หลังจากที่ เปอโยต์ ประเทศไทย เปิดตัวรถรุ่น 3008 และ 5008 เป็นผู้บุกเบิกการทำตลาดครั้งใหม่ คราวนี้ถึงเวลาของหัวหมู่ทะลวงฟันที่จะมาสร้างยอดขายแบบเป็นกอบเป็นกำ “2008” SUVน้องเล็ก โฉมใหม่ล่าสุด แม้ว่าจะเป็นการเปิดตัวแบบกระท่อนกระแท่นอันเนื่องมาจากผลกระทบของวิกฤตโควิด-19 แต่จนแล้วจนรอด 2008 เตรียมส่งมอบให้ลูกค้าชาวไทยเรียบร้อย
สำหรับ 2008 เผยโฉมครั้งแรกในไทยด้วยโฉมก่อนปกติ แต่ไม่สามารถเปิดตัวอย่าเป็นทางการได้ จนกระทั่งโฉมไมเนอร์เชนจ์ปรากฎตัวสู่สายตาชาวโลก จึงเป็นที่เข้าใจได้ว่า หากเปิดมาแล้วต้องตกรุ่นทันทีจะกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตโจลูกค้าอย่างหนักหน่วง ดังนั้น เอ็มจีซี จึงตัดสินใจรอจนโฉมไมเนอร์เชนจ์พร้อม จึงเปิดตัวทำตลาดอย่างเป็นทางการด้วยราคาแนะนำ 1,189,000 บาท และล่าสุดมีการปรับราคาใหม่เป็น 1,249,000 บาท ทีมงานเอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง ไปทดลองขับเรียบร้อย
หน้าใหม่ หัวใจเดิม
จุดเด่นสำคัญที่สุดของ เปอโยต์ 2008 คือการดีไซน์ ซึ่งสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ Red Dot Award ประจำปี 2020 มาได้ นับว่าเป็นสิ่งยืนยันผลงานการออกแบบที่โดดเด่นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะรุ่นไมเนอร์เชนจ์ตัวนี้มากับแนวทางใหม่ด้วยการใช้ลักษณะของ “เขี้ยวสิงโต” เป็นต้นแบบของการดีไซน์ไฟหน้า ซึ่งเป็นแบบ 3 เส้น พร้อมด้วยไฟ DayTimeRunningแบบขีดยาวลงมาทางด้านล่าง
กระจังหน้าใหม่แบบ Frameless ไร้กรอบ ดูแปลกตาและล้ำสมัยอย่างชัดเจน ขณะที่เส้นสันทางด้านข้างตัวถัง ถือว่ามีความกล้าหาญในการออกแบบอย่างฉีกแนวทางเดิมๆ ของการออกแบบรถด้วยการใช้รูปทรงเลขาคณิต ที่มีหลากหลายเหลี่ยมมุม เด่นสะดุดทุกสายตาอย่างแน่นอน
ขุมพลังของ 2008 บรรจุเครื่องยนต์แบบเบนซิน3 สูบ PureTech เทอร์โบ ขนาด1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 130 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
อีกหนึ่งความโดดเด่นคือการออกแบบภายในห้องโดยสารที่ ใช้ชื่อว่า3D i-Cockpit ล้ำสมัยที่สุดในเซ็กเมนท์รถ B SUV ของไทย ด้วยจอแสดงผลแบบ 3 มิติ ดูน่าตื่นตาตื่นใจอย่างมาก โดยจัดวางตำแหน่งอยู่ในระดับสูงกว่าพวงมาลัย ทำให้มองเห็นได้ง่าย แต่อาจจะต้องทำความคุ้นเคยกับการจับพวงมาลัยสักหน่อย
จอกลางแบบอเนกประสงค์ขนาด 7 นิ้ว สั่งการด้วยระบบสัมผัส ใช้งานง่ายรายละเอียดลูกเล่นครบถ้วนตามสมัยนิยมรองรับ Apple CarPlay และAndroid Auto ส่วนปุ่มสวิตช์เป็นทรงก้านเปียโนดีไซน์สวยงาม สะดวกเมื่อต้องการกด มีช่องเสียบ USB 2 ตำแหน่ง ช่องวางแก้วน้ำขนาดใหญ่ และเบรกมือเป็นแบบไฟฟ้า เบาะนั่งปรับด้วยมือ โดยเบาะหลังพับได้แบบ 60/40 เพื่อเพิ่มพื่นที่ใช้สอยเมื่อต้องขนของชิ้นใหญ่
