เปิดบทสัมภาษณ์ นายอิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กับการตอบคำถามสื่อมวลชนแบบชัดเจนในทุกประเด็นเกี่ยวกับทิศทางของ นิสสัน ในประเทศไทย นับเป็นครั้งแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่งมานานกว่า 1 ปี ที่เปิดโต๊ะสัมภาษณ์อย่างเป็นทางการในลักษณะนี้ มาดูกันว่าอนาคตของนิสสัน ในประเทศไทยจะเดินไปในทิศทางใด

-ในปีงบประมาณ 2022 นิสสันคาดหวังว่าจะมียอดขายเท่าใด?
เป็นคำถามที่ยากมาก เพราะต้องรอการตอบรับด้านยอดขายจาก นาวารารุ่น แบล็คอิดิชั่น ที่เรารอมาจนถึงวันนี้ เรากำลังรอดูว่าจะเป็นที่ยอมรับมากน้อยแค่ไหน ขณะที่คิกส์ อี-พาวเวอร์ เรามองปัจจัยความสำเร็จจะมาจากการสื่อสาร การตลาด และการกำหนดราคา
เรามั่นใจมากขึ้น บางคนเห็นกำลังมองถึงตำแหน่งของนิสสันในตลาด แต่สิ่งที่คุณเห็นในปัจจุบันยังไม่ใช่ความสามารถของเรา ในแง่ของการวางตำแหน่งของนิสสันเพราะอย่างที่ทราบ สมัยก่อนนิสสันเน้นการขายด้วยการลดราคาที่ค่อนข้างมาก
เราได้ศึกษาว่า การรับรู้ของแบรนด์นิสสันในประเทศไทยเป็นอย่างไร คำตอบที่พบบ่อยที่สุดคือ ผู้คนมักมองว่านิสสันเป็นแบรนด์ราคาที่จับต้องได้ ซึ่งอาจจะหมายความว่า คนมองว่านิสสันเป็นแบรนด์ราคาถูก ดังนั้น จึงต้องการเปลี่ยนการรับรู้นี้ รวมถึงวิธีดำเนินธุรกิจและการตลาดของเรา
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการขาดแคลนชิ้นส่วนในการการผลิต ทำให้ปริมาณการผลิตมีจำนวนน้อย ยอดขายจึงลดต่ำกว่าที่ผ่านมา ถ้าเราสร้างแบรนด์อย่างถูกต้อง แบบที่คุณเห็นทุกวันนี้ เมื่อก่อนเราไม่เคยมีแบรนด์แอมบาสเดอร์เลย เราเคยใช้ influencer เยอะมาก
ขณะนี้ เราได้เปลี่ยนวิธีการทำการตลาดโดยสิ้นเชิง นอกจากนั้นคุณจะยังคงเห็นการเปลี่ยนแปลงอีก เราเรียกว่า Branded House Approach เรากำลังสร้างความสอดคล้องในการสร้างแบรนด์และการตลาด ซึ่งนี่อาจต้องใช้เวลาบ้าง แต่จะทำให้เรากลับมามียอดขายและการรับรู้ที่แน่นอน โดยเป้าหมายของเราคือ ติดหนึ่งใน 5 อันดับยอดขายที่ดีที่สุดของไทย ด้วยโดยการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งขึ้น

-ประธานคนก่อนกล่าวไว้เหมือนกัน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง?
พูดตรงๆ มันอาจจะต้องใช้เวลาในบางครั้ง แต่ผมสามารถพูดได้ว่าเรามาถูกทางแล้ว ตัวอย่างคือ คิกส์ อี-พาวเวอร์ ที่เราเปลี่ยนรูปแบบการตลาดโดยสิ้นเชิง จากเดิมที่พูดแต่เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ ยอดเยี่ยม แต่จะเปลี่ยนเป็นประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับแทน นั่นคือจุดเริ่มต้น เรากำลังเปลี่ยนแปลงอยู่
ทั้งนี้จะได้เห็นผลของการเลือกใช้ “ณเดชน์” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์แน่นอน ส่วน คิกส์ อี-พาวเวอร์ จะมีการใช้ แบรนด์แอมบาสเดอร์ เช่นเดียวกันส่วนจะเป็นใครนั้น ขอให้รอช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้
การเปิดตัวครั้งก่อนๆ นิสสันเคยมีแบรนด์ แอมบาสเดอร์ ซึ่งนิสสันเคยอ้างว่า รถยนต์ของนิสสันก็คือ แบรนด์แอมบาสเดอร์อยู่แล้ว แต่ผมขอบอกว่า ตอนนี้ เรามาถูกทางแล้ว นี่เป็นเหมือนจุดเปลี่ยนใหญ่ที่ไม่ใช่นโยบายเดิมอีกแล้ว กลยุทธ์ทางการตลาดของเราคือส่งมอบสิ่งที่ไม่คาดคิด จากนี้อีก 3 สัปดาห์คุณสามารถกลับมาถามผมถึงความคืบหน้าใหม่ได้

-การเปิดตัว คิกส์ ในเดือนกรกฎาคมเป็นเสมือนจุดเปลี่ยนในการทำการตลาดให้กับนิสสัน?
