บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมสนับสนุนนโยบายอีวีของภาครัฐ หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งล่าสุด ได้มีมติเห็นชอบในมาตรการสนับสนุนยานยนต์พลังงานไฟฟ้า 3 ประเภท ทั้ง รถยนต์ รถจักรยานยนต์และรถกระบะ สำหรับรถยนต์และรถกระบะพลังงานไฟฟ้า จะได้รับวงเงินอุดหนุนจำนวน 70,000 – 150,000 บาทต่อคัน ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยแบรนด์รถยนต์เอ็มจี ในฐานะผู้บุกเบิกและผู้นำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย พร้อมมอบประโยชน์สูงสุดหนุน ให้คนไทยได้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มที่ ประกาศเดินหน้าแผนนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่สู่ตลาดในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 3 รุ่น และสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ให้แข็งแกร่ง รองรับกับตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “จากการที่ภาครัฐโดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบในมาตรการสนับสนุน ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งการลดภาษีสรรพสามิต ภาษีนำเข้า และการอุดหนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ด้วยวงเงินตั้งแต่ 70,000 – 150,000 บาท นั้น เอ็มจีในฐานะผู้นำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย พร้อมให้การสนับสนุนนโยบายรัฐอย่างเต็มที่โดยได้เตรียมเข้าหารือกับภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานและให้คนไทยได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากนโยบายดังกล่าวโดยเร็วที่สุด”
ทั้งนี้ เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา เอ็มจีได้ประกาศเป้าหมายในการดำเนินงานในประเทศไทยที่จะผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ทัดเทียมอุตสาหกรรมยานยนต์โลก โดยหนึ่งในกุญแจสำคัญที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวไปข้างหน้า และเป็นหนึ่งในเทรนด์ยานยนต์ของโลกก็คือ “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” ซึ่งเอ็มจีจะให้ความสำคัญกับการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าหรือ EV Ecosystem ที่แข็งแกร่ง โดยจะดำเนินการใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ (1) การพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลาย เพื่อให้สอดรับกับรูปแบบการใช้งานความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของแต่ละกลุ่มลูกค้า (2) การพัฒนาและการจัดการแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยเอ็มจีได้ลงทุนกว่า 2,500 ล้านบาท ในการสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงยังอยู่ในระหว่างการศึกษาและวิจัยในเรื่องของวิธีการจัดการแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานแล้วอีกด้วย (3) การสร้างและขยายเครือข่ายสถานีชาร์จให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเสริมความมั่นใจในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า รองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงยังเป็นการปลดล็อกความกังวลเรื่องระยะทางการใช้งานต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ด้วยจำนวนสถานีชาร์จนอกบ้านที่มีให้บริการตลอดเส้นทาง และ (4) การเร่งสร้างความรู้พื้นฐานและความเข้าใจเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างและเพิ่มจำนวนบุคลากรที่มีความชำนาญด้านอีวีเข้าสู่ตลาดแรงงานในอนาคต
นโยบายดังกล่าวของภาครัฐ จะทำให้ตลาดรถพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด และโครงสร้างของระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยคนไทยจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากมาตรการส่งเสริมอีวีที่มีความเป็นรูปธรรมนี้
ที่ผ่านมา เอ็มจีได้แนะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจำนวน 3 รุ่น 3 รูปแบบสู่ตลาดเมืองไทย ได้แก่ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในกลุ่ม SUV อย่าง MG ZS EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารูปแบบสเตชั่น แวกอน MG EP รวมไปถึง MG Cyberster ที่มีการเปิดจองสิทธิ์การเป็นเจ้าของเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และเตรียมเข้าไลน์ผลิตเพื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ภายในปี ค.ศ. 2023 โดยในปีนี้ เอ็มจีเตรียมเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดในเซกเมนต์ที่แตกต่างกันอย่างน้อย 3 รุ่น ซึ่งจะยังคงโดดเด่นด้วยดีไซน์และมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยรุ่นแรกจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 43 ในช่วงต้นปีนี้แน่นอน
ส่องข้อมูล 3 รถรุ่นใหม่
MG ZS EV รุ่นไมเนอร์เชนจ์ นอกจากการปรับเปลี่ยนดีไซน์แล้ว คาดว่าจะได้รับการเปลี่ยนแบตเตอรี่เป็นชุดใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ตามแนวทางเดียวกับที่เปิดตัวในประเทศอังกฤษ โดยแบตเตอรี่รุ่นมาตรฐานขยับขนาดความจุจาก 44.5 kWh เพิ่มขึ้นเป็น 51.1 kWh วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 430 กม.ทั้งยังได้เพิ่มทางเลือกรุ่น Long Range ด้วยการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 72.6 kWh วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 595 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC)
ขณะที่ออปชันและฟังก์ชันต่างๆ มีการปรับปรุงด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนเวอร์ชันที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยจะได้รับการปรับเปลี่ยนจากเดิมมากน้อยเพียงใดคงต้องอดใจรอถึงวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ส่วนอีกหนึ่งรุ่นใหม่ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะมีการเปิดตัวทำตลาดอย่างแน่นอนคือ MG HS โฉมใหม่ หลังจากที่มีการเปิดตัวในประเทศจีนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงมากว่า เอ็มจี ประเทศไทย จะเดินตามรอยบริษัทใหม่ ในการทำตลาด MG HS โฉมไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งเป็นรถที่มากับดีไซน์เจเนอเรชัน3
ทั้งนี้จะเปิดตัวช่วงเวลาใดนั้นเชื่อว่า หลายคนทราบเป็นอย่างดี เพราะงานมอเตอร์โชว์ของไทยจะมีขึ้นช่วงปลายเดือนมีนาคม ฉะนั้นหากหวังยอดขายเป็นกอบเป็นกำ การเปิดตัวรถรุ่นใหม่จะมีขึ้นก่อนงานมอเตอร์โชว์เริ่มต้นอย่างแน่นอน
อีกหนึ่งรุ่นที่เป็นรุ่นสุดท้ายจากการคาดหมายของทีมข่าวเอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง พุ่งเป้าไปที่ MG One รถยนต์แบบอเนกประสงค์เอสยูวีโฉมใหม่ล่าสุดที่ เอสเอไอซี มอเตอร์ เปิดตัวอวดโฉมในเวทีโลก ซึ่งเป็นรถที่มากับดีไซน์เจเนอเรชัน3 เช่นเดียวกับ MG HS ไมเนอร์เชนจ์
MG One เป็นรถเอสยูวีขนาดเล็กกะทัดรัด พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุด Sigma มีขนาดตัวถังอยู่ตรงกลางระหว่าง MG ZS และ MG HS ซึ่งเมื่อเอ็มจีวางเป้าหมายการเป็นผู้นำในตลาดรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี ฉะนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงว่า MG One จะเข้ามาเติมเต็มไลน์การขายของเอ็มจีอย่างลงตัว
จุดเด่นของ MG One อยู่ที่เครื่องยนต์เป็นแบบเบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ ที่มีกำลังสูงสุด 181 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 285 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ MG Pilot 2.0 โดยใช้กล้องด้านหน้าพร้อมเรดาร์เซนเซอร์มากถึง 3 ตัว รองรับระบบล้ำสมัยเช่น ระบบช่วยจอดอัตโนมัติเต็มรูปแบบ APA และระบบสั่งจอดรถผ่านโทรศัพท์มือถือ RPA เป็นต้น