โตโยต้า ปรับโฉม “ไฮลักซ์ รีโว่ ดี” (Hilux REVO D) ใหม่ เพื่อตอบสนองการใช้งานของลูกค้า ทั้งการใช้งานบรรทุกและเน้นการใช้งานประจำวันในรูปแบบรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ โดยเพิ่มความคุ้มค่าน่าใช้มากยิ่งขึ้น
ล่าสุดโตโยต้าเชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบ รุ่น Revo-D Z –Edition Lo-Floor ที่ออกแบบมาเพื่อเจาะกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงาน กลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งเน้นการใช้รถในชีวิตประจำวันและใช้รถในการพักผ่อนช่วงวันหยุด รวมถึงกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง ,ผู้หญิง หรือเจ้าของกิจการรุ่นใหม่ โดยเส้นทางขับจากกรุงเทพไปเขาใหญ่
สำหรับรถคันที่ทดสอบเป็น ไฮลักซ์ รีโว่-ดี 4 ประตูตัวเตี้ย มีการปรับปรุงเพิ่มเติมหลายจุด โดยเฉพาะช่วงล่างใหม่ให้เทียบเคียงกับรถเก่งมากขึ้น แต่ยังบึกบึนทนทานและแข็งแรง ช่วงล่างด้านหน้ามีการจูนอัพในส่วนตัวโช๊คสปริงใหม่ เพื่อช่วยให้การทรงตัวดี มั่นคง เวลาใช้ความเร็วสูง ขณะเดียวกันเมื่อรถวิ่งความเร็วต่ำ ๆ ในเมืองจะให้ความนุ่มสบาย ส่วนด้านท้ายก็มีการปรับจูนโช๊คอัพใหม่เช่นกันทำให้เวลาขับ หนึบแน่น เกาะถนน ทรงตัวมั่นใจ สุดท้ายในส่วนของแหนบมีการออกแบบใหม่ให้ยาวขและใหญ่กว่าเดิม เพื่อให้การซับแรงกระแทกให้ดีขึ้น
รวมถึงลดความสูงของช่วงล่างลง 23 มิลลิเมตร ปรับขนาดล้ออัลลอยด์จากเดิม 16 เป็น 17 นิ้ว เป็นล้อของรถรุ่น โคโรลล่า ครอส ใช้ยาง Radial ขนาด 215/55 R17 เป็นยางของรุ่นคัมรี่ เพื่อให้การขับนุ่มนวลมากขึ้น
ผลที่ได้คือ รถให้ความนุ่มนวลมากขึ้น ใกล้เคียงกับรถเก๋ง ไม่มีอาการโคลงขณะเข้าโค้ง อัตราเร่งยังดีเหมือนเดิม โดยทางโตโยต้า ต้องการให้รุ่นนี้เป็นเหมือนรถกระบะที่มีไว้ใช้เป็นพาหนะส่วนตัวในชีวิตประจำวัน (นอกจากการใช้ขนสัมภาระ) ซึ่งก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว
ช่วงทดสอบขับลุยฝนที่ตกมาตลอดวันแม้จะต้องขับขึ้นหรือลงเขา ทำได้น่าประทับใจ แน่นอนการขับดีขึ้น ช่วงล่างสมบูรณ์มากกว่าเดิมเยอะ เครื่องยนต์แม้จะ 2.4 ลิตร จับคู่กับเกียร์ ออโต้ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ก็ต้องบอกว่าถ้าใช้งานธรรมดาก็พอเพียงแล้ว เพราะเวลาเรากดคันเร่งนิดเดียวมันก็ทะยานไปได้ โดยไม่ต้องรอรอบเครื่อง การส่งถ่ายกำลังสมูท นุ่มนวลไม่กระชาก แต่น่าเสียดายที่รถรุ่นนี้ไม่มีกล้องมองหลังพร้อมเซนเซอร์ ทำให้การขับถอยหลังต้องใช้ความระมัดระวัง