ผมคิดว่าจากการเปิดตัวรถนาวาราในและการเปิดตัวคิกส์ คุณจะได้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนว่าเราทำการตลาดอย่างไรเมื่อเทียบกับหนึ่งปีที่ผ่านมา ดังนั้นคุณจะได้เห็นนิสสันเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างในการทำการตลาด โดยในเดือนสิงหาคม คุณอาจจะจะได้เห็นว่าสิ่งที่เราทำในเดือน มิถุนายนและกรกฎาคมเป็นอย่างไร แล้วผมจะมาขอความคิดเห็นจากทุกท่าน

-ปัญหาการขาดแคลนชิปจะแก้ไขอย่างไร
ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์เป็นเรื่องใหญ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก แต่สำหรับนิสสันประสบปัญหามากกว่า เนื่องจากชิ้นส่วนจำนวนไม่น้อยมาจากประเทศจีน ซึ่งจีนมีการปิดประเทศจากโควิด-19 โดยเฉพาะเซี่ยงไฮ้ส่งผลกระทบกับการประกอบรถยนต์ของนิสสันในไทยอย่างมาก เดือนที่แล้วมีการหยุดผลิตนานถึง 1 สัปดาห์เพราะขาดแคลนชิ้นส่วน
ทั้งนี้เมื่อชิ้นส่วนของจีนเข้าสู่ระบบเหมือนเดิม การผลิตก็จะกลับมาเป็นปกติ แต่ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ยังคงมีอยู่ ผมไม่สามารถล่วงรู้ถึงอนาคตอีก 6 เดือนข้างหน้าได้ เพราะยังมีปัญหาสงครามในประเทศยูเครนและรัสเซีย ซึ่งเรากำลังมองหาผู้ผลิตชิ้นส่วนใหม่อยู่
ขณะเดียวกัน ในระดับ Global กำลังวิเคราะห์ความเสี่ยงที่เราอาจเห็น เช่น จะเกิดอะไรขึ้นหากไต้หวันกลายเป็นเหมือนยูเครนและรัสเซีย สำหรับระยะสั้น ประเด็นหลักคือการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ สถานการณ์เช่นนี้ โดยเฉพาะการล็อกดาวน์ของจีน เราจึงเริ่มคิดถึงการหาชิ้นส่วนภายในประเทศเพื่อทดแทน และลดความเสี่ยงเพิ่มเติม เรากำลังมีการศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องนี้อยู่

-รถรุ่นใหม่พร้อมส่งหลังเปิดตัวหรือไม่?
ตามที่เราเคยกล่าวไว้ นิสสันพร้อมที่จะส่งมอบรถนาวาราแล้ว เราได้เริ่มผลิตก่อนหน้านี้รวมถึงได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าเดือนแรกมาแล้วด้วย เราหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ลูกค้าไปโชว์รูมและนิสสันไม่สามารถจัดส่งมอบรถได้ โดยจะใช้แนวทางนี้กับ คิกส์ ที่กำลังจะเปิดตัว เรามั่นใจว่ามีสต็อครถในโรงงานพร้อมส่งมอบ
-นิสสันมียอดค้างส่งมอบอัลเมร่ากี่คัน
มีจำนวนมาก

-นิสสันจะแก้ปัญหาอย่างไรในเวลานี้ที่ ผู้จำหน่ายไม่มีรถส่งมอบ?
