วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก (อี.เทค) โชว์ศักยภาพคว้าแชมป์ การแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคต เปิดทางธุรกิจดัดแปลงรถจักรยานยนต์ให้สามารถใช้ไฟฟ้าแทนน้ำมันได้
นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย เปิดเผยว่า สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย จับมือการไฟฟ้าฝ่ายผลิต จัดงานแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคต EVAT x EGAT Electric Motorcycle Conversion Contest for Business Opportunityครั้งเเรกในประเทศไทย ตั้งเป้าส่งเสริมการผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์ไฟฟ้า เสริมทัพการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทย
“สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย เชื่อมั่นว่าการจัดงานครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญที่นิสิต นักศึกษา เเละประชาชนทั่วไปจะได้เเสดงศักยภาพในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง ช่วยกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้บุคลากรมีความรู้ความสามารถเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังเพิ่มโอกาสทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นอย่างเเพร่หลาย”
ในการเเข่งขันครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมเเข่งขันรวมทั้งสิ้นกว่า 92 ทีม แบ่งเป็นทีมประเภทสถาบันการศึกษา 81 ทีม และเป็นทีมประเภทบุคคลทั่วไป 11 ทีม โดยรูปเเบบการเเข่งขันเเบ่งออกเป็น 2 รอบ ได้เเก่ รอบคัดเลือก เพื่อหา 20 ทีมสุดท้ายของประเภทสถาบันการศึกษา และ 5 ทีมสุดสำหรับประเภทบุคคลทั่วไป เพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
สำหรับผลการแข่งขัน ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งประเภทกลุ่มสถาบันการศึกษา ได้เเก่ทีม E-TECH-Motorcycle 2021 จากวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก (อี.เทค) ได้รับถ้วยรางวัลจากนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาพร้อมเงินรางวัลจำนวน 100,000 บาท
ขณะที่ ทีมวิทยาลัยเทคนิคตราด คว้ารองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท
เเละทีม BB5 จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง ได้รองชนะเลิศอันดับสอง รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท
ส่วนกลุ่มที่ 2 ผู้ได้รับรางวัลประเภทกลุ่มประชาชนทั่วไป ทีม Itimgarage X Crafting lab คว้ารางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินรางวัลจำนวน 100,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลจากนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รองชนะเลิศอันดับหนึ่งได้แก่ทีม โมโตอีวี ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท เเละรองชนะเลิศอันดับสองคือ ทีม Pari automotive ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษรางวัลขวัญใจมหาชน ได้เเก่ทีม E-TECH-Motorcycle 2021 จากวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก (อี.เทค) ได้รับถ้วยรางวัลจากสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย
การแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคต EVAT x EGAT Electric Motorcycle Conversion Contest for Business Opportunity ซึ่งได้มีการจัดขึ้นตั้งเเต่วันที่ 1 - 3 เมษายน พ.ศ. 2565 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา
ในการเเข่งขันครั้งนี้ ทางคณะกรรมการจัดงานได้จัดสนามการเเข่งขันโดยเเบ่งออกเป็น 10 สถานีหลัก ได้เเก่
สถานีที่ 1 ทดสอบอัตราเร่งของรถ เป็นสถานีที่ผู้เข้าเเข่งขันจะได้รับสัญญาณจากกรรมการให้ขับรถด้วยอัตราเร่งทันทีในระยะทาง 30 เมตร
สถานีที่ 2 รักษาระดับความเร็ว เป็นการทดสอบความเร็วตามความสามารถของรถ โดยให้ผู้ขับขี่รักษาความเร็วก่อนการเบรก ด้วยการรักษาความเร็วเฉลี่ย 20 - 25 กม./ชม. ในระยะทางทดสอบ 50 เมตร
สถานีที่ 3 ทดสอบระยะการเบรก ใช้ความเร็วระดับเดียวกับจุดที่ 2 เเต่มีระยะการตัดสินใจที่ให้เบรกประมาณ 5 เมตร
สถานีที่ 4 ทดสอบการประกอบของรถ จุดมุ่งหมายเพื่อทดสอบการประกอบทางกลของชิ้นส่วน โดยการขับรถวิ่งผ่านลูกระนาด ระยะทาง 50 เมตร เเละผู้ขับขี่ต้องรักษาความเร็วเฉลี่ยที่20-25 กม./ชม.
