เปิดสเปก BYD ATTO 3 รถไฟฟ้ารุ่นแรกจาก บริษัท เร-เว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 เดือน ตุลาคม ปีนี้ พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 204 แรงม้า และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ BYD Blade Battery Lithium-ion phosphate (LFP) ที่ให้ระยะทางขับขี่กว่า 480 กม. ต่อการชาร์จแต่ละครั้ง
BYD ATTO 3 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่จะถูกทำตลาดอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้การบริหารของ บริษัท เร-เว่ ออโตโมทีฟ จำกัด (Rêver Automotive) ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวเดือนตุลาคม นี้ ภายหลังจากที่มีการร่วมลงนามแสดงเจตนาเพื่อเข้าร่วมมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ากับกรมสรรพสามิต เพื่อให้ได้รับสิทธิลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2% และเงินอุดหนุนภาษี 150,000 บาท โดยภายในปี 2567 บีวายดีจะต้องผลิตชดเชยให้ได้ 1 เท่าของจำนวนที่นำเข้ามาจำหน่าย
BYD ATTO 3 เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent magnet sycnchronous motor ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (150 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.3 วินาที และส่งกำลังทั้งหมดไปยังล้อคู่หน้า
ขณะที่แบตเตอรี่ของ BYD ATTO 3 เป็นเทคโนโลยีที่เรียกว่า Blade Battery ที่พัฒนาโดยบีวายดีเอง มีความจุให้เลือก 2 ขนาด คือ 49.92 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางขับขี่ 410 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (ภายใต้มาตรฐานการทดสอบ NEDC) และขนาด 60.48 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่เพิ่มระยะทางขับขี่ขึ้นเป็น 480 กิโลเมตรต่อหนึ่งชาร์จ
การชาร์จไฟเป็นแบบกระแสสลับผ่านหัวชาร์จ Type 2 รองรับกำลังไฟสูงสุด 7 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จจาก 0 - 100% ภายในเวลา 8 ชั่วโมง 30 นาที และรองรับการชาร์จด่วนแบบกระแสตรง DC Fast Charging กำลังไฟสูงสุด 80 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จจาก 30 - 80% ในเวลา 30 นาที
ตัวถังของ BYD ATTO 3 มีความยาวตลอดคันอยู่ที่ 4,455 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,875 มิลลิเมตร ความสูง 1,615 มิลลิเมตร และความยาวฐานล้อ 2,720 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักตัวรถเปล่าอยู่ที่ 1,680 กิโลกรัม และ 1,750 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่
หากอ้างอิงตามสเปกของออสเตรเลียพบว่ามีให้เลือกเพียงรุ่นย่อยเดียวเท่านั้น มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานภายนอก เช่น ไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (High-Beam Assistant), ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, ไฟท้ายแบบ LED, หลังคาพาโนรามิกซันรูฟเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า, ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า, กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้าพร้อมระบบไล่ฝ้า และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางฝั่งผู้ขับขี่ และปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางฝั่งผู้โดยสาร พร้อมด้วยเบาะนั่งด้านหลังที่สามารถปรับพับแยกแบบ 60:40 ชูจุดเด่นด้วยหน้าจอขนาด 12.8 นิ้ว ที่สามารถหมุนแนวตั้งหรือแนวนอนได้ตามความต้องการ รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง ทั้งยังมีช่องเชื่อมต่อแบบ USB-C และระบบชาร์จไฟไร้สายมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ส่วนระบบความปลอดภัยมีให้เต็มพิกัดไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันการชนด้านหน้า, ระบบเตือนการชนด้านหลัง, ระบบเตือนมุมอับสายตา, ระบบเตือนรถเคลื่อนผ่านขณะถอยหลังพร้อมฟังก์ชันช่วยเบรก, ระบบช่วยประคองรถให้อยู่ในเลน, ระบบช่วยป้องกันรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ, ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติตามรถคันหน้าแบบ Stop & Go, กล้องมองภาพ 360 องศา และเซ็นเซอร์กะระยะรอบคัน เป็นต้น