ดีลเลอร์อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากหากไม่มีรถส่งมอบ เราได้การพูดคุยกับคู่ค้าและผู้จำหน่ายเกือบทุกสองสัปดาห์ พวกเขาเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังให้ความช่วยเหลือผู้จำหน่าย และพร้อมสนับสนุนที่ปรึกษาการขายทุกคน
เราเคารพคู่ค้าและผู้แทนจำหน่าย ซึ่งปัจจุบันมี 66 ราย มี โชว์รูมและศูนย์บริการ 177 สาขา นิสสันยังไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนกลยุทธ์กับคู่ค้าและผู้จำหน่าย นิสสันให้ความสำคัญและใส่ใจในโชว์รูม แต่ด้วยปริมาณการผลิตและการขายจะมีความไม่แน่นอนอยู่มาก ดังนั้น การปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ของโชว์รูมบางส่วนที่ยังเป็นโลโก้เดิมอยู่ จึงชะลอออกไป นิสสันจะไม่กดดัน ให้รีบปรับเปลี่ยน นิสสันต้องการให้ผู้จำหน่ายมีสถานะทางการเงินที่ดี

-นิสสัน ลีฟ และ รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
สำหรับนิสสัน ลีฟ เรามีแผนจะเปิดตัว ลีฟ รุ่นใหม่ Model Year 2022 โดยเมื่อเดือนที่แล้วนิสสันเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กโฉมใหม่ชื่อว่า Sakura (ในประเทศญี่ปุ่น) โดยคุณแม่ของผมสั่งจองด้วยเช่นกัน ซึ่งการส่งมอบรถที่เร็วที่สุดคือในเดือนกันยายน แต่เพื่อความโปร่งใส ผมขออนุญาตแชร์ว่าเรามีข้อจำกัดอย่างมากเกี่ยวกับ การจำนวนของแบตเตอรี่ นั่นคือเหตุผลที่เราไม่พูดถึงผลิตภัณฑ์นี้
ทั้งนี้ ผมอยากจะขอร้องทุกท่าน ได้โปรดช่วยนิสสันด้วย มีข่าวลือว่า นิสสันอาจจะออกจากประเทศไทย ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน รองประธานบริหารของ นิสสัน มอเตอร์ ( Ms. Asako Hoshino) ได้มาเยี่ยมประเทศไทยและกล่าวว่าประเทศไทยสำคัญที่สุดในภูมิภาคอาเซียนและนิสสันจะยังคงลงทุนในประเทศไทยต่อไป เราไม่มีแผนที่จะทิ้งประเทศไทยไปไหน
-นิสสันจะลงทุนในเทคโนโลยีอะไรบ้างและมีแผนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่?
มีหลายๆ อย่าง กำลังอยู่ในการดำเนินการ ผมจะบอกทันทีเมื่อพร้อมแล้ว รวมถึงการทำตลาด Nissan Ariya อยู่ระหว่างการศึกษารวบรวมข้อมูล

-นิสสัน สนใจจะนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าและร่วมเซ็นสัญญากับนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลหรือไม่?
เราหารือกับรัฐบาลหลายอย่าง รถยนต์ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับยอดขายรถยนต์รวม มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 1 ในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา แม้ดูเหมือนว่า รถยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น แต่ลูกค้าปัจจุบันของไทยยังไม่ใช่ผู้ซื้อเป็นรถคันแรก
ผมกำลังตั้งข้อสังเกตและจับตามองที่ตลาด รัฐบาล และพาร์ทเนอร์ส่วนต่างๆ เช่น กฟผ. ว่าจะมีความเคลื่อนไหวอย่างไร นิสสัน เคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อน ในการทำตลาด Datsan ที่อินโดนีเซีย เราต้องการให้แน่ใจว่าแผนการทำตลาดจะยั่งยืน โดยจะสร้างแบรนด์และลงทุนในรุ่นรถที่มีอยู่
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เราจะสานต่อการทำงานร่วมกับภาครัฐบาลและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น เราจะมีโครงการความร่วมมือด้านรถยนต์ไฟฟ้า ร่วมกับกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น และการใช้ที่ชาร์จแบบสองทิศทาง เช่นนิสสัน ลีฟที่ประเทศญี่ปุ่น ลูกค้าสามารถใช้กระแสไฟจากลีฟที่บ้านได้นาน 3-4 วัน
