xs
xsm
sm
md
lg

ลอง “ยามาฮ่า E01” ต้นแบบที่ขี่ดีเกินคาด เปิดรับข้อมูลสื่อต่อยอดพัฒนารถไฟฟ้าอนาคต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 ทัตซึยะ โนซากิ และพงศธร เอื้อมงคลชัย นำขบวนการทดสอบในครั้งนี้
“ยามาฮ่าE01” รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าขนาด 125 ซีซี ที่บริษัทไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ทำการเผยโฉมสู่สายตาชาวไทยเป็นครั้งแรกในงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 และได้รับกระแสการตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้ชมงาน ซึ่งจะว่าไปแล้วการพัฒนาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของยามาฮ่ามิได้ริเริ่มในช่วงเวลาเพียง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทว่าเริ่มต้นกันมายาวนานนับตั้งแต่ปี ค.ศ.1995


ล่าสุด ยามาฮ่า เชิญสื่อมวลชนของประเทศไทยกว่า 60 สำนัก มาร่วมทำการทดสอบและสัมผัสกับสมรรถนะรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 100 % “ยามาฮ่าE01” อย่างใกล้ชิด ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา บนสภาพเส้นทางการขับขี่ทั้งทางลาดและทางชัน เพื่อเปิดโอกาสให้สัมผัสได้ถึงสมรรถนะของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า“ยามาฮ่าE01” อย่างแท้จริง การให้ผู้สื่อข่าวร่วมทดสอบขี่ในครั้งนี้ทางไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ต้องการเก็บข้อมูลและฟีดแบ็กต่างๆจากสื่อเพื่อนำไปต่อยอดและพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์และให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

ขบวนรถ“ยามาฮ่าE01” กว่า 40 คัน จึงจอดเรียงรายให้สื่อมวลชนพิสูจน์สมรรถนะของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 100 % เป็นครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน พร้อมกันนี้ประธานกรรมการบริหาร ทัตซึยะ โนซากิ และ พงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร และคณะผู้บริหารระดับสูง นำขบวนการทดสอบในครั้งนี้


เส้นทางที่ทางยามาฮ่ากำหนดไว้คือ ขี่จากโรงแรมคีรีมายาที่เราพัก ขึ้นลงเขาใหญ่  เป็นระยะทาง 35 กิโลเมตร อย่างแรกที่ประทับใจหลังเคลื่อนขบวนออกจากจุดสตาร์ทคือ ความเงียบ บวกกับเวลาเราบิดคันเร่งเพื่อเคลื่อนตัวก็เป็นไปอย่างสมูท ราบรื่น ไม่กระชาก ลื่นไหลไปเรื่อยๆ ขี่ง่าย เพลิดเพลิน ที่สำคัญแบตเตอรี่ก้อนใหญ่ถูกวางไว้ตรงศูนย์กลางตัวรถทำให้ตัวรถบาลานซ์ดีมาก การควบคุมรถเป็นไปได้อย่างใจต้องการ เข้าโค้งมั่นใจ เกาะแน่นไร้กังวล ช่วงล่างนุ่มนิ่ม ที่สำคัญมาพร้อมกับโหมดถอยหลังที่ช่วยให้ผู้ขับขี่นำรถออกจากที่จอดรถและบังคับทิศทางของรถได้ง่าย ซึ่งโหมดนี้รถราคาแพงบ้างยี่ห้อยังไม่มี แต่อย่างไรก็ตามคิดว่าโหมดนี้ผู้หญิงน่าจะชอบ


อย่างที่ทราบกันว่า“ยามาฮ่าE01”มาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 ระดับ เพื่อความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมขณะใช้งานและไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่แตกต่างกัน ได้แก่

PWR (โหมดเพาเวอร์): กำลังสูงสุด 8.1 kW ที่ 5,000 rpm แรงบิดสูงสุด 30.2 Nm ที่ 1,950 rpm สามารถทำความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับการขับขี่ที่ดึงกำลังสูงสุดของมอเตอร์ออกมาเหมาะสำหรับการขี่ขึ้นเนิน และการเร่งแซง ฯลฯ

