ข่าวใหญ่ที่ทุกคนในวงการยานยนต์ไทยจับจ้องและให้ความสนใจกันมากในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา คือข่าวการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ “เทสลา” อย่างเป็นทางการในเมืองไทย เนื่องจากเทสลาถือเป็นแบรนด์รถไฟฟ้าที่ประสบความสำเร็จในตลาดทั่วโลก คนไทยต่างก็เฝ้ารอว่าเมื่อไร “เทสลา” จะเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยสักที
สุดท้ายความฝันก็เป็นจริง การเปิดตัวครั้งนี้มาพร้อมกับการแนะนำรถไฟฟ้าที่ได้รับความนิยม 2 รุ่น คือโมเดล 3 และโมเดล y โดยราคาของโมเดล 3 เริ่มต้น 1,759,000 บาท ส่วนโมเดล Y เริ่มต้น 1,959,000 บาท สร้างความฮือฮาไม่น้อยกับราคาไม่ถึงล้านบาท ที่สำคัญเปิดให้จองได้เลยผ่านเว็บไซต์ของเทสลา
อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวของเทสลามีมาอย่างต่อเนื่องถ้าติดตามข่าวคราวกันอยู่เริ่มจากเดือนเมษายน 2565 ได้มีการจดทะเบียนเริ่มต้น 3 ล้านบาท จัดตั้งธุรกิจในชื่อ บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด ต่อมาในเดือนกันยายน เปิดรับสมัครงาน 14 ตำแหน่ง และเดือนพฤศจิกายน เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 3 ล้านบาท เป็น 253 ล้านบาท จนเดือนธันวาคม ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมแนะนำรถไฟฟ้า 2 รุ่นที่จะขายในเมืองไทย
ผู้บริหารเปิดใจไทยเป็นตลาดสำคัญ
อีวอน ชาน ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เทสลา เจ้าของแบรนด์ให้การสนับสนุนอย่างเต็มทีโดยเฉพาะการจัดเตรียมรถที่จะเข้ามาทำตลาดไทยเพราะเล็งเห็นว่าประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคนี้ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ พันธมิตรธุรกิจและผู้ที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วนจึงทำให้เทสลามั่นใจอย่างมากในการทำตลาดรถไฟฟ้าในเมืองไทย
ช่วงแรกเราได้ทำการเปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่น โมเดล 3 และโมเดล Y โดยโมเดล 3 มีให้เลือก 3 รุ่นย่อยเช่นเดียวกับโมเดล Y มีให้เลือก 3 รุ่นย่อยเช่นกัน ผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อบน Configuration ออนไลน์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปและจะมีการส่งมอบรถได้ในไตรมาสแรกของปี 2566
สำหรับรถทุกรุ่นที่จะถูกส่งมอบในไตรมาสแรกของปีหน้ามีอยู่ประมาณ 1,000 คัน และ เจ้าของเทสลาจะได้รับสิทธิพิเศษในการซื้อแพ็กเกจ Home Charging แบบพรีเมียมที่มีจำนวนจำกัด พร้อมสไตล์และสีที่สามารถปรับแต่งได้ตลอดจนการเข้าประเมินสถานที่และการติดตั้งโดยผู้ที่ติดตั้งที่ได้การรับรองจากเทสลา
นอกจากนี้ เทสลา ตั้งเป้าเปิดศูนย์บริการ เทสลา แห่งแรกในไตรมาสแรก 1 แห่งหลังการส่งมอบรถชุดแรก เพื่อที่จะสามารถให้บริการที่มีมาตรฐานระดับโลกแก่เจ้าของรถทุกคนในประเทศไทย ส่วนSupercharger ( ซูเปอร์ชาร์จเจอร์ ) แห่งแรกของเทสลา สามารถเปิดให้บริการภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 และจะเพิ่มอีก 10 จุด ปีหน้าในเขตกรุงเทพฯ เพื่อให้รถสามารถชาร์จพลังงานเพื่อการเดินทางได้ด้วยเทคโนโลยี ซูเปอร์ชาร์จเจอร์ ที่ล้ำสมัย เจ้าของรถสามารถชาร์จในเวลา 15 นาที วิ่งได้ระยะทาง 275 กิโลเมตร ส่วนการรับประกัน 4 ปีหรือ 80,000 กิโลเมตรสำหรับแบตเตอรี่ และระบบขับเคลื่อน 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร
รายละเอียด 2 รุ่นใหม่
รถทั้ง 2 รุ่นโมเดล 3 และโมเดล Y ที่นำมาจำหน่ายในไทย เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก โดยโมเดล 3 เหมาะกับการใช้งานในเมือง ส่วนโมเดล Y เป็นรถเอสยูวี สำหรับครอบครัว
เทสลา โมเดล 3 เป็นรถซีดานไฟฟ้าที่มียอดขายทะลุ 1 ล้านคันทั่วโลกในปี พ.ศ. 2564 โมเดล 3 มีการออกแบบที่ไม่เหมือนกับรถยนต์ทั่วไป คุณสามารถใช้สมาร์ทโฟนเป็นกุญแจรถ และสามารถเข้าถึงระบบควบคุมของผู้ขับขี่ทั้งหมดบนหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 15 นิ้วที่ติดตั้งตรงกลาง หลังคาที่เป็นกระจกทั้งหมดที่เริ่มจากด้านหน้าไปถึงด้านหลังจะช่วยสร้างความรู้สึกที่โปร่งและโล่งสบายจากทุกที่นั่ง
ในส่วนของโมเดล 3 มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย (ดูตารางประกอบ) โดยเฉพาะ โมเดล 3 Long Range สามารถขับข้ามจังหวัดได้ระยะทางไกลสุด 681 กิโลเมตร หรือ โมเดล 3 Performance ที่มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 3.3 วินาทีและ ความเร็วสูงสุดที่ 261 กิโลเมตร/ชั่วโมง
โมเดล Y เป็นรถ เอสยูวี ไฟฟ้าที่ใช้แพลตฟอร์มซีดานจาก โมเดล3 ที่มีการออกแบบทั้งภายนอก ภายในมีระบบส่งกำลังไฟฟ้าที่คล้ายกัน ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุดถึง 2,100 + ลิตร โมเดล Y จึงเหมาะในการขับขี่สำหรับทุกสถานการณ์ รวมถึงการเดินทางในชีวิตประจำวัน การเดินทางไกล และแม้แต่การเดินทางตั้งแคมป์
โมเดล y มีให้เลือก 3 รุ่นย่อยเช่นกัน โดยเฉพาะ Model Y Long Range สามารถขับข้ามจังหวัดได้ระยะทางไกลสุด 623 กิโลเมตร*. หรือ Model Y Performance ที่มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 3.7 วินาทีและ ความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
รถยนต์ไฟฟ้าของ เทสลา ถูกสร้างขึ้นมาให้เกินมาตรฐานความปลอดภัย โดยได้รับการจัดอันดับความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจากหน่วยงานประเมินความปลอดภัยระหว่างประเทศหลากหลายหน่วยงาน รถทั้งรุ่น โมเดล 3 และรุ่น โมเดล Y จะมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมมอเตอร์ที่แยกจากกันสองตัวที่ช่วยให้ระบบ redundancy ทำงานดียิ่งขึ้น โดยแต่ละตัวจะมีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวเพียงชิ้นเดียวเพื่อความง่ายต่อการบำรุงรักษาและมีระดับความทนทานสูงสุด บวกกับหน้าจอสัมผัสขนาด 15 นิ้วอันเป็นเอกลักษณ์ของเทสลารวมถึงแอปพลิเคชัน เทสลา และ Autopilot อันเป็นเอกลักษณ์ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติต่าง ๆ ดังนี้:
-เพลิดเพลินไปกับระบบความบันเทิงส่วนตัวอย่าง YouTube Netflix และเกมอาร์เคดในขณะที่อยู่ในรถเทสลาได้อย่างสะดวกสบายโดยปราศจากการปล่อยก๊าซ CO2
-เข้าถึงเทสลา ของคุณผ่านแอปพลิเคชัน เทสลา บนมือถือเพื่อควบคุมการชาร์จ อุณหภูมิ และการรับรองความปลอดภัยด้วยโหมด Sentry ทุกที่ทุกเวลา
-คุณสมบัติของ Tesla Autopilot ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ในส่วนที่เป็นความยุ่งยากมากที่สุดในการขับขี่ และจะช่วยแนะนำคุณคุณสมบัติใหม่และช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบที่มีอยู่เพื่อให้เทสลา ของคุณปลอดภัยและมีศักยภาพมากขึ้น ผู้ขับขี่ยังสามารถอัปเกรดระบบเป็น Autopilot แบบยกระดับ (EAP) หรือ ความสามารถในการขับอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (FSD) เพื่อการใช้งานขั้นสูงเพิ่มเติม เช่น การนำทางบน Autopilot (NoA) และ ระบบจอดรถอัตโนมัติ เป็นต้น
* หมายเหตุ ระยะทางตามมาตรฐาน NEDC
หลากความคิดการมาของ เทสลา
การมาเปิดตลาดในไทยของเทสลา ย่อมสร้างความคึกคักให้กับตลาดรถยนต์ในบ้านเรา โดยเฉพาะในส่วนของภาครัฐบาล คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งเรื่องนี้ ทางบีโอไอ มองว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยและการที่เทสลาเลือกเปิดตัวในไทยเป็นประเทศที่สองในภูมิภาคอาเซียนต่อจากสิงคโปร์ เชื่อว่าเป็นเพราะนโยบายด้านยานยนต์ไฟฟ้าของไทยมีความชัดเจนและเป็นการโปรโมทให้ไทยอีกทางหนึ่ง ซึ่งบีโอไอ มุ่งมั่นที่จะเจรจาให้เทสลามาสร้างโรงงานผลิตในประเทศไทยเพราะหากมีแผนทางรัฐบาลจะได้ให้มาตรการส่งเสริมเต็มที
คณะที่ภาคเอกชนมีความคิดเห็นว่าการที่เทสลาเข้ามาทำตลาดในไทยพร้อมเปิดราคารถ 2 รุ่นไม่ถึง 2,000,000 บาท ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการรถยนต์ในไทยทั้งจากรถไฟฟ้าค่ายจีน รวมไปถึงค่ายญี่ปุ่น เพราะราคาเริ่มต้น 1,700,000 บาท ใกล้เคียงกับฮอนด้า แอคคอร์ด ,โตโยต้า คัมรี่ ซึ่งรถระดับราคาประมาณนี้ได้รับผลกระทบแน่นอน หรืออย่างน้อยเป็นตัวเลือกหนึ่งถ้าคนจะซื้อรถราคา 1,800,000 บาท อาจจะหันมามองเทสล่า โมเดล Y ก็เป็นได้
เกรย์มาร์เก็ต กระทบแน่นอน
ก่อนที่เทสลาจะเข้ามาทำตลาดอย่างเป็นทางการ ได้มีผู้นำเข้าอิสระหรือเกรย์มาร์เก็ต นำรถยนต์เทสลามาขายในไทยสักพักใหญ่ เพียงแต่ราคาที่ผู้นำเข้าอิสระจำหน่ายจะสูงกว่าที่เทสลาจำหน่าย คือแตกต่างกันเป็นหลักล้านบาท ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ลูกค้าอาจจะหันมาซื้อรถจากเทสลา ประเทศไทยแทน บวกกับตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่า เทสลา จะมีนโยบายรับรถจากผู้นำเข้าอิสระมาเข้าศูนย์บริการหรือไม่ อาจต้องรอความชัดเจนต้นปีหน้าอีกครั้ง แต่หากอ้างอิงจากเทสลาสิงคโปร์ก็มีโอกาสที่ศูนย์บริหารหลักจะรับรถที่ผู้นำเข้าอิสระเข้าซ่อมเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามการมาของเทสลาส่งผลให้ตลาดรถไฟฟ้าในบ้านเราเติบโตขึ้นในทิศทางที่เป็นบวกแน่นอนเพราะเป็นการมาของบริษัทแม่เอง นั่นหมายความว่าเทสลามั่นใจตลาดรถยนต์ในเมือไทยระดับหนึ่ง ที่สำคัญยังมาสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าคนไทยที่ยังสงสัยว่ารถไฟฟ้าใช้งานได้จริงหรือ บวกกับราคาเริ่มต้น 1,700,000 บาท อาจจะช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้น ที่สำคัญเทสลา เป็นแบรนด์สากล มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สมรรถนะดีเยี่ยม จะกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวรายล่าสุดสำหรับในตลาดรถยนต์บ้านเรา