ส่วนในประเทศไทย เรายังไม่ได้มีสัญญากับรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม แต่ได้เริ่มพูดคุยกับพาร์ทเนอร์และภาครัฐบ้างแล้ว เมื่อทุกอย่างแน่นอน เราจะแจ้งให้ทราบและมีการประกาศอีกครั้ง ผมหวังว่าในอีกสองสามเดือนข้างหน้านี้เราจะมีความเคลื่อนไหวในด้านความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน

- “Nissan Z” จะทำตลาดในไทยหรือไม่
ทุกท่านรู้ว่าเรามี GT-R ทำตลาดในไทยซึ่งได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนฃิ้นส่วน ฉะนั้น Nissan Z จึงขาดแคลนด้วยเช่นเดียวกัน รวมถึงต้องศึกษาความต้องการเกี่ยวกับรถสปอร์ตในเมืองไทย และรูปแบบที่ลูกค้าชาวไทยยอมรับ
จากมุมมองของแบรนด์ ผมต้องการให้แน่ใจว่านิสสันในประเทศไทยมีความสม่ำเสมอ คุณเห็นตัวอย่าง Levina, Pulza, Sylphy และ X-Trail ที่มาเปิดตัวในเมืองไทยแล้วหายไป นั่นหมายความว่า เราให้คำสัญญากับลูกค้าแล้วเราต้องรักษาสัญญา เป็นการเรียนรู้สำหรับนิสสัน ภาพลักษณ์แบรนด์ของเรามิได้เป็นแบบนั้น ดังนั้นเมื่อเราทำตลาดแล้วจะต้องยั่งยืน ไม่หยุดทำตลาดดังเช่นที่ผ่านมา ต้องสร้างความมั่นใจว่า เรามีกลยุทธ์และแผนที่ดี มีความแน่นอนและสม่ำเสมอให้แก่ลูกค้า
เรายังต้องศึกษานโยบายรัฐบาล เช่น การปรับเปลี่ยนมาตรฐานไอเสียเป็นยูโร 5-6 ที่จะเกิดขึ้น เร็วๆ นี้ ฉะนั้นการหากลยุทธ์ที่เหมาะสมกับนิสสันในประเทศไทยจึงต้องศึกษาอย่างรอบคอบ

-อนาคตของ มาร์ชและโน๊ตจะเป็นอย่างไร?
เราต้องเข้าใจว่าอีซูซุ มีรถทำตลาดเพียงสองรุ่นแต่มีความสม่ำเสมอคงเส้นคงวา สิบปีที่ผ่านมาตลาดรถยนต์ไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น เราต้องคิดจากมุมมองของลูกค้า เราต้องสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วย 4 รุ่นหลักของนิสสันที่เรามีอยู่ (Almera / Kicks / Navara / Terra) ขณะที่อีก 2 รุ่นที่เป็นแบบนำเข้าคือ GT-R และ ลีฟ ยังคงทำตลาดต่อไป
*หมายเหตุ สรุป นิสสัน มาร์ช และโน๊ตจะยุติการทำตลาดหลังจากที่ขายหมดในเร็วๆ นี้

-เหตุใดรถยนต์ไฟฟ้าจึงไม่เป็นที่นิยมในญี่ปุ่น
สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนกับยุโรปคือกฎระเบียบต่างๆ ที่มีการผลักดันให้รถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้น โดยญี่ปุ่นยังมีไม่มากนัก จากมุมมองของนโยบาย ญี่ปุ่นยังไม่ได้ชัดเจนมาก อย่างที่สองคือญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องเทคโนโลยีไฮบริดจริงๆ ประหยัดน้ำมันมากกว่าและไม่ต้องชาร์จ ทำไมต้องเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า
หากผมต้องการซื้อ นิสสัน ลีฟ ในโตเกียว แต่ที่จอดรถในอพาร์ตเมนต์ของผมไม่มีที่ชาร์จ ฉะนั้นต้องไปชาร์จจุดอื่น และไม่มีให้บริการตลอด 24 ชม. รวมถึงไม่มีที่ชาร์จในปั๊มน้ำมัน เป็นเหตุผลที่บอกว่าเรามีส่วนแบ่งการตลาดด้านรถยนต์ไฟฟ้าแค่ 1% แต่ในโตเกียว เพียง0.0x% เท่านั้น
แม้ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียวต้องการสร้างเมืองสีเขียวให้แก่โตเกียวโดยเพิ่มแรงจูงใจให้ส่วนลดในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 10,000 ดอลล่าร์สหรัฐต่อคัน(ราว 350,000 บาท) แต่ผู้คนยังให้ความสนใจในเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าน้อยมาก ขนาดโตโยต้าเปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้า ยังเป็นแค่ในลักษณะของสมาชิก
บางจังหวัดมีปั๊มน้ำมันลดลง ส่วนแบ่งรถยนต์ไฟฟ้าดีกว่าเพราะคนไม่อยากขับรถไปไกลถึงปั๊มน้ำมัน รถยนต์ไฟฟ้า อาจจะไม่เหมาะมากนักที่ต้องใช้พลังงานมากขึ้นเมื่อต้องขึ้นเขา และส่วนแบ่งทางการตลาดด้านรถปิ๊กอัพไทยประเทศไทยเองก็มีมากถึง 50% ดังนั้น การใช้รถยนต์ไฟฟ้าจึงอาจจะยังไม่ตอบโจทย์มากนัก
-ในปีงบประมาณ 2022 นิสสันคาดหวังว่าจะมียอดขายเท่าใด?