ซึ่งในช่วงทางขึ้นเนิน ขึ้นเขา เราลองใช้โหมดเพาเวอร์ปรากฏว่าพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าไม่ทำให้ผิดหวังมาเต็ม ๆ ไม่รู้สึกอืดแต่อย่างใดและคันที่นั่งสองคนก็ไม่มีปัญหา เพียงแต่ในช่วงทางตรงที่ต้องการเร่งความเร็ว“ยามาฮ่า E01” ทำความเร็วได้แค่ 104 กิโลเมตร เลยขัดใจสื่อขาซิ่งนิดหน่อยและอยากจะให้ยามาฮ่าเพิ่มความเร็วแรงกว่านี้เพื่อการขับขี่ในระยะทางยาวๆไกล ๆ แต่อย่างที่กล่าวข้างต้น“ยามาฮ่าE01” นี่เป็นเพียงรถต้นแบบ ที่ต้องได้รับพัฒนากันต่อไป


STD (โหมดมาตรฐาน): กำลังสูงสุด 8.1kW ที่ 5,000rpm แรงบิดสูงสุด 24.5 Nm ที่1,500 rpm สามารถทำความเร็วสูงสุด100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เหมาะกับการขับขี่ทั่วไปที่ใช้บ่อยที่สุดในช่วงความเร็ว 30-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนใหญ่ขี่โดยใช้โหมดนี้กัน เพราะเป็นการขี่แบบเรื่อย ๆ ขี่ตามๆ กันไป

ECO (โหมดอีโค): กำลังสูงสุด 5.4kW ที่ 4,500rpm แรงบิดสูงสุด 21.4 Nm ที่ 1,500rpm จะทำให้ประหยัดพลังงานและสามารถเดินทางได้ระยะไกลขึ้น เพื่อจำกัดการใช้พลังงานแบตเตอรี่และจำกัดความเร็วสูงสุด อยู่ที่ประมาณ60 กิโลเมตร/ชั่วโมง โหมดนี้เหมาะกับคนที่ชอบขี่แบบ ชิล ชิล สบาย ๆ ไม่เร่งรีบ เน้นประหยัด

ภาณุพล กิตติคำรณ รองผู้จัดการใหญ่ด้านการขายและการตลาด
อย่างไรก็ตาม“ยามาฮ่าE01” สามารถขับขี่ด้วยความเร็ว100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะทาง100 กิโลเมตร ใช้ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ โดย Vehicle Control Unit,Battery Management System, Motor Control Unit พร้อมระบบเบรก Regenerative Brake ที่จำลองความรู้สึกของ Engine Brake เพื่อให้ลดความเร็วได้อย่างนุ่มนวล มีระบบป้องกันล้อลื่นไถลTraction Control System รวมทั้งยังสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลการทดสอบ POC ผ่านระบบเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ E-sim และมี GPS ในตัว โดยข้อมูลที่ถูกเก็บมา จะถูกส่งต่อไปยังเว็บเซิร์ฟเวอร์เพื่อทำการวิเคราะห์และพัฒนา EV ในอนาคตต่อไป


ลองมาดูฟังก์ชันอื่นเกี่ยวกับตัวรถกันบ้าง“ยามาฮ่าE01” ใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไลออน ขนาดใหญ่ 4.9 กิโลวัตต์ชั่วโมงให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุด 8.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่ 5,000 รอบ และแรงบิดสูงสุด 30.2 นิวตันเมตรที่1,950 รอบ สามารถวิ่งได้สูงสุด 130 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน WMTC คลาส1 ในยุโรป และสามารถเลือกชาร์จแบตเตอรี่ได้ 3 รูปแบบ เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้งาน และรองรับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ ได้แก่

1. เครื่องชาร์จแบบเร็ว - เหมาะสำหรับการติดตั้งโดยผู้ให้บริการแบ่งเช่ารถ หรือตัวแทนจำหน่ายสามารถชาร์จ
จาก 0% ถึง 90% ได้ภายใน 1 ชั่วโมง

