ดูเหมือนว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นสมรภูมิใหม่ที่ไม่ได้มีแค่ผู้ผลิตรถยนต์หน้าเดิมๆ ที่เรารู้จักกันมาตลอดช่วง 100 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น แต่จะมีบรรดาหน้าใหม่กระโดดเข้าร่วมกันอย่างมากหน้าหลายตา และที่ถูกจับตามองมากที่สุดและถือเป็นรายล่าสุดคือ Sony ซึ่งประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าพวกเขาจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งในการชิงมาร์เก็ตแชร์ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
ย้อนความจุดเริ่มต้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
เรื่องราวของ Sony ไม่ใช่ของใหม่เพราะในงาน CES หรือ Consumer Tech Trade Show ปี 2020 ที่จัดขึ้นที่นครลาสเวกัส มลรัฐเนวาดา ในประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาก็สร้างความตื่นตาตื่นใจมาแล้วกับการเปิดตัวรถยนต์ต้นแบบที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า ชื่อ Vision-S01 ที่มากับตัวถังซีดาน และเป็นความร่วมมือกับ Magna-Steyr ผู้ผลิตชิ้นส่วนชื่อดังสัญชาติออสเตรีย ในการพัฒนาต้นแบบคันนี้ขึ้นมา
ตอนนั้น Sony ไม่ได้แย้มอะไรออกมาในเรื่องของทิศทางและแผนในการเดินหน้าเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว และการจัดแสดงตอนนั้นเหมือนกับเป็นแค่การโยนหินถามทาง และข่าวส่วนใหญ่คาดการณ์ไปที่เรื่องของการเปิดช่องทางใหม่ๆ ในการส่งต่อคอนเทนต์จำนวนมหาศาลที่บริษัท Sony มีอยู่ไปยังแพล็ตฟอร์มต่างๆ ที่อยู่ในรถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นช่องทางที่สามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทมากกว่าการเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ ที่พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างได้ถูกเฉลยในงานเดียวกันในอีก 2 ปีต่อมา และ Sony ยืนยันว่าพวกเขาจะเดินหน้าเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแน่นอน
เข้าสู่ตลาดเต็มตัวด้วยการตั้งบริษัทใหม่
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับการประกาศของ Sony ในงาน CES 2022 คือ การที่พวกเขาจะเข้าร่วมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าผ่านทางการตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมารับผิดชอบในเรื่องนี้โดยเฉพาะ และบริษัทไม่ได้ชื่อ Sony Car หรือ Sony Automobile เหมือนอย่างที่มีการคาดการณ์กันในช่วงแรก แต่ใช้ชื่อว่า Sony Mobility Inc.
ตรงนี้สำคัญอย่างไร ?
Sony เลือกที่จะใช้คำกลางๆ ที่สามารถสื่อสารและครอบคลุมในทุกยานพาหนะในการเดินทางด้วยการใช้คำว่า Mobility ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาไม่ได้ตีกรอบตัวเองว่าจะเป็นแค่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่รวมถึงยานพาหนะในทุกรูปแบบที่สามารถพามนุษย์เดินทางจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง ซึ่งในช่วงแรกแน่นอนว่าจะหมายถึงรถยนต์เป็นหลักก่อนตามดีมานด์และซัพพลายที่มีอยู่ในตลาด ก่อนที่จะไปถึงตลาดใหม่ๆ ที่คาดว่าจะเริ่มบูมในอนาคตอย่างรถยนต์บินได้ หรือ Flying Car รวมถึงพวกอากาศยานที่บินขึ้นลงในระยะสั้นที่เรียกว่า eVOLT ซึ่งถูกมองว่าเป็นเทรนด์ใหม่ของการเดินทางที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์ในอนาคต
แต่ก่อนที่จะไปถึงตรงนั้น หน้าที่ของ Sony Mobility Inc. คือ การรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเบ่งบานและเติบโตในช่วงทศวรรษที่ 2020
แผนในการรุกตลาดในช่วงแรก
Sony ไม่ได้ระบุถึงช่วงเวลาที่ชัดเจนในการรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทใหม่ของตัวเอง แต่ที่แน่ๆ มีการคาดการณ์ว่าเราน่าจะได้เห็นผลผลิตของพวกเขาโลดแล่นบนท้องถนนไม่เกินปี 2025 โดยในช่วงแรกหลังการประกาศของนาย Kenichiro Yoshida CEO ของบริษัทคือ การจัดตั้งบริษัท Sony Mobility Inc. ช่วงกลางปี 2022