สถานีที่ 5 ทดสอบบังคับเลี้ยววิ่งอ้อมกรวย ซึ่งจะเป็นการทดสอบโดยมีการวางกรวยในเเนวเส้นตรงกลางถนน ด้วยระยะทาง 50 เมตร เเละผู้ขับขี่ต้องรักษาความเร็ว 15-20 กม./ชม.
สถานีที่ 6 ทดสอบการขึ้นทางลาดชัน เพื่อทดสอบกำลังของรถในการวิ่งขึ้นเนิน ซึ่งผู้ขับขี่ต้องหยุดรถในพื้นที่หยุดรถ เเละเมื่อไดัรับสัญญาณ ต้องขับรถขึ้นเนินให้ได้ทันที โดยผู้ขับขี่ต้องรักษาความเร็วเฉลี่ยที่ 20 - 25 กม./ชม.
สถานีที่ 7 การวิ่งในช่องทางคดเคี้ยวในช่องกรวย เพื่อทดสอบการทรงตัวเเละการบังคับเลี้ยวของการขับรถในช่องกรวยที่มีความกว้างเเต่ละคู่ 1.5 เมตร ด้วยระยะทาง 50 เมตร ในความเร็วเฉลี่ย 15-20 กม./ชม.
สถานีที่ 8 การวิ่งผ่านเนินชะลอความเร็ว ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วจนรถหยุดนิ่ง เป็นการชะลอความเร็วให้รถลดความเร็วก่อนขับขี่ลงเนินที่สูงชัน
สถานีที่ 9 สถานีตรวจวัดพลังงาน ผู้เข้าเเข่งขันต้องขับรถตลอดระยะทางของการเเข่งขันด้วยความเร็วเฉลี่ยที่ 20 กม./ชม. ตั้งเเต่จุดเริ่มต้นจนถึงจุดสิ้นสุด โดยวิธีการใช้เครื่องอ่าน RFID
สถานีที่ 10 สถานีตรวจวัดการป้องกันน้ำ เป็นการตรวจวัดความปลอดภัยของอุปกรณ์ทางไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง เมื่อต้องขับขี่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง
นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย เปิดเผยว่า สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย จับมือการไฟฟ้าฝ่ายผลิต จัดงานแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคต EVAT x EGAT Electric Motorcycle Conversion Contest for Business Opportunityครั้งเเรกในประเทศไทย ตั้งเป้าส่งเสริมการผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์ไฟฟ้า เสริมทัพการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทย
“สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย เชื่อมั่นว่าการจัดงานครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญที่นิสิต นักศึกษา เเละประชาชนทั่วไปจะได้เเสดงศักยภาพในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง ช่วยกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้บุคลากรมีความรู้ความสามารถเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังเพิ่มโอกาสทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นอย่างเเพร่หลาย”
ในการเเข่งขันครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมเเข่งขันรวมทั้งสิ้นกว่า 92 ทีม แบ่งเป็นทีมประเภทสถาบันการศึกษา 81 ทีม และเป็นทีมประเภทบุคคลทั่วไป 11 ทีม โดยรูปเเบบการเเข่งขันเเบ่งออกเป็น 2 รอบ ได้เเก่ รอบคัดเลือก เพื่อหา 20 ทีมสุดท้ายของประเภทสถาบันการศึกษา และ 5 ทีมสุดสำหรับประเภทบุคคลทั่วไป เพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
สำหรับผลการแข่งขัน ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งประเภทกลุ่มสถาบันการศึกษา ได้เเก่ทีม E-TECH-Motorcycle 2021 จากวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก (อี.เทค) ได้รับถ้วยรางวัลจากนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาพร้อมเงินรางวัลจำนวน 100,000 บาท
ขณะที่ ทีมวิทยาลัยเทคนิคตราด คว้ารองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท
