xs
xsm
sm
md
lg

“มินิ” เปิดตัวโปรเจ็กต์ “มินิ รีชาร์จ” แปลงมินิรุ่นคลาสสิกเป็นรถไฟฟ้าล้วน 100%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“มินิ” เปิดตัวโปรเจ็กต์ “มินิ รีชาร์จ” ที่ให้ลูกค้ารถมินิรุ่นคลาสสิกสามารถเปลี่ยนไปใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ได้ ด้วยมอเตอร์กำลังสูงสุด 122 แรงม้า และแบตเตอรี่ที่ให้ระยะทางขับขี่ประมาณ 160 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง


แม้ว่าปัจจุบันจะมีบริษัทหลายแห่งในสหราชอาณาจักรที่รับแปลงรถมินิรุ่นคลาสสิกไปใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เช่น Swind E และ London Electric Cars แต่ล่าสุด มินิ ภายใต้เครือ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้เปิดตัวโปรเจ็กต์ใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า “มินิ รีชาร์จ” ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถแปลงระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องอาศัยบริษัทภายนอกอีกต่อไป ซึ่งปัจจุบันมีให้บริการเฉพาะลูกค้าในสหราชอาณาจักรเท่านั้น

รถยนต์มินิรุ่นคลาสสิกที่ผ่านการดัดแปลงโดย มินิ รีชาร์จ จะถูกติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 90 กิโลวัตต์ หรืิอประมาณ 122 แรงม้า (PS) สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาประมาณ 9 วินาที โดยมินิระบุว่าลูกค้าจะได้รับความเพลิดเพลินในการขับขี่ด้วยอัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจตามฉบับรถยนต์ไฟฟ้าแท้ๆ พร้อมด้วยแบตเตอรี่ที่สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางราว 160 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง ซึ่งไม่เลวร้ายนักเมื่อเทียบกับ มินิ คูเปอร์ เอสอี รุ่นปัจจุบันที่มีระยะทางขับขี่ราว 217 กิโลเมตร

แต่ถึงกระนั้น แบตเตอรี่ที่ถูกติดตั้งโดย มินิ รีชาร์จ ไม่รองรับการชาร์จด่วนแต่อย่างใด หากแต่สามารถชาร์จด้วยกำลังไฟสูงสุดอยู่ที่ 6.6 กิโลวัตต์เท่านั้น ซึ่งมินิไม่ได้ระบุว่าต้องใช้เวลาเท่าใดจนกว่าจะชาร์จเต็ม



นอกจากนี้ รถมินิแต่ละคันจะได้รับการเปลี่ยนแผงเรือนไมล์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ สามารถแสดงข้อมูลระยะทางขับขี่จากแบตเตอรี่ที่เหลือ, ตำแหน่งเกียร์, อุณหภูมิมอเตอร์ ฯลฯ เพื่อรองรับการใช้งานระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า โดยใช้มาตรวัดแบบเข็มเพื่อคงความคลาสสิกตามฉบับมินิรุ่นดั้งเดิมเอาไว้

ทั้งนี้ มินิระบุว่าโปรเจ็กต์ดังกล่าวไม่เพียงแต่ช่วยให้รถมินิรุ่นคลาสสิกกลับมาโลดแล่นบนถนนเหมือนใหม่อีกครั้ง แต่ยังถือเป็นการสานต่อปณิธานดั้งเดิมของ เซอร์อเล็ก อิสซิโกนิส ผู้ก่อตั้งแบรนด์มินิที่ต้องการสร้างรถยนต์ประหยัดเชื้อเพลิง รองรับผู้โดยสารได้ 4 ที่นั่งพร้อมสัมภาระ ภายใต้เรือนร่างที่มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ประชาชนสามารถผ่านพ้นวิกฤตราคาน้ำมันสมัยปี ค.ศ. 1959 นั่นเอง


โปรเจกต์ มินิ รีชาร์จ ดังกล่าวยังช่วยให้เจ้าของรถสามารถนำรถมินิคันเดิมขับไปยังพื้นที่ที่มีการจำกัดการปล่อยมลพิษ หรือจำกัดเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าได้ เช่น ถนนอ็อกซ์ฟอร์ด หรือ พิกคาดิลลี เซอร์คัส ใจกลางกรุงลอนดอน โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าธรรมเนียมรถติด (Congestion Charge) ซึ่งค่าธรรมเนียมประเภทนี้มีการเรียกเก็บอย่างแพร่หลายตามเมืองใหญ่ๆ ของยุโรป

แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบัน มินิ รีชาร์จ ยังคงมีให้บริการเฉพาะสหราชอาณาจักรเท่านั้น








กำลังโหลดความคิดเห็น