“มาสด้า ซีเอ็กซ์-60 พีเอชอีวี” เอสยูวีขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด e-Skyactiv PHEV 2.5 ลิตร กำลังสูงสุด 327 แรงม้า ขึ้นแท่นรถโปรดักชันที่มีพละกำลังมากที่สุดเท่าที่มาสด้าเคยผลิตมา ขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนไกลสุด 63 กิโลเมตร เผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกที่ยุโรป
มาสด้า ซีเอ็กซ์-60 พีเอชอีวี เป็นเอสยูวีขนาด 5 ที่นั่งสำหรับเน้นทำตลาดในยุโรปโดยเฉพาะ ถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม Skyactiv Multi-Solution Scalable Architecture เครื่องยนต์วางหน้า-ขับเคลื่อนล้อหลัง เน้นปรับปรุงการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้าง, การวางตำแหน่งเบาะนั่งเพื่อให้เกิดความสมดุลในขณะขับขี่, การปรับปรุงระบบช่วงล่างให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงติดตั้งระบบ Kinematic Posture Control (KPC) ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการเข้าโค้งเช่นเดียวกับที่ติดตั้งลงใน เอ็มเอ็กซ์-5 ก่อนหน้านี้
มาสด้า ซีเอ็กซ์-60 พีเอชอีวี ที่วางจำหน่ายในยุโรปติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ไดเร็กอินเจคชัน สกายแอคทีฟ-จี ความจุ 2.5 ลิตร ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 100 กิโลวัตต์ ให้กำลังรวมสูงสุด 327 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบถาวร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.8 วินาที ซึ่งมาสด้าระบุว่า ซีเอ็กซ์-60 พีเอชอีวี เป็นรถโปรดักชันที่มีพละกำลังมากที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา
แบตเตอรี่ไฮบริดของ ซีเอ็กซ์-60 พีเอชอีวี มีขนาดความจุ 17.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ให้แรงดันไฟขนาด 355 โวลต์ สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนได้เป็นระยะทางราว 63 กิโลเมตร เมื่อใช้ความเร็วต่อเนื่องต่ำกว่า 100 กม./ชม. ทั้งยังมีอัตราสิ้นเปลืองต่ำเพียง 1.5 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร (หรือประมาณ 66.67 กม./ลิตร) และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 33 กรัมต่อกิโลเมตรตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP
ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งอย่างประณีตด้วยการผสมผสานวัสดุต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เช่น ไม้เมเปิล, หนัง Nappa, วัสดุสิ่งทอเอกลักษณ์ตามฉบับญี่ปุ่น และการตกแต่งรายละเอียดด้วยโครเมียม ทั้งยังถูกติดตั้งระบบ Mazda Driver Personalisation System ที่สามารถจดจำโปรไฟล์ผู้ขับขี่แต่ละคน เพื่อปรับตำแหน่งของเบาะนั่ง, พวงมาลัย, กระจกมองข้าง, หน้าจอ HUD รวมไปถึงระบบเสียงและระบบปรับอากาศได้โดยอัตโนมัติ
มาสด้ายังได้ติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูง i-Activsense เป็นมาตรฐานในยุโรป ทั้งยังเพิ่มระบบความปลอดภัยแบบแอคทีฟมากมาย เช่น ระบบแสดงภาพ 360 องศาที่ความเร็วต่ำ See-Through View, ระบบ Turn Across Traffic Assist, ระบบตรวจจับคนเดินถนน SBS-R, ระบบ Emergency Lane Keeping, ระบบ i-Adaptive Cruise Control และระบบ BSM Vehicle Exit Warning เป็นต้น
นอกจากนี้ มาสด้ายังระบุว่ามีแผนเตรียมเปิดตัวรถยนต์ที่ใช้แพล็ตฟอร์ม Multi-solution Platform Architecture ให้ได้ครบ 5 รุ่นภายในอีก 3 ปีข้างหน้า ก่อนจะตามมาด้วยแพล็ตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า Skyactiv EV Scalable Architecture ภายหลังจากปี 2568 เป็นต้นไป ขณะที่ ซีเอ็กซ์-80 ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า ซีเอ็กซ์-60 พร้อมห้องโดยสารแบบ 3 แถว จะถูกเปิดตัวอีกครั้งภายในปี 2566 ที่จะถึงนี้