เป็นคำถามที่ยากมาก เพราะต้องรอการตอบรับด้านยอดขายจาก นาวารารุ่น แบล็คอิดิชั่น ที่เรารอมาจนถึงวันนี้ เรากำลังรอดูว่าจะเป็นที่ยอมรับมากน้อยแค่ไหน ขณะที่คิกส์ อี-พาวเวอร์ เรามองปัจจัยความสำเร็จจะมาจากการสื่อสาร การตลาด และการกำหนดราคา
เรามั่นใจมากขึ้น บางคนเห็นกำลังมองถึงตำแหน่งของนิสสันในตลาด แต่สิ่งที่คุณเห็นในปัจจุบันยังไม่ใช่ความสามารถของเรา ในแง่ของการวางตำแหน่งของนิสสันเพราะอย่างที่ทราบ สมัยก่อนนิสสันเน้นการขายด้วยการลดราคาที่ค่อนข้างมาก
เราได้ศึกษาว่า การรับรู้ของแบรนด์นิสสันในประเทศไทยเป็นอย่างไร คำตอบที่พบบ่อยที่สุดคือ ผู้คนมักมองว่านิสสันเป็นแบรนด์ราคาที่จับต้องได้ ซึ่งอาจจะหมายความว่า คนมองว่านิสสันเป็นแบรนด์ราคาถูก ดังนั้น จึงต้องการเปลี่ยนการรับรู้นี้ รวมถึงวิธีดำเนินธุรกิจและการตลาดของเรา
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการขาดแคลนชิ้นส่วนในการการผลิต ทำให้ปริมาณการผลิตมีจำนวนน้อย ยอดขายจึงลดต่ำกว่าที่ผ่านมา ถ้าเราสร้างแบรนด์อย่างถูกต้อง แบบที่คุณเห็นทุกวันนี้ เมื่อก่อนเราไม่เคยมีแบรนด์แอมบาสเดอร์เลย เราเคยใช้ influencer เยอะมาก
ขณะนี้ เราได้เปลี่ยนวิธีการทำการตลาดโดยสิ้นเชิง นอกจากนั้นคุณจะยังคงเห็นการเปลี่ยนแปลงอีก เราเรียกว่า Branded House Approach เรากำลังสร้างความสอดคล้องในการสร้างแบรนด์และการตลาด ซึ่งนี่อาจต้องใช้เวลาบ้าง แต่จะทำให้เรากลับมามียอดขายและการรับรู้ที่แน่นอน โดยเป้าหมายของเราคือ ติดหนึ่งใน 5 อันดับยอดขายที่ดีที่สุดของไทย ด้วยโดยการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งขึ้น
-ประธานคนก่อนกล่าวไว้เหมือนกัน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง?
พูดตรงๆ มันอาจจะต้องใช้เวลาในบางครั้ง แต่ผมสามารถพูดได้ว่าเรามาถูกทางแล้ว ตัวอย่างคือ คิกส์ อี-พาวเวอร์ ที่เราเปลี่ยนรูปแบบการตลาดโดยสิ้นเชิง จากเดิมที่พูดแต่เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ ยอดเยี่ยม แต่จะเปลี่ยนเป็นประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับแทน นั่นคือจุดเริ่มต้น เรากำลังเปลี่ยนแปลงอยู่
ทั้งนี้จะได้เห็นผลของการเลือกใช้ “ณเดชน์” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์แน่นอน ส่วน คิกส์ อี-พาวเวอร์ จะมีการใช้ แบรนด์แอมบาสเดอร์ เช่นเดียวกันส่วนจะเป็นใครนั้น ขอให้รอช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้
การเปิดตัวครั้งก่อนๆ นิสสันเคยมีแบรนด์ แอมบาสเดอร์ ซึ่งนิสสันเคยอ้างว่า รถยนต์ของนิสสันก็คือ แบรนด์แอมบาสเดอร์อยู่แล้ว แต่ผมขอบอกว่า ตอนนี้ เรามาถูกทางแล้ว นี่เป็นเหมือนจุดเปลี่ยนใหญ่ที่ไม่ใช่นโยบายเดิมอีกแล้ว กลยุทธ์ทางการตลาดของเราคือส่งมอบสิ่งที่ไม่คาดคิด จากนี้อีก 3 สัปดาห์คุณสามารถกลับมาถามผมถึงความคืบหน้าใหม่ได้
-การเปิดตัว คิกส์ ในเดือนกรกฎาคมเป็นเสมือนจุดเปลี่ยนในการทำการตลาดให้กับนิสสัน?