2. เครื่องชาร์จแบบปกติ - เหมาะสำหรับการติดตั้งภายในบ้าน สามารถชาร์จ จาก0% ถึง100% ได้ภายใน
5 ชั่วโมง ที่แรงดันไฟฟ้า 200V (เข้ากันได้กับเต้ารับ 200–240V ในประเทศต่างๆ)

3. เครื่องชาร์จแบบพกพา - พกพาสะดวกด้วยขนาดที่พอดีกับช่องเก็บของใต้เบาะนั่ง สามารถชาร์จจาก 0% ถึง100% ได้ภายใน 14 ชั่วโมง ที่แรงดันไฟฟ้า100V (200–240V ในประเทศต่างๆ)


อีกทั้งระบบมอเตอร์ไฟฟ้าของ“ยามาฮ่าE01” ที่พัฒนาและผลิตขึ้นภายใต้ลิขสิทธิ์เฉพาะของ ยามาฮ่า เพื่อสมรรถนะและคุณภาพสูง รวมถึงเฟรมที่ได้รับการออกแบบใหม่โดยเฉพาะ พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีจากการพัฒนารถจักรยานยนต์แบบสปอร์ตมาใช้งาน

สำหรับหน้าตาการออกแบบและดีไซน์ดูล้ำสมัย เรียบง่าย แนวสปอร์ต สะท้อนภาพลักษณ์จักรยานยนต์ไฟฟ้าแห่งโลกอนาคต ตั้งแต่การจัดวางตำแหน่งไฟโดยไฟทุกตำแหน่ง ทั้งไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟท้าย และไฟเบรก เป็นไฟ Full LED ขณะที่เสียบสายชาร์จอยู่ด้านหน้ารถสะดวกง่ายต่อการชาร์จ ผสานกับตัวรถสีดำและสีขาวมุกพิเศษ ยิ่งเสริมให้ ยามาฮ่า“E01” ดูมีสไตล์ หรูหรา และทันสมัย


ในส่วนของมาตรวัดหน้าจอ ได้รับการออกแบบให้แสดงผลแบบดิจิตอล แบบมัลติฟังก์ชันที่แสดงทั้งอัตราความเร็ว ความจุแบตเตอรี่ สถานะการชาร์จไฟ นาฬิกา อุณหภูมิของอากาศ และอื่นๆ ฟังก์ชันการใช้งานมาพร้อมความสะดวกสบาย เพื่อการใช้งานทุกรูปแบบ

นอกจากดีไซน์อันล้ำสมัย อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้พัฒนา "ยามาฮ่าE01"  ให้ความสำคัญคือฟังก์ชันการใช้งานที่มอบความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ โดยยามาฮ่าE01 จะถูกควบคุมด้วยระบบสมาร์ทคีย์ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเปิดสวิตซ์ในการใช้งานได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่หมุนปุ่มโดยไม่ต้องเสียบกุญแจ


รถรุ่นนี้ยังติดตั้งหน่วยควบคุมการสื่อสาร ด้วยระบบ 3G/LTE eSIM และ GPS โดยหน่วยควบคุมจะอับโหลดข้อมูลรถ (ตำแหน่ง สภาพการทำงาน) ไปยังเว็บเซิร์ฟเวอร์ ข้อมูลที่สามารถตรวจสอบได้ ได้แก่ บันทึกการใช้งานรถ ประจุแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ และตำแหน่งที่รถจอด และอื่นๆ

ขนาดตัวรถ“ยามาฮ่าE01” มีขนาดตัวรถเทียบเท่ารถจักรยานยนต์คลาส125 ซีซี (อ้างอิงจากยามาฮ่าNMAX 125 ในยุโรป) ตำแหน่งท่านั่งขับขี่ สะดวกสบาย โดยความยาวของรถ1,930 มิลลิเมตร มีที่เก็บของใต้เบาะ ขนาดความจุ 23 ลิตรสามารถเก็บหมวกกันน็อกได้ ความสูงเบาะ 755 มิลลิเมตร ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขึ้นลงได้อย่างสะดวก และขาถึงพื้นได้อย่างมั่นใจ เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน


หลังการขับขี่บอกได้เลยว่า “ยามาฮ่า E01” เป็นรถไฟฟ้าที่ให้ความรู้สึกไม่แตกต่างจากรถเครื่องยนต์ปกติทั่วไป การขับขี่ การออกตัว การเลี้ยว แต่อย่างไรก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าหลังจาก ไทยยามาฮ่า ตามเก็บข้อมูลและนำไปใช้ในการวิเคราะห์การใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ รถไฟฟ้าอนาคตจะออกมาหน้าตาแบบไหน ถูกใจหรือไม่ ? ต้องติดตาม 

ถ้าจะนำ “ยามาฮ่า E01” มาขายตอนนี้ เชื่อว่าขายได้แน่นอนมีคนพร้อมซื้ออยู่แล้วแต่ราคาอย่าเกิน 150,000 บาท





















นายพงศธร เอื้อมงคลชัย
พงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึง“ยามาฮ่าE01” ว่า“ยามาฮ่ามอเตอร์ได้ตระหนักถึงความสำคัญของสภาวะโลกร้อน และการใช้พลังงานเชื้อเพลิงอย่างสิ้นเปลืองนั้นทำให้เกิดสภาวะเรือนกระจก ที่จะส่งผลกระทบต่างๆ ขึ้นในโลกของเรา โดยยามาฮ่ามีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งแต่ปี 2020 ที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากผลิตภัณฑ์ยามาฮ่าลง 16% และภายในปี 2050 เราตั้งเป้าที่จะลดลงให้ได้ถึง 90%

ซึ่งแผนการที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของผลิตภัณฑ์ ยามาฮ่าในระยะยาวนั้นยามาฮ่าจะส่งเสริมการใช้ยานพาหนะขนาดเล็ก รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ให้มาใช้พลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ EV ทั้งผลิตภัณฑ์ทางเรือ และจักรยานยนต์จึงได้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน จากจุดเริ่มต้นด้วยจักรยานแม่บ้านติดระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ก่อนที่จะพัฒนามาเป็น รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าครั้งแรกในปี 1991 หรือเมื่อ 31 ปีก่อนหน้ามากมายหลายโมเดล


ซึ่งการทำ POC (Proof of concept) โดยพัฒนาขึ้นมาเพื่อการทดสอบ และวิเคราะห์การใช้งานในรูปแบบต่างๆ และเพื่อให้สอดคล้องตามแผนยุทธศาสตร์ Carbon Neutrality การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ซึ่งประกอบไปด้วย 3 หัวข้อ ได้แก่

1. การตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถในคลาส 125 ซีซี ทั้งในระยะทางใกล้และระยะทางไกล ด้วยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า

2. การศึกษา และทำความเข้าใจความเหมาะสมของฟังก์ชันการใช้งานให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

3.การเก็บข้อมูลความรู้ด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อที่จะตอบสนองและพัฒนาการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตและเพื่อเป็นการริเริ่มนำรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในอนาคตอย่างเต็มระบบทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ต่อไป


สำหรับวัตถุประสงค์ของกิจกรรม E01 POC ในประเทศไทยนั่นคือ เพื่อเป็นการสร้างยามาฮ่า EV แบรนด์ในประเทศไทย การเข้าใจความต้องการของลูกค้าในไทย และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่มีความริเริ่มสร้างสรรค์ รวมทั้งการนำเสนอความพิเศษของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าจากยามาฮ่า ผ่านกิจกรรม E01 POC เพื่อนำข้อมูลจากการทดสอบขับขี่ มาพัฒนาและต่อยอดต่อไปภายในอนาคต”

ผู้ที่สนใจทดลองขับขี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “ยามาฮ่า E01” โดยภายในเดือนสิงหาคม ทางยามาฮ่าจะเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อทดลองขับขี่ได้ที่ยามาฮ่า ไรเดอร์ คลับ (Yamaha Riders’ Club) สาขาเกษตรนวมินทร์ โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางwww.yamaha-motor.co.th หรือ สอบถามได้ที่Yamaha Call Center เบอร์02-2639999





























กำลังโหลดความคิดเห็น