ระบบเสริมความปลอดภัย ถือว่าให้มาพอสมควรใกล้เคียงคู่แข่งโดยมี ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ประตูหน้า, ม่านข้างแถวที่1และ2, ระบบเตือนมุมอับสายตา, ระบบเตือนให้เบรกเมื่อมีสิ่งกีดขวาง, ระบบเตือนรถออกนอกเลน, ระบบอ่านป้ายจำกัดความเร็ว, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, กล้องมองหลัง, ABS และ ESP
เล็กเร่งดี คล่องตัว
สำหรับการทดลองขับคราวนี้เลือกใช้เส้นทางสั้นๆ จากโชว์รูมมุ่งหน้าบางกระเจ้า โดยใช้เส้นทางด่วนทะลุใจกลางเมืองแล้วมุ่งหน้าสู่ปอดของเมืองกรุง ความรู้สึกแรกคือ มองจากภายนอกตัวรถค่อนข้างเล็ก แต่เมื่อเข้านั่งภายในห้องโดยสารรู้สึกพอดี มีพื้นที่ใหญ่กว่าที่คาดเอาไว้ ไม่อึดอัด
การจัดวางตำแหน่งพวงมาลัยคือสิ่งที่คุณต้องทำความคุ้นเคยใหม่ ด้วยระดับที่ตั้งใจวางเอาไว้ต่ำกว่าปกติ เพื่อให้หน้าจอ 3D อยู่ในระดับที่สูงกว่าพวงมาลัย ทำให้ระดับของพวงมาลัยอยู่แนวเดียวกับท้อง ท่าการขับจะแปลกกว่ารถรุ่นอื่นๆ โดยน้ำหนักของพวงมาลัยจะเบามาก เหมาะกับการใช้งานในเมือง คุณผู้หญิงจะชอบ แต่คุณผู้ชายอาจจะบ่นอยู่
แม้พวงมาลัยจะมีน้ำหนักเบา แต่การบังคับควบคุมถือว่าแม่นยำดี จังหวะในการเข้าโค้งหรือเลี้ยวแบบหักสุด ทำได้ง่าย ให้ความรู้สึกคล่องตัว โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้งานในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น ส่วนเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูงระดับ 100-120 กม./ชม. พวงมาลัยหนักขึ้นแต่ยังเบาสำหรับเราอยู่ดี
ด้านอัตราเร่ง ทำได้น่าประทับใจอย่างยิ่ง สมแล้วที่เป็นเครื่องยนต์ซึ่งพัฒนาเพื่อให้มีการตอบสนองที่ดีและเน้นการขับสนุก หากยังจำกันได้นี่คือเครื่องยนต์รหัสพัฒนาเดียวกับที่ PSA ทำร่วมกับมินิ ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องเล็กที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเปอโยต์นำมาต่อยอดเพื่อให้เหมาะกับ 2008 และเมื่อจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ทำให้ได้การตอบสนองทันใจทั้งช่วงออกตัวและการเร่งแซง
การขับขี่ในคราวนี้ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น ทำให้ฟันธงในเรื่องของการใช้งานว่า คล่องตัวเหมาะกับการขับขี่ตามตรอกซอกซอยเล็กๆ ได้เป็นอย่างดี ส่วนการลองขับแบบความเร็วสูงหรือทางยาวไกล เราได้ลองกดเพียงสั้นๆ จึงขอละไว้ก่อน
ระบบช่วงล่างเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ทำได้น่าประทับใจไม่ผิดหวัง ให้ความรู้สึกอยู่ในลักษณะนุ่ม หนึบในแบบฉบับของรถยุโรปได้ เหนือว่าแบรนด์ญี่ปุ่น แต่จะยังไม่หนึบเท่าแบรนด์ยุโรปอื่นที่เป็นคู่แข่งโดยตรงตามขนาด เช่น บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์1, เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ หรืออาวดี้ คิว3
