MG4 Electric ถูกเปิดตัวพร้อมประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในยุโรป ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% มีให้เลือกทั้งรุ่น 170 แรงม้า และ 204 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 28,990 ยูโร หรือประมาณ 1 ล้านบาท
MG4 Electric เป็นรถแฮทช์แบ็ก 5 ประตูขนาดกลางขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% ถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม MSP (Modular Scalable Platform) ที่พัฒนาโดยเครือ SAIC Motor ซึ่งเอ็มจีระบุว่าจะมอบประสิทธิภาพการขับขี่ด้วยไฟฟ้าที่น่าประทับใจ, การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม และระบบช่วยเหลือการขับขี่อันล้ำสมัย โดยตลาดยุโรปมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Standard, Comfort และ Luxury
เริ่มต้นที่รุ่น Standard ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 170 แรงม้า (125 kW) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.7 วินาที จำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 160 กม./ชม. พร้อมแบตเตอรี่ Lithium iron phosphate ความจุ 51 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางราว 350 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (ตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP) รองรับการชาร์จด่วน (DC) ด้วยกำลังไฟสูงสุด 117 kW สามารถชาร์จจาก 10-80% ในเวลา 40 นาที
ส่วนรุ่น Comfort และ Luxury ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 204 แรงม้า ให้แรงบิดเท่ากันอยู่ที่ 250 นิวตัน-เมตร แต่มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ช้ากว่ารุ่น Standard เล็กน้อยอยู่ที่ 7.9 วินาที และถูกจำกัดความเร็วไว้ที่ 160 กม./ชม. เช่นเดียวกัน ขณะที่แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 64 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางไกลสุด 450 กิโลเมตรในรุ่น Comfort (และ 435 กิโลเมตรในรุ่น Luxury) รองรับการชาร์จด่วนด้วยกำลังไฟสูงสุด 135 kW ช่วยลดระยะเวลาชาร์จไฟจาก 10-80% เหลือราว 35 นาที หรือชาร์จเป็นเวลา 32 นาที เพื่อให้ได้ระยะทางขับขี่ประมาณ 300 กิโลเมตร
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ถูกออกแบบโดย SAIC Motor Design Center ในกรุงเซี่ยงไฮ้ร่วมกับ Advanced Design Studio ในกรุงลอนดอน และ Royal College of Art ในประเทศอังกฤษเช่นเดียวกัน ตัวถังมีความยาว 4,287 มม. ความกว้าง 1,836 มม. ความสูง 1,504 มม. และความยาวฐานล้อ 2,705 มม. พร้อมห้องโดยสารรองรับได้ 5 ที่นั่ง และมีพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายขนาด 350 ลิตร หรือขยายเป็น 1,165 ลิตรเมื่อพับเบาะหลังลง
ขณะที่ชุดไฟหน้าประกอบด้วยหลอด LED ขนาดเล็กจำนวน 28 หลอด และแถบไฟเบอร์ออปติกแนวตั้งจำนวน 6 แถบ ทำงานคู่กับไฟเลี้ยวแบบ LED ที่แยกติดตั้งไว้บริเวณกันชน ขณะที่ไฟท้ายประกอบไปด้วยหลอด LED จำนวนถึง 172 หลอดเพื่อเพิ่มความโดดเด่นบนท้องถนนยามค่ำคืน เสริมความสะดุดตาด้วยสปอยเลอร์หลังคาแบบ Dual-wing และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วเป็นมาตรฐาน
ภายในห้องโดยสารชูจุดเด่นด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 10.25 นิ้ว ทำงานคู่กับระบบเชื่อมต่อ MG iSMART พร้อมรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto นอกจากนี้ แบตเตอรี่ของ MG4 Electric ยังสามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอก (Vehicle-to-load) เช่น จักรยานไฟฟ้า, สมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์ผ่านสายอะแดปเตอร์ได้
MG4 Electric ถูกติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ MG Pilot ที่ประกอบด้วยระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW), ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB), ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติตามคันหน้า (ACC), ระบบช่วยขับขี่ขณะรถติด (TJA), ระบบเตือนรถออกนอกเลน (LDW) และระบบช่วยประคองรถให้อยู่ในเลน (LKA) เสริมด้วยระบบควบคุมไฟสูงอัจฉริยะ (IHC - Intelligent Headlamp Control), ระบบช่วยควบคุมความเร็ว (SAS - Speed Assist System), ระบบเตือนการเปิดประตู (DOW - Door Opening Warning) และระบบเตือนการขับขี่ไม่มั่นคง (UDW - Unsteady Driving Warning) ทำงานผ่านกล้องที่อยู่ภายในห้องโดยสาร เป็นต้น