อาวดี้ ประเทศไทย เปิดตัว “Audi RS3 Sportback” ใหม่ รถแฮทช์แบ็กสมรรถนะสูงขุมพลังเทอร์โบ 2.5 ลิตร กำลังสูงสุด 400 แรงม้า เริ่มเปิดรับจองอย่างเป็นทางการแล้วที่โชว์รูมอาวดี้ทั่วประเทศ เคาะราคาจำหน่าย 5,399,000 บาท
บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ อาวดี้ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เติมความร้อนแรงให้ตลาดรถยนต์ช่วงกลางปีด้วยการเปิดตัว “The New Audi RS3 Sportback” ใหม่ ซึ่งเป็นยนตรกรรมตระกูล RS รุ่นที่ 9 ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ชูจุดเด่นด้วยตัวถังแบบแฮทช์แบ็ก 5 ประตู เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในชีวิตประจำวันและบนสนามแข่ง มาพร้อมรูปลักษณ์ที่เน้นความโฉบเฉี่ยว ตอกย้ำ DNA แห่งมอเตอร์สปอร์ต
Audi RS3 Sportback ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 5 สูบ ความจุ 2.5 ลิตร ที่เคยได้รับรางวัล International Engine of the Year มาแล้ว 9 ปีซ้อน โดยในเจเนอเรชันล่าสุดได้มีการพัฒนาเพื่อให้มีสมรรถนะสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยกำลังสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ให้อัตราเร่่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. มาพร้อมท่อไอเสีย RS Sports Exhaust ที่สร้างเสียงดังกระหึ่มเร้าใจ และสามารถเปิด-ปิดเพื่อลดเสียงขณะขับในที่ชุมชน
นอกจากนี้ Audi RS3 Sportback ยังมีการติดตั้งระบบกระจายแรงบิดอัตโนมัติด้วยไฟฟ้า RS Torque splitter เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายแรงบิดที่ล้อหลังได้ดียิ่งขึ้น โดยมีแผ่นคลัตช์แยกการทำงานของล้อหลังซ้าย-ขวาได้อย่างอิสระในช่วงเข้าโค้ง ช่วยลดอาการอันเดอร์สเตียร์และเพิ่มความคล่องตัวในการเข้าโค้ง พร้อมทั้งมีโหมด RS Torque Rear ที่สามารถส่งกำลังทั้งหมดไปยังล้อคู่หลังเพื่อช่วยให้รถสามารถดริฟต์ท้ายปัดได้ และโหมดการขับขี่ RS Performance สำหรับการใช้งานบนสนามแข่งโดยเฉพาะ
Audi RS3 Sportback มาพร้อมช่วงล่าง RS Sports suspension ที่พัฒนาขึ้นสำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ พร้อมทั้งตั้งองศาแคมเบอร์แบบลบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง โดยตั้งให้มีแคมเบอร์ล้อหน้าลบเพิ่มขึ้น 1 องศาเมื่อเทียบกับ A3 รุ่นปกติ และล้อหลังลบเพิ่มขึ้น 0.5 องศา ทำให้ช่วงล่างเตี้ยลงและเฟิร์มขึ้นเล็กน้อย เสริมด้วยระบบ modular vehicle dynamics controller (mVDC) ซึ่งเป็นตัวกลางที่จะนำข้อมูลจาก Torque splitter, adaptive dampers และ wheel selective torque control มารวมกันทำให้รถมีความคล่องตัวเข้าโค้งมากยิ่งขึ้น
Audi RS3 Sportback ติดตั้งชุดแต่งภายนอกสีดำ Glossy Black ตกแต่ง Audi Ring และชื่อรุ่นด้วยสีดำ Glossy Black, ไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อม Light Staging, ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED แบบ RS3 Signature ลายตารางหมากรุก, ไฟท้ายแบบ LED พร้อม Light Staging, ไฟ Projector LED บริเวณประตูคู่หน้า, หลังคาพาโนรามิกเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า, ล้ออัลลอย Y-spoke ขนาด 19 นิ้ว ประดับด้วยสัญลักษณ์ RS พร้อมคาลิเปอร์เบรก RS แบบ 6-pot สีแดง เป็นต้น