ผมคิดว่าจากการเปิดตัวรถนาวาราในและการเปิดตัวคิกส์ คุณจะได้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนว่าเราทำการตลาดอย่างไรเมื่อเทียบกับหนึ่งปีที่ผ่านมา ดังนั้นคุณจะได้เห็นนิสสันเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างในการทำการตลาด โดยในเดือนสิงหาคม คุณอาจจะจะได้เห็นว่าสิ่งที่เราทำในเดือน มิถุนายนและกรกฎาคมเป็นอย่างไร แล้วผมจะมาขอความคิดเห็นจากทุกท่าน
-ปัญหาการขาดแคลนชิปจะแก้ไขอย่างไร
ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์เป็นเรื่องใหญ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก แต่สำหรับนิสสันประสบปัญหามากกว่า เนื่องจากชิ้นส่วนจำนวนไม่น้อยมาจากประเทศจีน ซึ่งจีนมีการปิดประเทศจากโควิด-19 โดยเฉพาะเซี่ยงไฮ้ส่งผลกระทบกับการประกอบรถยนต์ของนิสสันในไทยอย่างมาก เดือนที่แล้วมีการหยุดผลิตนานถึง 1 สัปดาห์เพราะขาดแคลนชิ้นส่วน
ทั้งนี้เมื่อชิ้นส่วนของจีนเข้าสู่ระบบเหมือนเดิม การผลิตก็จะกลับมาเป็นปกติ แต่ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ยังคงมีอยู่ ผมไม่สามารถล่วงรู้ถึงอนาคตอีก 6 เดือนข้างหน้าได้ เพราะยังมีปัญหาสงครามในประเทศยูเครนและรัสเซีย ซึ่งเรากำลังมองหาผู้ผลิตชิ้นส่วนใหม่อยู่
ขณะเดียวกัน ในระดับ Global กำลังวิเคราะห์ความเสี่ยงที่เราอาจเห็น เช่น จะเกิดอะไรขึ้นหากไต้หวันกลายเป็นเหมือนยูเครนและรัสเซีย สำหรับระยะสั้น ประเด็นหลักคือการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ สถานการณ์เช่นนี้ โดยเฉพาะการล็อกดาวน์ของจีน เราจึงเริ่มคิดถึงการหาชิ้นส่วนภายในประเทศเพื่อทดแทน และลดความเสี่ยงเพิ่มเติม เรากำลังมีการศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องนี้อยู่
-รถรุ่นใหม่พร้อมส่งหลังเปิดตัวหรือไม่?
ตามที่เราเคยกล่าวไว้ นิสสันพร้อมที่จะส่งมอบรถนาวาราแล้ว เราได้เริ่มผลิตก่อนหน้านี้รวมถึงได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าเดือนแรกมาแล้วด้วย เราหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ลูกค้าไปโชว์รูมและนิสสันไม่สามารถจัดส่งมอบรถได้ โดยจะใช้แนวทางนี้กับ คิกส์ ที่กำลังจะเปิดตัว เรามั่นใจว่ามีสต็อครถในโรงงานพร้อมส่งมอบ
-นิสสันมียอดค้างส่งมอบอัลเมร่ากี่คัน
มีจำนวนมาก
-นิสสันจะแก้ปัญหาอย่างไรในเวลานี้ที่ ผู้จำหน่ายไม่มีรถส่งมอบ?