สิ่งที่เราประทับใจเป็นพิเศษจากการได้ลองขับ 2008 คือ ความสนุกในการขับขี่ ซึ่งเราไม่ได้เห็นจากรถแบรนด์สิงห์เขย่งมานานแล้ว โดยเฉพาะเมื่อต้องขับในพื้นที่แคบการบังคับควบคุมและการตอบสนองของระบบขับเคลื่อนทำได้อย่างลงตัว ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป รวมถึงทัศนวิสัยในการมองเห็นชัดเจนทุกมุมมอง
สำหรับสิ่งเรารู้สึกว่าควรจะต้องมีคือ ระบบปรับไฟฟ้าของเบาะนั่ง โดยเบาะแบบมือโยกที่ให้มาบอกได้เลยว่า ปรับและใช้งานยากกว่ารถทั่วไป ซึ่งก็พอจะเข้าใจได้ว่า จำเป็นต้องตัดออปชันบางรายการออกไปเพื่อให้สามารถทำราคาแข่งขันกับรถแบรนด์ญี่ปุ่นได้
ส่วนอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง ยอมรับตามตรงว่าไม่ได้เก็บข้อมูลมา เนื่องจากเป็นการขับด้วยระยะทางที่สั้น และใช้งานในเมืองเป็นหลักเพียงอย่างเดียว หากมีโอกาสอีกครั้งจะนำเสนออย่างแน่นอน
โดยภาพรวมเมื่อหันไปมองที่ราคาค่าตัว 1,189,000 บาท เมื่อครั้งเปิดตัวทำให้ได้รับการตอบรับอย่างดีมากมียอดจองระดับหลายร้อยคันในช่วงแรก ส่วนเมื่อเมื่อการปรับราคาใหม่เป็น 1,249,000 บาท ผลตอบรับจะเป็นอย่างไรคงต้องรอดูกันอีกครั้งหนึ่ง
เหมาะกับใคร
ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกและการออกแบบภายในที่ล้ำสมัยโดนใจคนรุ่นใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนการขับขี่เหมาะกับคุณผู้หญิงที่เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก มองหารถอเนกประสงค์ขนาดเล็กแบรนด์ยุโรป ในราคาไม่ห่างจากแบรนด์ญี่ปุ่น เปอโยต์ 2008 คือตัวเลือกที่ใช่ แนะนำให้มาลองขับก่อนตัดสินใจ
สำหรับ 2008 เผยโฉมครั้งแรกในไทยด้วยโฉมก่อนปกติ แต่ไม่สามารถเปิดตัวอย่าเป็นทางการได้ จนกระทั่งโฉมไมเนอร์เชนจ์ปรากฎตัวสู่สายตาชาวโลก จึงเป็นที่เข้าใจได้ว่า หากเปิดมาแล้วต้องตกรุ่นทันทีจะกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตโจลูกค้าอย่างหนักหน่วง ดังนั้น เอ็มจีซี จึงตัดสินใจรอจนโฉมไมเนอร์เชนจ์พร้อม จึงเปิดตัวทำตลาดอย่างเป็นทางการด้วยราคาแนะนำ 1,189,000 บาท และล่าสุดมีการปรับราคาใหม่เป็น 1,249,000 บาท ทีมงานเอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง ไปทดลองขับเรียบร้อย
หน้าใหม่ หัวใจเดิม
จุดเด่นสำคัญที่สุดของ เปอโยต์ 2008 คือการดีไซน์ ซึ่งสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ Red Dot Award ประจำปี 2020 มาได้ นับว่าเป็นสิ่งยืนยันผลงานการออกแบบที่โดดเด่นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะรุ่นไมเนอร์เชนจ์ตัวนี้มากับแนวทางใหม่ด้วยการใช้ลักษณะของ “เขี้ยวสิงโต” เป็นต้นแบบของการดีไซน์ไฟหน้า ซึ่งเป็นแบบ 3 เส้น พร้อมด้วยไฟ DayTimeRunningแบบขีดยาวลงมาทางด้านล่าง