ภายในห้องโดยสารติดตั้งชุดแต่งแบบ RS พร้อมเบาะนั่งคู่หน้าแบบ RS Sports ตกแต่งแบบ Diamond หุ้มหนัง Dinamica microfibre/synthetic สามารถปรับระดับด้วยไฟฟ้าคู่หน้าพร้อมดันหลัง และฟังก์ชันบันทึกตำแหน่งสำหรับผู้ขับขี่, พวงมาลัยหุ้มหนังแบบสปอร์ตท้ายตัด ประดับด้วยสัญลักษณ์ RS พร้อม Paddle Shift, จอแสดงข้อมูลการขับขี่ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว, ระบบ MMI Radio plus พร้อมจอสัมผัส MMI Touch ขนาด 10.1 นิ้ว, ระบบเครื่องเสียง 3 มิติ Bang & Olufsen, ช่อง USB-C ด้านหน้า 2 ตำแหน่งและด้านหลัง 2 ตำแหน่ง และไฟเรืองแสงในห้องโดยสารแบบปรับสีได้ Contour/ambient lighting
นอกจากนี้ RS3 Sportback ยังมีฟังก์ชันที่มีให้เฉพาะรุ่น RS เท่านั้น ได้แก่ มาตรวัดรอบเครื่องยนต์ RS runway design ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากรันเวย์สนามบิน, ระบบแสดงค่า G-forces, จับเวลารอบสนามแข่ง และจับเวลา 0-100, 0-200 หรือ ¼ mile และยังมี RS Blinking shift indicator ระบบกระพริบไฟเพื่อบอกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้ paddle shift เพื่อเปลี่ยนเกียร์ในโหมด manual หน้าจอกลางขนาด 10.1 นิ้ว ที่มีชื่อว่า RS Monitor ซึ่งแสดงข้อมูล อุณหภูมิของระบบหล่อเย็น เครื่องยนต์ และน้ำมันเกียร์ รวมไปถึงค่าลมยาง เป็นต้น
ตัวถังมีให้เลือก 6 สี คือ Glacier white, Mythos black, Python yellow, Tango red, Kyalami green และ Kemora grey เคาะราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 5,399,000 บาท
นายกฤษฎา ล่ำซำ ประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ อาวดี้ อย่างเป็นทางการแต่เพียงรายเดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า “นับเป็นเวลา 5 ปี แล้วที่ อาวดี้ ประเทศไทย ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และก้าวสู่ปีที่ 6 อย่างแข็งแกร่ง ตั้งแต่เปิดดำเนินการมา เรามีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องรวมทั้งสิ้น 64 รุ่น 22 body type ครอบคลุมรถยนต์ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV), รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV), และรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป (ICE) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถยนต์สมรรถนะซูเปอร์คาร์ในตระกูล RS ครบทั้งไลน์อัพ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง สามารถครองใจลูกค้าได้อย่างเหนียวแน่น มียอดขายรวมกว่า 5,000 คัน ทำให้แบรนด์อาวดี้เติบโตขึ้นอย่างมากในหลากหลายเซกเมนต์ และมียอดจำหน่ายในช่วงสองปีที่ผ่านมาเติบโตสวนกระแส
โดยกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยสนับสนุนความสำเร็จที่ผ่านมานี้คือ การบริการหลังการขาย ซึ่งรถยนต์อาวดี้ทุกคันมาพร้อมกับการรับประกันคุณภาพ Warranty 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Audi Roadside Assistance 5 ปี อาวดี้ ประเทศไทย เน้นการพัฒนาทักษะของทีมช่างเทคนิคอย่างต่อเนื่องที่ได้รับการรับรองทักษะตามมาตรฐานของ AUDI AG และอะไหล่ที่มีราคาสมเหตุสมผล พร้อมให้บริการจากคลังอะไหล่ทั้งในประเทศไทย มาเลเซีย และเยอรมัน
และเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจอาวดี้มาตลอด ขอมอบแคมเปญส่งเสริมการขายกลางปี ดอกเบี้ย 0% ทุกรุ่น (ยกเว้น RS และ EV) สวนกระแสดอกเบี้ยที่กำลังมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยมีรถยนต์ในสต็อคที่พร้อมส่งมอบ 120 คัน สำหรับลูกค้าที่จองและส่งมอบภายใน 1- 31 กรกฎาคม 2565”