ดีลเลอร์อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากหากไม่มีรถส่งมอบ เราได้การพูดคุยกับคู่ค้าและผู้จำหน่ายเกือบทุกสองสัปดาห์ พวกเขาเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังให้ความช่วยเหลือผู้จำหน่าย และพร้อมสนับสนุนที่ปรึกษาการขายทุกคน
เราเคารพคู่ค้าและผู้แทนจำหน่าย ซึ่งปัจจุบันมี 66 ราย มี โชว์รูมและศูนย์บริการ 177 สาขา นิสสันยังไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนกลยุทธ์กับคู่ค้าและผู้จำหน่าย นิสสันให้ความสำคัญและใส่ใจในโชว์รูม แต่ด้วยปริมาณการผลิตและการขายจะมีความไม่แน่นอนอยู่มาก ดังนั้น การปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ของโชว์รูมบางส่วนที่ยังเป็นโลโก้เดิมอยู่ จึงชะลอออกไป นิสสันจะไม่กดดัน ให้รีบปรับเปลี่ยน นิสสันต้องการให้ผู้จำหน่ายมีสถานะทางการเงินที่ดี
-นิสสัน ลีฟ และ รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
สำหรับนิสสัน ลีฟ เรามีแผนจะเปิดตัว ลีฟ รุ่นใหม่ Model Year 2022 โดยเมื่อเดือนที่แล้วนิสสันเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กโฉมใหม่ชื่อว่า Sakura (ในประเทศญี่ปุ่น) โดยคุณแม่ของผมสั่งจองด้วยเช่นกัน ซึ่งการส่งมอบรถที่เร็วที่สุดคือในเดือนกันยายน แต่เพื่อความโปร่งใส ผมขออนุญาตแชร์ว่าเรามีข้อจำกัดอย่างมากเกี่ยวกับ การจำนวนของแบตเตอรี่ นั่นคือเหตุผลที่เราไม่พูดถึงผลิตภัณฑ์นี้
ทั้งนี้ ผมอยากจะขอร้องทุกท่าน ได้โปรดช่วยนิสสันด้วย มีข่าวลือว่า นิสสันอาจจะออกจากประเทศไทย ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน รองประธานบริหารของ นิสสัน มอเตอร์ ( Ms. Asako Hoshino) ได้มาเยี่ยมประเทศไทยและกล่าวว่าประเทศไทยสำคัญที่สุดในภูมิภาคอาเซียนและนิสสันจะยังคงลงทุนในประเทศไทยต่อไป เราไม่มีแผนที่จะทิ้งประเทศไทยไปไหน
-นิสสันจะลงทุนในเทคโนโลยีอะไรบ้างและมีแผนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่?
มีหลายๆ อย่าง กำลังอยู่ในการดำเนินการ ผมจะบอกทันทีเมื่อพร้อมแล้ว รวมถึงการทำตลาด Nissan Ariya อยู่ระหว่างการศึกษารวบรวมข้อมูล
-นิสสัน สนใจจะนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าและร่วมเซ็นสัญญากับนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลหรือไม่?
เราหารือกับรัฐบาลหลายอย่าง รถยนต์ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับยอดขายรถยนต์รวม มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 1 ในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา แม้ดูเหมือนว่า รถยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น แต่ลูกค้าปัจจุบันของไทยยังไม่ใช่ผู้ซื้อเป็นรถคันแรก
ผมกำลังตั้งข้อสังเกตและจับตามองที่ตลาด รัฐบาล และพาร์ทเนอร์ส่วนต่างๆ เช่น กฟผ. ว่าจะมีความเคลื่อนไหวอย่างไร นิสสัน เคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อน ในการทำตลาด Datsan ที่อินโดนีเซีย เราต้องการให้แน่ใจว่าแผนการทำตลาดจะยั่งยืน โดยจะสร้างแบรนด์และลงทุนในรุ่นรถที่มีอยู่
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เราจะสานต่อการทำงานร่วมกับภาครัฐบาลและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น เราจะมีโครงการความร่วมมือด้านรถยนต์ไฟฟ้า ร่วมกับกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น และการใช้ที่ชาร์จแบบสองทิศทาง เช่นนิสสัน ลีฟที่ประเทศญี่ปุ่น ลูกค้าสามารถใช้กระแสไฟจากลีฟที่บ้านได้นาน 3-4 วัน
