ไทยฮอนด้า ประกาศพร้อมลุย จยย. EV เตรียมเซ็น MOU เข้าร่วมโครงการสนับสนุนจากรัฐบาล ประเดิมโมเดลแรกขายแน่ภายในปีนี้ คาดตลาดรถจักรยานยนต์ไทยจะแตะระดับ 1.74 ล้านคันบวก 8% ส่วนฮอนด้า วางเป้าโต 10% แตะระดับ 1.359 ล้านคัน
นายชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า ฮอนด้ามีความประสงค์ในการเข้าร่วมเซ็น MOU กับภาครัฐของไทยเพื่อรับการสนับสนุนในการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะได้รับส่วนลด 18,000 บาทต่อคัน โดยอยู่ระหว่างการดำเนินงาน
การดำเนินจะเป็นการนำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบภายในประเทศช่วงไตรมาสสี่ของปีนี้ โดยเป็นรุ่น Benly e ที่ปัจจุบันได้มีการทำโครงการนำร่องให้เช่าใช้งานแล้ว ส่วนการจำหน่ายคาดว่าจะเป็นแบบองค์กรต่อองค์กร(BtoB)ในช่วงแรก
“รัฐบาลตั้งเป้าหมายยอดจดทะเบียนจักรยานยนต์ไฟฟ้าปีนี้ไว้ที่ 40,000 คัน แต่ยอด7เดือนแรกยังทำได้เพียงแค่ 5,000 คันเท่านั้น คาดว่าจะไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งทางฮอนด้า อยากให้ภาครัฐออกมาตรการสนับสนุนที่มากกว่านี้เช่น การลดภาษีอากรนำเข้าเช่นเดียวกับรถยนต์ จะทำให้ขายง่ายขึ้น รวมถึงการขยายจุดชาร์จไฟฟ้าให้มากขึ้นด้วย” นายชิเกโตะ กล่าว
สำหรับทิศทางตลาดรถจักรยานยนต์ไทยครึ่งปีแรกมียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 911,162 คัน เติบโตขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปีก่อนหน้า ในขณะที่ฮอนด้ามีตัวเลขอยู่ที่ 705,487 คัน เติบโตขึ้น 3% ใกล้เคียงกับตลาดรวม
นายชิเกโตะ กล่าวว่าเซกเมนท์ที่มีแนวโน้มเติบโตมากที่สุดคือกลุ่มรถ เอ.ที. ซึ่งมียอดรวมอยู่ที่ 397,733 คัน เติบโตขึ้น 6% สิ่งที่น่าสนใจก็คือฮอนด้ามีการเติบโตในกลุ่มนี้มากถึง 12% ด้วยตัวเลข 279,207 คัน เป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าตลาดรวมค่อนข้างมาก
ขณะที่สัดส่วนยอดจดทะเบียนของ Scoopy มียอด 96,679 คัน สูงเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มแฟชั่น เอ.ที. Click Series มียอด 64,732 คัน สูงที่สุดในกลุ่มสปอร์ต เอ.ที. PCX160 มียอด 77,708 คันสูงสุดในกลุ่มพรีเมียม เอ.ที. และ Forza350มียอดจดทะเบียนถึง 10,988 คัน
“เราคาดว่าตลาดโดยรวมของปีนี้จะสูงขึ้นมาอยู่ที่ 1,740,000 คัน เติบโต 8% ส่วนฮอนด้าตั้งเป้าหมายที่ 1,359,000 คัน เติบโต 10% มากกว่าตลาดรวม เนื่องจากมีการเตรียมความพร้อมในการผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการ สามารถจัดการกับปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนได้เรียบร้อยแล้ว ขณะที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนและปัญหาระหว่างจีนกับไต้หวัน ยังไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด” นายชิเกโตะกล่าว
นายชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า ฮอนด้ามีความประสงค์ในการเข้าร่วมเซ็น MOU กับภาครัฐของไทยเพื่อรับการสนับสนุนในการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะได้รับส่วนลด 18,000 บาทต่อคัน โดยอยู่ระหว่างการดำเนินงาน
การดำเนินจะเป็นการนำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบภายในประเทศช่วงไตรมาสสี่ของปีนี้ โดยเป็นรุ่น Benly e ที่ปัจจุบันได้มีการทำโครงการนำร่องให้เช่าใช้งานแล้ว ส่วนการจำหน่ายคาดว่าจะเป็นแบบองค์กรต่อองค์กร(BtoB)ในช่วงแรก
“รัฐบาลตั้งเป้าหมายยอดจดทะเบียนจักรยานยนต์ไฟฟ้าปีนี้ไว้ที่ 40,000 คัน แต่ยอด7เดือนแรกยังทำได้เพียงแค่ 5,000 คันเท่านั้น คาดว่าจะไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งทางฮอนด้า อยากให้ภาครัฐออกมาตรการสนับสนุนที่มากกว่านี้เช่น การลดภาษีอากรนำเข้าเช่นเดียวกับรถยนต์ จะทำให้ขายง่ายขึ้น รวมถึงการขยายจุดชาร์จไฟฟ้าให้มากขึ้นด้วย” นายชิเกโตะ กล่าว
สำหรับทิศทางตลาดรถจักรยานยนต์ไทยครึ่งปีแรกมียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 911,162 คัน เติบโตขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปีก่อนหน้า ในขณะที่ฮอนด้ามีตัวเลขอยู่ที่ 705,487 คัน เติบโตขึ้น 3% ใกล้เคียงกับตลาดรวม
นายชิเกโตะ กล่าวว่าเซกเมนท์ที่มีแนวโน้มเติบโตมากที่สุดคือกลุ่มรถ เอ.ที. ซึ่งมียอดรวมอยู่ที่ 397,733 คัน เติบโตขึ้น 6% สิ่งที่น่าสนใจก็คือฮอนด้ามีการเติบโตในกลุ่มนี้มากถึง 12% ด้วยตัวเลข 279,207 คัน เป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าตลาดรวมค่อนข้างมาก
ขณะที่สัดส่วนยอดจดทะเบียนของ Scoopy มียอด 96,679 คัน สูงเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มแฟชั่น เอ.ที. Click Series มียอด 64,732 คัน สูงที่สุดในกลุ่มสปอร์ต เอ.ที. PCX160 มียอด 77,708 คันสูงสุดในกลุ่มพรีเมียม เอ.ที. และ Forza350มียอดจดทะเบียนถึง 10,988 คัน
“เราคาดว่าตลาดโดยรวมของปีนี้จะสูงขึ้นมาอยู่ที่ 1,740,000 คัน เติบโต 8% ส่วนฮอนด้าตั้งเป้าหมายที่ 1,359,000 คัน เติบโต 10% มากกว่าตลาดรวม เนื่องจากมีการเตรียมความพร้อมในการผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการ สามารถจัดการกับปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนได้เรียบร้อยแล้ว ขณะที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนและปัญหาระหว่างจีนกับไต้หวัน ยังไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด” นายชิเกโตะกล่าว