้ายกับ “GLS” ในปัจจุบัน ติดตั้งเทคโนโลยีไฟหน้า DIGITAL LIGHT เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ยามค่ำคืน พร้อมฟังก์ชันเลี้ยวล้อหลัง (Real-axle steering) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อให้การขับขี่เอสยูวีคันนี้มีความคล่องตัวทั้งในเมืองและนอกเมือง วางจำหน่ายภายใต้รหัส EQS 450 4MATIC และ EQS 450+
4. อาวดี้ Q4 e-tron และ Q4 e-tron Sportback
อาวดี้เป็นอีกหนึ่งแบรนด์จากเยอรมนีที่มีรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนหลายรุ่น โดยมีความเป็นไปได้ว่าอาวดี้ประเทศไทยอาจนำเอา Q4 e-tron และ Q4 e-tron Sportback เข้ามาเสริมทัพตลาดรถยนต์ไฟฟ้านอกเหนือไปจาก e-tron (หรือ Q8 e-tron ในตลาดโลก) และ e-tron GT ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน มีจุดเด่นอยู่ที่ขนาดตัวถังกะทัดรัด และราคาจำหน่ายเข้าถึงได้ง่ายกว่าอีก 2 รุ่นที่กล่าวไปข้างต้น
5. โลตัส เอเลเตอร์
เอเลเตอร์ (Eletre) เป็นรถยนต์ระดับ “ไฮเปอร์-เอสยูวี” รุ่นแรกจากค่ายโลตัส และยังเป็นรถรุ่นแรกที่ถูกออกแบบโดย Geely Design Studio มีขนาดตัวอยู่ในกลุ่มเอสยูวีขนาดกลางใกล้เคียงกับ ลัมโบร์กินี อูรุส และปอร์เช่ คาเยนน์ โดยเวอร์ชันแรงสุดของเอเลเตอร์มีชื่อว่า “เอเลเตอร์ R” ที่มีกำลังสูงสุดถึง 905 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0 - 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.95 วินาที มีระยะทางขับขี่อยู่ที่ 490 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง แต่หากเป็นรุ่นปกติจะสามารถขับขี่ได้ไกลสุดถึง 600 กิโลเมตรเลยทีเดียว
6. เอ็มจี อีพี รุ่นปรับโฉม
เอ็มจี อีพี ถือว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน 100% ที่มีราคาจำหน่ายเข้าถึงได้ง่ายที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดบ้านเราขณะนี้ เนื่องจากมีค่าตัวไม่ถึง 1 ล้านบาท แลกกับตัวถังแบบเอสเตทที่สามารถใช้งานได้จริง โดยปัจจุบันตลาดสหราชอาณาจักรได้วางจำหน่ายภายใต้ชื่อ “MG5 EV” ที่มีรูปลักษณ์ดูทันสมัยน่าใช้กว่าโฉมไทย และหากย้อนไทม์ไลน์กลับไปก็จะพบว่ารถรุ่นนี้ได้เวลาไมเนอร์เชนจ์แล้วเสียที หากว่าทางเอ็มจีประเทศไทยนำ อีพี รุ่นปรับโฉมเข้ามาจริงๆ แล้วล่ะก็ น่าจะเป็นตัวกระตุ้นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าให้มีสีสันได้อีกเยอะทีเดียว
7.ORA Grand Cat
ภายหลังจากที่เกรทวอลล์มอเตอร์ประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า ORA Good CatและGood Cat GTในประเทศไทย ก็เตรียมส่งORA Grand Catกระตุ้นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอีกหนึ่งรุ่น (หรือที่รู้จักกันในชื่อORA Lightning Cat)เน้นดีไซน์ภายนอกสไตล์สปอร์ตด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำเพียง 0.22 เท่านั้น ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีให้เลือกทั้งรุ่น204 แรงม้า และ408 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ที่ให้ระยะทางขับขี่ไกลสุดถึง705 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง
8.BYD Dolphin Rever
Automotiveผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYDในประเทศไทย เตรียมส่งBYD Dolphinทำตลาดต่อ จากATTO 3 ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจนทำให้ต้องปิดรับจองในเวลาอันสั้น โดยที่Dolphinจะทำตลาดในฐานะรถแฮทช์แบ็ก5 ประตูที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมหั้งห้องโดยสารที่ถูกตกแต่งอย่างล้ำสมัยเช่นเดียวกับATTO 3 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด290 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่เทคโนโลยีBlade Batteryที่ให้ระยะทางขับขี่ราว 401 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง
9.NETA U Pro
NETA U Proถูกพัฒนาให้เป็นรถเอสยูวีที่มีขนาดตัวถังใหญ่กว่าNeta Vในปัจจุบัน เน้นดีไซน์ที่มีความสมส่วนมากกว่าเหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหารถครอบครัวโดยตลาดจีนมีให้เลือกทั้งรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้า163 แรงม้า และ204 แรงม้าควบคู่ไปกับแบตเตอรี่ที่ให้ระยะทางขับขี่ตั้งแต่400 กม.500 กม. และสูงสุด610กม. อัดแน่นด้วยระบบความปลอดภัยขั้นสูง เช่น ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบช่วยประคองรถให้อยู่ในช่องทางและระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ
10.DFSK SERES 5
นอกเหนือจากVOLT City EV ที่เริ่มทำตลาดในประเทศไทยเมื่อปี2565 ที่ผ่านมาแล้วนั้น ทาง อีวี ไพรมัส ก็เตรียมเดินหน้าลุยตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มสูบด้วยการส่งSERES 5 เพื่อชิงส่วนแบ่งยอดจำหน่ายรถอีวีที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด อีกทั้งยังชูจุดเด่นด้วยเทคโนโลยีHump Intelligent Range Extender ที่พ่วงเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ1.5 ลิตรเข้ามาช่วยให้มีระยะทางขับขี่ไกลสุดมากกว่า1,000 กิโลเมตรโดยไม่ต้องจอดแวะชาร์จไฟหรือเติมน้ำมันแถมยังสามารถลดอัตราสิ้นเปลืองได้กว่า30 - 35% เมื่อเทียบกับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดทั้งหมดนี้เราต้องมาติดตามกันดูว่าจะมีรุ่นไหนเข้ามาทำตลาดไทยกันบ้าง เพราะตอนนี้ มีรถไฟฟ้าหลายรุ่น หลากแบรนด์มาเปิดตลาดในบ้านเรา
