ฮอนด้าประเทศไทย ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ “ซีวิค อี:เอชอีวี” ขุมพลังไฮบริด 2.0 ลิตร มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น EL+ ราคา 1,129,000 บาท และรุ่น RS ราคา 1,259,000 บาท
ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle กำลังสูงสุด 141 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 182 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัวที่ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อมแบตเตอรี่ไฮบริดแบบ Lithium-ion สามารถเปลี่ยนโหมดการขับขี่ระบบไฮบริดได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ EV Drive Mode, Hybrid Drive Mode และ Engine Drive Mode พร้อมโหมดการขับขี่อีก 3 โหมด ได้แก่ ECON, Normal และ Sport
ภายนอกของรุ่น RS ติดตั้งกระจังหน้าตกแต่งด้วยโครเมียม, กันชนหน้าดีไซน์สปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS, ไฟหน้าตกแต่งด้วยโครเมียมพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED, กระจกมองข้างสีดำ, มือจับประตูด้านนอกสีดำตกแต่งด้วยโครเมียม, เสาอากาศแบบครับฉลามสีดำ, สปอยเลอร์หลังสีดำ และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 18 นิ้ว
ขณะที่ห้องโดยสารของรุ่น RS ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังกลับและวัสดุสังเคราะห์ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง, แป้นคันเร่งแบบสปอร์ต, เบาะนั่งด้านหลังปรับพับแยก 60:40, ระบบควบคุมประตู Honda Smart Key Card, มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว, เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto, ระบบชาร์จไฟไร้สาย (Wireless Charger), ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์และระบบปรับอากาศด้วยรีโมท, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา, ช่องแอร์หลัง, ช่อง USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT
ส่วนรุ่น EL+ ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน ได้แก่ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 7 นิ้ว, ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto, ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยรีโมท และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น
ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี รุ่น EL+ และ RS ถูกติดตั้งระบบความปลอดภัย Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมกว้างติดตั้งอยู่บริเวณกระจกบังลมหน้า ได้แก่ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS), ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) และระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
ขณะที่ระบบความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆ ประกอบด้วย ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch), ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor), กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ, (Multi-angle Rearview Camera), ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) พร้อมระบบ Auto Brake Hold, ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock), ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) เสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (AVAS) และอุปกรณ์อุดการรั่วซึมของยางชั่วคราว (TPRK) เป็นต้น
สำหรับสีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดงอิกไนต์ (เฉพาะรุ่น e:HEV RS), สีดำคริสตัล, สีขาวแพลทินัม, สีเทาเมทิเออรอยด์, สีเงินลูนาร์ และสีฟ้ามอร์นิงมิสต์ (เฉพาะรุ่น e:HEV EL+) และสีภายในของรุ่น e:HEV EL+ มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีเทาเบจ ขึ้นอยู่กับสีภายนอก ขณะที่รุ่น e:HEV RS สีภายในจะเป็นสีดำเท่านั้น
ทั้งนี้ Honda Civic e:HEV ทุกคันมาพร้อมการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) มูลค่า 7,158.50 บาท