กระจังหน้าใหม่แบบ Frameless ไร้กรอบ ดูแปลกตาและล้ำสมัยอย่างชัดเจน ขณะที่เส้นสันทางด้านข้างตัวถัง ถือว่ามีความกล้าหาญในการออกแบบอย่างฉีกแนวทางเดิมๆ ของการออกแบบรถด้วยการใช้รูปทรงเลขาคณิต ที่มีหลากหลายเหลี่ยมมุม เด่นสะดุดทุกสายตาอย่างแน่นอน
ขุมพลังของ 2008 บรรจุเครื่องยนต์แบบเบนซิน3 สูบ PureTech เทอร์โบ ขนาด1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 130 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
อีกหนึ่งความโดดเด่นคือการออกแบบภายในห้องโดยสารที่ ใช้ชื่อว่า3D i-Cockpit ล้ำสมัยที่สุดในเซ็กเมนท์รถ B SUV ของไทย ด้วยจอแสดงผลแบบ 3 มิติ ดูน่าตื่นตาตื่นใจอย่างมาก โดยจัดวางตำแหน่งอยู่ในระดับสูงกว่าพวงมาลัย ทำให้มองเห็นได้ง่าย แต่อาจจะต้องทำความคุ้นเคยกับการจับพวงมาลัยสักหน่อย
จอกลางแบบอเนกประสงค์ขนาด 7 นิ้ว สั่งการด้วยระบบสัมผัส ใช้งานง่ายรายละเอียดลูกเล่นครบถ้วนตามสมัยนิยมรองรับ Apple CarPlay และAndroid Auto ส่วนปุ่มสวิตช์เป็นทรงก้านเปียโนดีไซน์สวยงาม สะดวกเมื่อต้องการกด มีช่องเสียบ USB 2 ตำแหน่ง ช่องวางแก้วน้ำขนาดใหญ่ และเบรกมือเป็นแบบไฟฟ้า เบาะนั่งปรับด้วยมือ โดยเบาะหลังพับได้แบบ 60/40 เพื่อเพิ่มพื่นที่ใช้สอยเมื่อต้องขนของชิ้นใหญ่
ระบบเสริมความปลอดภัย ถือว่าให้มาพอสมควรใกล้เคียงคู่แข่งโดยมี ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ประตูหน้า, ม่านข้างแถวที่1และ2, ระบบเตือนมุมอับสายตา, ระบบเตือนให้เบรกเมื่อมีสิ่งกีดขวาง, ระบบเตือนรถออกนอกเลน, ระบบอ่านป้ายจำกัดความเร็ว, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, กล้องมองหลัง, ABS และ ESP
เล็กเร่งดี คล่องตัว
สำหรับการทดลองขับคราวนี้เลือกใช้เส้นทางสั้นๆ จากโชว์รูมมุ่งหน้าบางกระเจ้า โดยใช้เส้นทางด่วนทะลุใจกลางเมืองแล้วมุ่งหน้าสู่ปอดของเมืองกรุง ความรู้สึกแรกคือ มองจากภายนอกตัวรถค่อนข้างเล็ก แต่เมื่อเข้านั่งภายในห้องโดยสารรู้สึกพอดี มีพื้นที่ใหญ่กว่าที่คาดเอาไว้ ไม่อึดอัด
การจัดวางตำแหน่งพวงมาลัยคือสิ่งที่คุณต้องทำความคุ้นเคยใหม่ ด้วยระดับที่ตั้งใจวางเอาไว้ต่ำกว่าปกติ เพื่อให้หน้าจอ 3D อยู่ในระดับที่สูงกว่าพวงมาลัย ทำให้ระดับของพวงมาลัยอยู่แนวเดียวกับท้อง ท่าการขับจะแปลกกว่ารถรุ่นอื่นๆ โดยน้ำหนักของพวงมาลัยจะเบามาก เหมาะกับการใช้งานในเมือง คุณผู้หญิงจะชอบ แต่คุณผู้ชายอาจจะบ่นอยู่
แม้พวงมาลัยจะมีน้ำหนักเบา แต่การบังคับควบคุมถือว่าแม่นยำดี จังหวะในการเข้าโค้งหรือเลี้ยวแบบหักสุด ทำได้ง่าย ให้ความรู้สึกคล่องตัว โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้งานในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น ส่วนเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูงระดับ 100-120 กม./ชม. พวงมาลัยหนักขึ้นแต่ยังเบาสำหรับเราอยู่ดี