ส่วนในประเทศไทย เรายังไม่ได้มีสัญญากับรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม แต่ได้เริ่มพูดคุยกับพาร์ทเนอร์และภาครัฐบ้างแล้ว เมื่อทุกอย่างแน่นอน เราจะแจ้งให้ทราบและมีการประกาศอีกครั้ง ผมหวังว่าในอีกสองสามเดือนข้างหน้านี้เราจะมีความเคลื่อนไหวในด้านความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน
- “Nissan Z” จะทำตลาดในไทยหรือไม่
ทุกท่านรู้ว่าเรามี GT-R ทำตลาดในไทยซึ่งได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนฃิ้นส่วน ฉะนั้น Nissan Z จึงขาดแคลนด้วยเช่นเดียวกัน รวมถึงต้องศึกษาความต้องการเกี่ยวกับรถสปอร์ตในเมืองไทย และรูปแบบที่ลูกค้าชาวไทยยอมรับ
จากมุมมองของแบรนด์ ผมต้องการให้แน่ใจว่านิสสันในประเทศไทยมีความสม่ำเสมอ คุณเห็นตัวอย่าง Levina, Pulza, Sylphy และ X-Trail ที่มาเปิดตัวในเมืองไทยแล้วหายไป นั่นหมายความว่า เราให้คำสัญญากับลูกค้าแล้วเราต้องรักษาสัญญา เป็นการเรียนรู้สำหรับนิสสัน ภาพลักษณ์แบรนด์ของเรามิได้เป็นแบบนั้น ดังนั้นเมื่อเราทำตลาดแล้วจะต้องยั่งยืน ไม่หยุดทำตลาดดังเช่นที่ผ่านมา ต้องสร้างความมั่นใจว่า เรามีกลยุทธ์และแผนที่ดี มีความแน่นอนและสม่ำเสมอให้แก่ลูกค้า
เรายังต้องศึกษานโยบายรัฐบาล เช่น การปรับเปลี่ยนมาตรฐานไอเสียเป็นยูโร 5-6 ที่จะเกิดขึ้น เร็วๆ นี้ ฉะนั้นการหากลยุทธ์ที่เหมาะสมกับนิสสันในประเทศไทยจึงต้องศึกษาอย่างรอบคอบ
-อนาคตของ มาร์ชและโน๊ตจะเป็นอย่างไร?
เราต้องเข้าใจว่าอีซูซุ มีรถทำตลาดเพียงสองรุ่นแต่มีความสม่ำเสมอคงเส้นคงวา สิบปีที่ผ่านมาตลาดรถยนต์ไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น เราต้องคิดจากมุมมองของลูกค้า เราต้องสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วย 4 รุ่นหลักของนิสสันที่เรามีอยู่ (Almera / Kicks / Navara / Terra) ขณะที่อีก 2 รุ่นที่เป็นแบบนำเข้าคือ GT-R และ ลีฟ ยังคงทำตลาดต่อไป
*หมายเหตุ สรุป นิสสัน มาร์ช และโน๊ตจะยุติการทำตลาดหลังจากที่ขายหมดในเร็วๆ นี้
-เหตุใดรถยนต์ไฟฟ้าจึงไม่เป็นที่นิยมในญี่ปุ่น
สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนกับยุโรปคือกฎระเบียบต่างๆ ที่มีการผลักดันให้รถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้น โดยญี่ปุ่นยังมีไม่มากนัก จากมุมมองของนโยบาย ญี่ปุ่นยังไม่ได้ชัดเจนมาก อย่างที่สองคือญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องเทคโนโลยีไฮบริดจริงๆ ประหยัดน้ำมันมากกว่าและไม่ต้องชาร์จ ทำไมต้องเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า
หากผมต้องการซื้อ นิสสัน ลีฟ ในโตเกียว แต่ที่จอดรถในอพาร์ตเมนต์ของผมไม่มีที่ชาร์จ ฉะนั้นต้องไปชาร์จจุดอื่น และไม่มีให้บริการตลอด 24 ชม. รวมถึงไม่มีที่ชาร์จในปั๊มน้ำมัน เป็นเหตุผลที่บอกว่าเรามีส่วนแบ่งการตลาดด้านรถยนต์ไฟฟ้าแค่ 1% แต่ในโตเกียว เพียง0.0x% เท่านั้น
แม้ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียวต้องการสร้างเมืองสีเขียวให้แก่โตเกียวโดยเพิ่มแรงจูงใจให้ส่วนลดในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 10,000 ดอลล่าร์สหรัฐต่อคัน(ราว 350,000 บาท) แต่ผู้คนยังให้ความสนใจในเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าน้อยมาก ขนาดโตโยต้าเปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้า ยังเป็นแค่ในลักษณะของสมาชิก
บางจังหวัดมีปั๊มน้ำมันลดลง ส่วนแบ่งรถยนต์ไฟฟ้าดีกว่าเพราะคนไม่อยากขับรถไปไกลถึงปั๊มน้ำมัน รถยนต์ไฟฟ้า อาจจะไม่เหมาะมากนักที่ต้องใช้พลังงานมากขึ้นเมื่อต้องขึ้นเขา และส่วนแบ่งทางการตลาดด้านรถปิ๊กอัพไทยประเทศไทยเองก็มีมากถึง 50% ดังนั้น การใช้รถยนต์ไฟฟ้าจึงอาจจะยังไม่ตอบโจทย์มากนัก