ในโอกาสฉลองครอบรอบ 50 ปี "Tantris" เครือร้านอาหารที่ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งนครมิวนิก ประเทศเยอรมนี งานฉลองย่อม "ไม่ธรรมดา" เริ่มจากยนตรกรรมสุดล้ำ The New BMW i7 ที่จอดต้อนรับแขกอยู่บริเวณด้านหน้า ไปจนถึง 7 เมนูอาหารฝีมือ 2 เชฟมิชลินสตาร์ ที่เป็นเมนูมังสวิรัติล้วนๆ !!!
ถ้าถามว่า "BMW" กับ "Tantris" มีอะไรที่เหมือนกัน???
คำตอบคือ ทั้งคู่ “ล้ำ” อยู่เสมอ
เพราะ “สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา” โดยยังคงรากเหง้าความเป็นตัวตนของตัวเองไว้อย่างชัดเจน
Tantris ล้ำกว่าใคร ทั้งอาหารและตัวร้าน เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1971 ปัจจุบันอายุ 50 ปีเต็ม ตัวอาคารออกแบบโดย จัสติส ดาอินเดน (Justus Dahinden) สถาปนิกและนักออกแบบชาวสวิส ตัวอาคารได้รับการรับรองให้เป็นอาคารอนุรักษ์เมื่อปี 2012 เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมของนครมิวนิกเช่นเดียวกับ “อาคารลูกสูบ” (Vierzylinder) อาคารสำนักงานใหญ่ของ BMW
จากวันนั้นถึงวันนี้ อาณาจักร Tantris เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย เฟลิกซ์ ไอช์บาวเออร์ (Felix Eichbauer) เจ้าของคนปัจจุบันซึ่งรับมรดกต่อจากพ่อของเขา ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างร้านใหม่ให้มี 2 ร้านอาหารและ 1 บาร์อยู่ใต้หลังคาเดียวกัน โดย "Tantris" ร้านมิชลินสตาร์ 2 ดาว ยังคงอนุรักษ์ความเป็นร้านอาหารฝรั่งเศดั้งเดิมเอาไว้เหมือนเมื่อ 50 ปีก่อน บริหารงานโดยเชฟ เบนจามิน ชุมูระ (Benjamin Chmura) ขณะที่ "Tantris DNA" ร้านมิชลินสตาร์ 1 ดาว จะเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสสไตล์โมเดิร์น เสิร์ฟเมนูอาหารฝรั่งเศสที่ประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัย โดยยังคงความเป็น Tantris เอาไว้ บริหารงานโดยเชฟ เวอร์จินี โปรทาต (Virginie Protat) และสุดท้ายคือ "Tantris Bar"
ในงานกาลาดินเนอร์ฉลองครบรอบ 50 ปี Tantris วัตถุดิบออแกนิกส์นานาชนิดถูกนำมารังสรรค์เป็นอาหารชั้นเลิศ โดยเชฟ เบนจามิน ชุมูระ และเชฟ เวอร์จินี โปรทาต ร่วมกับเชฟ แดเนียล ฮัมม์ (Daniel Humm) เจ้าของร้าน Eleven Madison Park ร้านมิชลินสตาร์ 3 ดาวในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ที่ได้รับเชิญมาเป็นพิเศษ เพื่อการครีเอทเมนูมังสวิรัติโดยเฉพาะ
มะเขือม่วง มะเขือเทศ อาติโช้ค และหน่อไม้ฝรั่ง ถูกนำมาหั่นเป็นชิ้นขนาดเท่า ๆ กัน ลวก พับ และห่ออย่างประณีตบรรจง ในครัว ทุกวินาทีที่มีค่า ต้องทำงานแข่งกับเวลา มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบตามความเชี่ยวชาญของเชฟแต่ละคน ก่อนนำมาประกอบรวมกัน ดูไม่ต่างจากในโรงงานผลิตรถยนต์
พ่อของเชฟ เบนจามิน ชุมูระ เป็นคอนดักเตอร์ หรือวาทยากร ดังนั้นเขาจึงเกิดมาเพื่อเป็นคอนดักเตอร์ของวงออเครสตร้าในครัว “ไม่มีอะไรราบรื่น 100% เมื่อมีปัญหา คุณต้องแก้ปัญหา และมองโลกในแง่ดี และดึงทีมของคุณไปพร้อมกัน”
สำหรับเมนูมังสวิรัติ มันไม่ง่ายที่จะถอดปลาและเนื้อสัตว์ออกจากเมนูโดยยังคงความอร่อยเอาไว้ แต่ แดเนียล ฮัมม์ ทำได้ นั่นทำให้ Eleven Madison Park เป็น 1 ใน "50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก"
ระหว่างทางไป Tantris แดเนียล ฮัมม์ นั่งที่เบาะหลังของ The New BMW i7 มือของเขาไล่สัมผัสไปตามเบาะนั่ง แผงประตู และพื้นผิว ในขณะที่จอ BMW Theater Screen 8K ขนาด 31.3 นิ้ว ก็สร้างความประทับใจให้กับเขาไม่น้อย
ฮัมม์รักในงานศิลปะและสถาปัตยกรรม สิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ดวงตาของเชฟหนุ่มเป็นประกายเมื่อนึกถึงวันที่เขาได้เข้าร่วมคอร์สฝึกอบรมทักษะการขับขี่ที่ BMW Driving Academy เขาเชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นไหนหรืออาหารจานไหนหรือเมนูไหน การขับรถและการทำอาหารก็มีความคล้ายคลึงกัน
“มันเป็นเรื่องของความรู้สึกและช่วงเวลาพิเศษ เมื่ออารมณ์ นวัตกรรม และความสุนทรีย์ หลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างพิเศษ สิ่งที่คล้ายกันอีกอย่างระหว่างนักออกแบบรถยนต์และเชฟก็คือ เราได้สร้างรถที่เป็นไอคอนหรือสร้างเมนูซิกเนเจอร์ขึ้นมา”
ความคิดสร้างสรรค์ คือสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างสิ่งที่จะกลายเป็นความคลาสสิกในวันข้างหน้า สำหรับ BMW การคิดนอกกรอบเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างอนาคตที่ยังมาไม่ถึง เหมือนแนวคิด Forwardism ที่เชื่อว่า โลกสามารถแตกต่างได้จากที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เหนือสิ่งอื่นใดคือ เราต้องเปลี่ยนแปลงปัจจุบัน
… เพราะสุนทรียภาพอยู่ในรายละเอียด …
ยังมีเรื่องราวดี ๆ อีกมากมายเกี่ยวกับ BMW ติดตามได้ที่เว็บไซต์ BMW Thailand , Facebook : BMW Thailand และ Youtube : BMW Thailand
#BMW #BMWTH #THEi7 #ThisIsForwardism #BMWi #BornElectric #JOYisBMW #สุนทรียภาพแห่งการขับขี่