เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยผลประกอบการช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในขณะที่แนวโน้มครึ่งปีหลังยังคงมีความท้าทาย แบรนด์ผู้ผลิตสัญชาติอังกฤษก็ได้สร้างผลกำไรจากการดำเนินงาน 398 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นกว่า 124% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วจากยอดผลกำไรทั้งปี 389 ล้านยูโรในปี 2564 ซึ่งถือเป็นสถิติที่สูงที่สุดของบริษัท
มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 1.324 พันล้านยูโรในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 เป็น 1.707 พันล้านยูโร ขณะที่รายได้ต่อคันเพิ่มขึ้นจาก 186,000 ยูโรเป็น 213,000 ยูโร โดยปัจจัยหลักมาจากความต้องการด้านการออกแบบเฉพาะตัวที่เพิ่มมากขึ้น และผลกำไรจากการขายยังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 23.3% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 13.4 ในปีก่อนหน้า
รถแบบอเนกประสงค์ Bentayga มียอดจองมากสุดกว่า 40% ของยอดจองทั้งหมด สำหรับยอดจองของสปอร์ตซีดาน Flying Spur คิดเป็น 27% และ สปอร์ตคูเป้ Continental GT อยู่ที่ 33%
ยอดจองของเบนท์ลีย์เพิ่มขึ้นกว่า 33% ในยุโรป และ 44% ในสหราชอาณาจักรเมื่อเทียบกับปีก่อน จากการเปิดตัวสปอร์ตคูเป้ Continental GT Speed ทวีปอเมริกายังคงเป็นตลาดที่แข็งแกร่งที่สุดของเบนท์ลีย์ ในขณะที่จีนได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ที่ยืดเยื้อ สำหรับยอดจองทั่วโลกจนถึงปัจจุบันเพิ่มขึ้น 3% คิดเป็น 7,398 คัน จาก 7,199 ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564
ตัวเลขการเติบโตยังสอดคล้องกับกลยุทธ์ Beyond100 ของเบนท์ลีย์ แผนที่ว่าด้วยการผลิตรถไฟฟ้าในอนาคตเพื่อการบรรลุเป้าหมายด้านความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 ซึ่งรวมถึงโครงการลงทุนกว่า 10 พันล้านยูโรสำหรับการผลิตรถไฟฟ้าในอนาคต ณ โรงงานเมืองครูว์
Adrian Hallmark ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส กล่าวว่า “แม้จะมีความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจทั่วโลกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีแนวโน้มที่เราจะแสดงศักยภาพจากการที่ได้ลงทุนตามแผนกลยุทธ์ Beyond100 และได้สร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพื่อต่อสู้กับปัจจัยภายนอก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและการให้ความสำคัญกับความต้องการด้านการออกแบบเฉพาะตัวจากเบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ ซึ่งได้ผลักดันให้เกิดผลกำไรจากยอดขายที่สูงขึ้น และความต้องการจากทั่วโลกของรุ่นใหม่ล่าสุดที่ส่งผลให้มีรายได้ที่สูงเป็นประวัติการณ์
“ผมขอขอบคุณเพื่อนร่วมงานสำหรับความพยายามและความทุ่มเทอย่างต่อเนื่องของพวกเขา โดยเบนท์ลีย์จะยังคงเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอนาคตที่มุ่งเน้นการผลิตรถพลังงานไฟฟ้า ความั่นคงทางการเงิน และการเป็นผู้ผลิตชั้นนำที่ยั่งยืน”
Jan-Henrik Lafrentz คณะกรรมการบริหารด้านการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศ เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส กล่าวเสริมว่า “เบนท์ลีย์ยังคงมุ่งเน้นความพยายามในการสร้างผลกำไรในระยะยาวอย่างยั่งยืน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการกำหนดราคาที่แข็งแกร่งของเรา การเพิ่มรายได้ผ่านออปชั่นที่หลากหลาย และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ดี ในขณะเดียวกัน เราจะยังคงรักษามาตรฐานการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนำไปสู่รูปแบบธุรกิจใหม่เพื่อผลตอบแทนที่มั่นคงจากการลงทุนและการขายของเรา”