เเละทีม BB5 จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง ได้รองชนะเลิศอันดับสอง รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท
ส่วนกลุ่มที่ 2 ผู้ได้รับรางวัลประเภทกลุ่มประชาชนทั่วไป ทีม Itimgarage X Crafting lab คว้ารางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินรางวัลจำนวน 100,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลจากนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รองชนะเลิศอันดับหนึ่งได้แก่ทีม โมโตอีวี ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท เเละรองชนะเลิศอันดับสองคือ ทีม Pari automotive ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษรางวัลขวัญใจมหาชน ได้เเก่ทีม E-TECH-Motorcycle 2021 จากวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก (อี.เทค) ได้รับถ้วยรางวัลจากสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย
การแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคต EVAT x EGAT Electric Motorcycle Conversion Contest for Business Opportunity ซึ่งได้มีการจัดขึ้นตั้งเเต่วันที่ 1 - 3 เมษายน พ.ศ. 2565 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา
ในการเเข่งขันครั้งนี้ ทางคณะกรรมการจัดงานได้จัดสนามการเเข่งขันโดยเเบ่งออกเป็น 10 สถานีหลัก ได้เเก่
สถานีที่ 1 ทดสอบอัตราเร่งของรถ เป็นสถานีที่ผู้เข้าเเข่งขันจะได้รับสัญญาณจากกรรมการให้ขับรถด้วยอัตราเร่งทันทีในระยะทาง 30 เมตร
สถานีที่ 2 รักษาระดับความเร็ว เป็นการทดสอบความเร็วตามความสามารถของรถ โดยให้ผู้ขับขี่รักษาความเร็วก่อนการเบรก ด้วยการรักษาความเร็วเฉลี่ย 20 - 25 กม./ชม. ในระยะทางทดสอบ 50 เมตร
สถานีที่ 3 ทดสอบระยะการเบรก ใช้ความเร็วระดับเดียวกับจุดที่ 2 เเต่มีระยะการตัดสินใจที่ให้เบรกประมาณ 5 เมตร
สถานีที่ 4 ทดสอบการประกอบของรถ จุดมุ่งหมายเพื่อทดสอบการประกอบทางกลของชิ้นส่วน โดยการขับรถวิ่งผ่านลูกระนาด ระยะทาง 50 เมตร เเละผู้ขับขี่ต้องรักษาความเร็วเฉลี่ยที่20-25 กม./ชม.
สถานีที่ 5 ทดสอบบังคับเลี้ยววิ่งอ้อมกรวย ซึ่งจะเป็นการทดสอบโดยมีการวางกรวยในเเนวเส้นตรงกลางถนน ด้วยระยะทาง 50 เมตร เเละผู้ขับขี่ต้องรักษาความเร็ว 15-20 กม./ชม.
สถานีที่ 6 ทดสอบการขึ้นทางลาดชัน เพื่อทดสอบกำลังของรถในการวิ่งขึ้นเนิน ซึ่งผู้ขับขี่ต้องหยุดรถในพื้นที่หยุดรถ เเละเมื่อไดัรับสัญญาณ ต้องขับรถขึ้นเนินให้ได้ทันที โดยผู้ขับขี่ต้องรักษาความเร็วเฉลี่ยที่ 20 - 25 กม./ชม.
สถานีที่ 7 การวิ่งในช่องทางคดเคี้ยวในช่องกรวย เพื่อทดสอบการทรงตัวเเละการบังคับเลี้ยวของการขับรถในช่องกรวยที่มีความกว้างเเต่ละคู่ 1.5 เมตร ด้วยระยะทาง 50 เมตร ในความเร็วเฉลี่ย 15-20 กม./ชม.
สถานีที่ 8 การวิ่งผ่านเนินชะลอความเร็ว ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วจนรถหยุดนิ่ง เป็นการชะลอความเร็วให้รถลดความเร็วก่อนขับขี่ลงเนินที่สูงชัน
สถานีที่ 9 สถานีตรวจวัดพลังงาน ผู้เข้าเเข่งขันต้องขับรถตลอดระยะทางของการเเข่งขันด้วยความเร็วเฉลี่ยที่ 20 กม./ชม. ตั้งเเต่จุดเริ่มต้นจนถึงจุดสิ้นสุด โดยวิธีการใช้เครื่องอ่าน RFID
สถานีที่ 10 สถานีตรวจวัดการป้องกันน้ำ เป็นการตรวจวัดความปลอดภัยของอุปกรณ์ทางไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง เมื่อต้องขับขี่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง