โตโยต้าเปิดตัว “bZ4X” เอสยูวีไฟฟ้าเวอร์ชันจำหน่ายจริงแล้ว พร้อมแบตเตอรี่ที่สามารถขับขี่ได้ไกลกว่า 450 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ จ่อลงตลาดยุโรปไม่เกินสิ้นปีนี้
ภายหลังจากที่โตโยต้าเผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้า bZ4X เวอร์ชันต้นแบบไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดได้มีการเผยโฉมเวอร์ชันจำหน่ายจริงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะเห็นว่ามีรูปลักษณ์ถอดแบบมาจาก “Solterra” จากค่ายซูบารุ พร้อมทั้งแพล็ตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ
โตโยต้าระบุว่าแพล็ตฟอร์มดังกล่าวใช้ปรัชญาในการพัฒนาแบบเดียวกับ e-TNGA ด้วยการติดตั้งแบตเตอรี่ไว้ใต้ท้องรถ ส่งผลให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ให้การกระจายน้ำหนักหน้า-หลังได้อย่างสมดุล ประกอบกับโครงสร้างตัวถังที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ จึงทำให้ bZ4X มีการขับขี่ที่มั่นคงและตอบสนองผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี
ดีไซน์ภายนอกของ โตโยต้า bZ4X ใช้เอกลักษณ์การออกแบบสไตล์หัวค้อน หรือ Hummerhead ด้วยไฟหน้าที่ออกแบบให้มีความเรียวบาง เชื่อมเข้ากับมุมกันชนที่ดูบึกบึนแข็งแรง ขณะที่ฐานล้อถูกออกแบบให้มีความยาวเป็นพิเศษอยู่ที่ 2,850 มม. ส่งผลให้มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โดยเฉพาะพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง สามารถรองรับผู้โดยสาร 5 ที่นั่งได้อย่างสะดวกสบาย และมีพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ถึง 452 ลิตร
แผงคอนโซลของ bZ4X ถูกออกแบบให้มีความล้ำสมัยควบคู่ไปกับทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม ด้วยการออกแบบที่เน้นความบางและวางตัวอยู่ในระดับต่ำ พร้อมด้วยมาตรวัดความเร็วแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้วที่ออกแบบให้อยู่เหนือพวงมาลัยแบบ Steer-by-wire ผู้ขับขี่จึงไม่จำเป็นต้องละสายตาจากมากจนเกินไป โดยที่พวงมาลัยถูกออกแบบให้มีรูปทรงคล้ายกับคันบังคับของเครื่องบิน และสามารถหมุนจนสุดได้ใน 150 องศาเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องหมุนให้ครบรอบเหมือนกับพวงมาลัยทั่วไป
โตโยต้า bZ4X ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 265 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 8.4 วินาที ขณะที่รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ AWD ถูกเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับขับเคลื่อนล้อคู่หลังอีกหนึ่งตัว ให้กำลังสูงสุด 217.5 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 336 นิวตัน-เมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เหลือเพียง 7.7 วินาทีเท่านั้น
ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อยังมาพร้อมระบบเลือกโหมดการขับขี่ XMODE ประกอบด้วย Snow/Mud, Deep Snow/Mud ซึ่งทั้งคู่จะทำงานที่ความเร็วต่ำกว่า 20 กม./ชม. รวมถึงโหมด Grip Control ที่เน้นเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่แบบออฟโรดเป็นพิเศษ ซึ่งจะทำงานต่อเมื่อความเร็วต่ำกว่า 10 กม./ชม.
ขณะที่ระบบความปลอดภัยของ bZ4X ถูกติดตั้งระบบ Toyota Safety Sense เจเนอเรชันที่ 3 ซึ่งเพิ่มความครอบคลุมในการทำงานได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันการชนด้านหน้า (Pre-Collision System) ที่สามารถตรวจจับรถตัดหน้าหรือรถที่กำลังสวนมา และระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งที่ความเร็วต่ำโดยไม่ตั้งใจ เป็นต้น
ทั้งนี้ โตโยต้า bZ4X ถือเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกในตระกูล bZ ของโตโยต้า โดยย่อมาจากคำว่า “beyond Zero” เพื่อตอบสนองความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งในประเทศจีน, สหรัฐอเมริกา, ยุโรป และญี่ปุ่น โดยโตโยต้ายังมีแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าตระกูล bZ ให้ได้กว่า 7 รุ่น ภายในปี 2568 ที่จะถึงนี้