ด้านอัตราเร่ง ทำได้น่าประทับใจอย่างยิ่ง สมแล้วที่เป็นเครื่องยนต์ซึ่งพัฒนาเพื่อให้มีการตอบสนองที่ดีและเน้นการขับสนุก หากยังจำกันได้นี่คือเครื่องยนต์รหัสพัฒนาเดียวกับที่ PSA ทำร่วมกับมินิ ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องเล็กที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเปอโยต์นำมาต่อยอดเพื่อให้เหมาะกับ 2008 และเมื่อจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ทำให้ได้การตอบสนองทันใจทั้งช่วงออกตัวและการเร่งแซง
การขับขี่ในคราวนี้ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น ทำให้ฟันธงในเรื่องของการใช้งานว่า คล่องตัวเหมาะกับการขับขี่ตามตรอกซอกซอยเล็กๆ ได้เป็นอย่างดี ส่วนการลองขับแบบความเร็วสูงหรือทางยาวไกล เราได้ลองกดเพียงสั้นๆ จึงขอละไว้ก่อน
ระบบช่วงล่างเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ทำได้น่าประทับใจไม่ผิดหวัง ให้ความรู้สึกอยู่ในลักษณะนุ่ม หนึบในแบบฉบับของรถยุโรปได้ เหนือว่าแบรนด์ญี่ปุ่น แต่จะยังไม่หนึบเท่าแบรนด์ยุโรปอื่นที่เป็นคู่แข่งโดยตรงตามขนาด เช่น บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์1, เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ หรืออาวดี้ คิว3
สิ่งที่เราประทับใจเป็นพิเศษจากการได้ลองขับ 2008 คือ ความสนุกในการขับขี่ ซึ่งเราไม่ได้เห็นจากรถแบรนด์สิงห์เขย่งมานานแล้ว โดยเฉพาะเมื่อต้องขับในพื้นที่แคบการบังคับควบคุมและการตอบสนองของระบบขับเคลื่อนทำได้อย่างลงตัว ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป รวมถึงทัศนวิสัยในการมองเห็นชัดเจนทุกมุมมอง
สำหรับสิ่งเรารู้สึกว่าควรจะต้องมีคือ ระบบปรับไฟฟ้าของเบาะนั่ง โดยเบาะแบบมือโยกที่ให้มาบอกได้เลยว่า ปรับและใช้งานยากกว่ารถทั่วไป ซึ่งก็พอจะเข้าใจได้ว่า จำเป็นต้องตัดออปชันบางรายการออกไปเพื่อให้สามารถทำราคาแข่งขันกับรถแบรนด์ญี่ปุ่นได้
ส่วนอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง ยอมรับตามตรงว่าไม่ได้เก็บข้อมูลมา เนื่องจากเป็นการขับด้วยระยะทางที่สั้น และใช้งานในเมืองเป็นหลักเพียงอย่างเดียว หากมีโอกาสอีกครั้งจะนำเสนออย่างแน่นอน
โดยภาพรวมเมื่อหันไปมองที่ราคาค่าตัว 1,189,000 บาท เมื่อครั้งเปิดตัวทำให้ได้รับการตอบรับอย่างดีมากมียอดจองระดับหลายร้อยคันในช่วงแรก ส่วนเมื่อเมื่อการปรับราคาใหม่เป็น 1,249,000 บาท ผลตอบรับจะเป็นอย่างไรคงต้องรอดูกันอีกครั้งหนึ่ง
เหมาะกับใคร
ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกและการออกแบบภายในที่ล้ำสมัยโดนใจคนรุ่นใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนการขับขี่เหมาะกับคุณผู้หญิงที่เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก มองหารถอเนกประสงค์ขนาดเล็กแบรนด์ยุโรป ในราคาไม่ห่างจากแบรนด์ญี่ปุ่น เปอโยต์ 2008 คือตัวเลือกที่ใช่ แนะนำให้มาลองขับก่อนตัดสินใจ