สำหรับพวงมาลัยปรับจูนเป็น Variable flow control ควบคุมพวงมาลัยแปรผันตามระดับความเร็วทำให้สามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ ใน SPORT MODE ช่วยการขับขี่สะดวกสบายมากด้วยการปรับการทำงานของคันเร่งให้ตอบสนองเร็วยิ่งขึ้นและปริมาณการทำงานของพวงมาลัยให้มีน้ำหนัก เหมาะสำหรับการเร่งแซงและการขี่ที่ใช้ความเร็วสูง ถ้าขับช้าจะเบา ขับเร็วก็จะหนัก ฉะนั้นสุภาพสตรีกำลังมองหารถกระบะสักคัน เลือกคันนี้ไม่ผิดหวัง
หน้าตาภายนอกมีการปรับเพิ่ม เริ่มจากไฟหน้า Bi-Beam LED มาพร้อมระบบเปิด-ปิด อัตโนมัติ ระบบ Follow-Me-Home ระบบไฟหน้าสูงต่ำ ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding กระจังหน้าสีดำเมทัลลิกและโครเมียม โป่งล้อ Wide Body กระจกมองข้ามสีดำปรับไฟฟ้า ติดตั้งเลนส์ไฟเลี้ยวภายใน มือจับที่เปิดประตูสีดำ สัญลักษณ์ Hilux และสติกเกอร์ Toyota 60 Year in Thailand
ส่วนภายในได้มีโอกาสนั่งด้านหน้าและหลังต้องบอกว่าด้านหลังนั่งสบายไม่อึดอัด และนุ่มสบายหลังมีการปรับช่วงล่างใหม่ รู้สึกได้ เบาะหุ้มด้วยผ้าสีดำ จดภาพมอนิเตอร์สั่งงานด้วยระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับอินโฟเทนเมนท์เชื่อมต่อได้ทั้งสองระบบ Apple Carplay และ Android Auto ช่อง USB พวงมาลัยสามก้านติดตั้งสวิตช์มัลติฟังก์ชันปรับตั้งเครื่องเสียงหรือปุ่มสั่งงานต่าง ๆ การสตาร์ทเครื่องยนต์เป็นกุญแจแบบเสียบ
มิติตัวถัง ขนาดความยาว 5,285 มม. กว้าง 1,855 มม. สูง 1,700 มม. ความยาวล้อ 3,085 มม. ในรุ่น 2.4Mid AT และ รุ่น 2.4Entry AT ระยะต่ำสุดจากพื้น 141 มม.(รุ่นเดิม 165 มม.) ในรุ่น 2.4Mid และรุ่น 2.4 Entry MT มีระยะต่ำสุด 131 มม. (รุ่นเดิม 154 มม.) ความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ด้านหลัง แบบแหนบซ้อน พร้อมช็อคแอบซอร์บเบอร์ปรับจูนพิเศษระบบความปลอดภัย มาเต็มไม่ว่าจะเป็น ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ,ระบบกระจายแรงเบรก EBD ,โครงสร้างนิรภัย GOA ,ถุงลมนิรภัย SRS และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ไล่ฝ้ากระจกหลัง เข็มขัดนิรภัย 3 จุด ทุกตำแหน่ง
รุ่นที่ขายมีอยู่ 4 รุ่นย่อย คือ รุ่น Double Cab Z Edition 4×2 2.4 Entry ราคา 692,000 บาท ,รุ่น Double Cab Z Edition 4×2 2.4 Entry AT ราคา 732,000 บาท ,Double Cab Z Edition 4×2 2.4 Mid ราคา 758,000 บาท และ Double Cab Z Edition 4×2 2.4 Mid AT ราคา 805,000 บาท (คันทดสอบ)
ถึงบรรทัดนี้ต้องบอกว่า ไฮลักซ์ รีโว่-ดี 4 ประตู คันนี้ ราคาเดิม 805,000 บาท ไม่มีการปรับราคาขึ้นทั้งมีการปรับปรุงหลายจุด ซึ่งการปรับดังกล่าวทำให้รถรุ่นนี้น่าจะตอบโจทย์คนที่ไม่ชอบกระบะยกสูงไม่ต้องปีนขึ้น ขับเที่ยวก็ได้ ใช้บรรทุกได้ด้วย ที่สำคัญขับดี แรงพอตัว ช่วงล่าง หนึบเกาะถนน นุ่มนิ่ม นั่งหลังสบาย ถือเป็นรถกระบะที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่น
