xs
xsm
sm
md
lg

ฮอนด้าเผยโฉม “สเต็ปวากอน อี:เอชอีวี” ใหม่ ก่อนวางขายที่ญี่ปุ่นกลางปี 2565 นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฮอนด้าประเทศญี่ปุ่นเผยโฉม “สเต็ปวากอน อี:เอชอีวี” ใหม่ ปรับดีไซน์เน้นความเรียบหรูยิ่งขึ้น พร้อมขุมพลังไฮบริด e:HEV เตรียมเปิดตัวจริงครั้งแรกที่งานโตเกียวออโต้ซาลอนในวันที่ 15-16 มกราคมนี้ ขณะที่การวางจำหน่ายจะมีขึ้นช่วงกลางปีเป็นต้นไป

ฮอนด้า สเต็ปวากอน แอร์ และ สเต็ปวากอน สปาด้า
ฮอนด้า สเต็ปวากอน ใหม่ ถูกพัฒนาต่อเนื่องมาเป็นเจเนอเรชันที่ 6 แล้ว หลังจากที่ประเทศไทยสิ้นสุดการทำตลาดลงในเจเนอเรชันที่ 4 เท่านั้น โดยยังคงยึดหลักการออกแบบทรงกล่องสี่เหลี่ยมเพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารให้กว้างที่สุด พร้อมทั้งปรับหน้าตาให้ความเรียบหรูกว่ารุ่นที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด โดยตลาดญี่ปุ่นมีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นหลัก ได้แก่ “สเต็ปวากอน แอร์” และ “สเต็ปวากอน สปาด้า” ซึ่งทั้งคู่มีรูปลักษณ์แตกต่างกันเล็กน้อยเพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย

รูปลักษณ์ภายนอกของ ฮอนด้า สเต็ปวากอน เจเนอเรชันที่ 6 ถูกออกแบบให้มีกระโปรงหน้าที่ยื่นยาวกว่าโฉมที่แล้ว ให้ความรู้สึกภูมิฐานมากยิ่งขึ้น พร้อมไฟหน้าแบบแอลอีดีทรงเหลี่ยมที่เชื่อมเข้ากับกระจังหน้าขนาดใหญ่ โดยที่รุ่นสปาด้าจะเสริมความหรูหราด้วยแถบโครเมียมบริเวณกันชนหน้า-หลังและชายประตูด้านข้าง ทั้งยังถูกออกแบบให้มีกระจกหน้าต่างบานใหญ่เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยของทุกที่นั่ง ส่วนไฟท้ายถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นแนวตั้งกลืนไปกับเสาหลังช่วยเพิ่มความหรูหรามากกว่ารุ่นที่ผ่านมา

ฮอนด้า สเต็ปวากอน แอร์ และ สเต็ปวากอน สปาด้า
นอกจากนี้ สเต็ปวากอน ใหม่ ยังถูกติดตั้งปุ่มเปิด-ปิดประตูสไลด์ไฟฟ้าแบบสัมผัสให้ความสะดวกยิ่งขึ้น พร้อมประตูท้ายแบบไฟฟ้าที่สามารถปรับตั้งระดับความสูงได้ ขณะที่ห้องโดยสารมาพร้อมหน้าจอระบบ Honda CONNECT Navi ที่มีขนาดใหญ่ถึง 11.4 นิ้ว และจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 15.6 นิ้ว แสดงผลด้วยความละเอียดแบบเอชดี ซึ่งฮอนด้าระบุว่าทั้งสองหน้าจอดังกล่าวมีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับรถมินิแวนในระดับเดียวกัน

ภายในห้องโดยสารยังถูกติดตั้งเบาะนั่งแถวที่ 2 แบบกันตันซีทแยกออกจากกันเป็นอิสระ สามารถปรับเลื่อนขึ้นหน้า-หลัง รวมถึงปรับเลื่อนซ้าย-ขวาเพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างกันได้ เสริมด้วยเบาะรองนั่งแบบพับได้ในตัว โดยตัวเบาะจะมีให้เลือกทั้งแบบผ้าในรุ่น “แอร์”, ผ้าสลับหนังสังเคราะห์ (Prime Smooth) ในรุ่น “สปาด้า” และหนังกลับสลับหนังสังเคราะห์ในรุ่น “สปาด้า พรีเมียม ไลน์”


ด้านขุมพลังจะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินล้วน และไฮบริด e:HEV ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ที่เน้นการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อลดอัตราสิ้นเปลืองลง ขณะที่รายละเอียดเพิ่มเติมจะถูกเปิดเผยอีกครั้งใกล้กับวันเปิดตัว

ส่วนกำหนดวางจำหน่าย ฮอนด้า สเต็ปวากอน อี:เอชอีวี ใหม่ จะมีขึ้นที่ญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิระหว่างเดือนมีนาคม - มิถุนายน 2565 นี้เป็นต้นไป






















กำลังโหลดความคิดเห็น