คำถามที่น่าสนใจคือ Sony จะใช้รถยนต์รุ่นไหนเป็นตัวเปิดตลาดของพวกเขา เพราะถ้านับจนถึงตอนนี้แล้ว เราได้เห็นต้นแบบจากรถยนต์กลุ่ม Vision-S ของ Sony มาแล้ว 2 รุ่นนั่นคือ Vision-S01 ในแบบตัวถังซีดาน และ Vision-S02 แบบ SUV ซึ่งเป็นรถยนต์อเนกประสงค์
Vision-S 02 SUV ที่เปิดตัวงาน CES 2022 มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ที่มีกำลังขับเคลื่อนตัวละ 200 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 536 แรงม้าและน่าจะเป็น 1 ใน 2 รถยนต์รุ่นใหม่ที่ทำตลาดในอนาคตให้กับ Sony Mobility เพราะว่าตอนนี้ต้นแบบรุ่น Vision-S01 ที่เปิดตัวเมื่อ 2 ปีที่แล้วกำลังแล่นทดสอบเพื่อเก็บข้อมูลและทดลองระบบอยู่ ในยุโรป โดยเชื่อว่าสิ่งที่ Sony Mobility Inc. ต้องการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของตัวเองนั้นไม่ใช่แค่เรื่องของการเป็นยานพาหนะแต่เป็นเรื่องของประสบการณ์รูปแบบใหม่ที่จะสร้างความแตกต่างจากสิ่งที่ได้รับแบบเดิมๆ จากรถยนต์ทั่วไปที่เราคุ้นเคยกันมากว่า 100 ปี
ตรงนี้ถูกสะท้อนผ่านคำกล่าวของนาย Yoshida ที่กล่าวในงานว่า Sony Mobility INC. มีเป้าหมายที่จะใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีหุ่นยนต์ที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนารถยนต์พลังไฟฟ้า ซึ่งนั่นทำให้เชื่อว่าสิ่งที่ Sony Mobility Inc. กำลังจะเปิดตัวออกมาจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
สร้างแพล็ตฟอร์มของตัวเองเพื่อเป็นสื่อกลางในการส่งต่อคอนเทนต์
Kenichiro Yoshida CEO ของ Sony กล่าวว่าบริษัทเตรียมผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพและการตรวจจับ คลาวด์ 5G และความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีความบันเทิง เชื่อว่า Sony อยู่ตำแหน่งที่ดีในฐานะบริษัทด้านความบันเทิงที่สร้างสรรค์เพื่อกำหนดนิยามใหม่ของความคล่องตัว
"มนุษย์ยังคงต้องการการเดินทางสัญจร และนี่เป็นโอกาสที่จะตอบสนองต่อความปรารถนาของผู้คนทั้งเพื่อการเดินทางอย่างปลอดภัยและได้รับความบันเทิง" นาย Yoshida กล่าว
จากคำกล่าวที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ถูกมองได้ 2 อย่างคือ การสร้างมิติใหม่ของการเดินทางโดยเฉพาะการพัฒนาระบบการขับขี่อัตโนมัติ หรือ Autonomous Driving ให้สามารถใช้งานได้จริงสักทีหลังจากที่ในทศวรรษที่แล้ว หลากหลายบริษัทต่างทดลองระบบและพัฒนากันอย่างเข้มข้น
นอกจากนั้นอีกเรื่องคือ การใช้รถยนต์เหล่านี้สร้างประสบการณ์ใหม่ในแง่ของความบันเทิง ซึ่งอย่าลืมว่า นอกจากการเป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว Sony ยังเป็นผู้ผลิตคอนเทนตฺเพื่อนความบันเทิงที่หลากหลายรูปแบบผ่านทางบริษัทในเครือต่างๆ ซึ่งคนยุคศตวรรษที่ 21 คุ้นเคยกันดี ไม่ว่าจะเป็นเกม ภาพยนตร์ หรือเพลง ซึ่งทั้งหมดคือ ส่วนประกอบที่สามารถนำมาเชื่อมต่อกับรถยนต์ซึ่งเปรียบเสมือนกับแพล็ตฟอร์มของสื่อบันเทิงเหล่านี้
ต้นแบบ Vision-S ก็ยังมีการนำเสนอรูปแบบของลำโพงที่นั่ง (seat speakers) ซึ่งสามารถสร้างเสียงแบบสามมิติ และ Vision-S 02 ก็ยังใช้เซนเซอร์ของ Sony (SNE) เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชันการขับขี่ด้วยตนเอง และด้วยความเชี่ยวชาญด้านความบันเทิงของบริษัท ทำให้ผู้โดยสารสามารถเล่นวิดีโอเกมได้ทุกที่ในขณะที่เชื่อมต่อกับคอนโซล PlayStation ที่บ้าน และเชื่อว่าจะเป็นระบบความบันเทิงมาตรฐานาสำหรับรถยนต์ของ Sony อีกด้วย
สิ่งที่ต้องตามดูต่อไปและถูกวิเคราะห์กันไปต่างๆ นานา คือ Sony จะกินรวบด้วยการผลิตรถยนต์ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำเลยหรือไม่ หรือว่าจะเป็นแค่หน้าร้านแล้วจับมือกับผู้ผลิตชิ้นส่วนที่มีความเชี่ยวชาญและชำนาญในการเป็นส่วนผลิตและพัฒนารถยนต์ให้กับพวกเขา เหมือนอย่างที่รถยนต์ต้นแบบคันแรกซึ่งก็คือ Vision-S01 จับมือกับ Magna-Steyr