“เอ็มจี อินเดีย” เผยว่าเอสยูวีรุ่น “แอสเตอร์” ถูกขายหมดเกลี้ยงภายในระยะเวลาไม่กี่นาทีนับตั้งแต่เริ่มเปิดจอง ชี้เหตุมาจากปัญหาชิปขาดแคลนอย่างหนักทั่วโลกส่งผลให้ปริมาณการผลิตรถยนต์เป็นไปอย่างจำกัด
“เอ็มจี แอสเตอร์” หรือที่ตลาดโลกคุ้นเคยกันในชื่อ “เอ็มจี แซดเอส” ถูกปิดรับจองภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาทีนับตั้งแต่เริ่มเปิดให้ลูกค้าชาวอินเดียได้จับจองเป็นเจ้าของเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมทั้งยืนยันว่าบริษัทมีแผนส่งมอบเอสยูวีรุ่นดังกล่าวถึงมือลูกค้าราว 5,000 คันภายในสิ้นปีนี้ โดยจะเริ่มทยอยส่งมอบตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เอ็มจีมอเตอร์อินเดียเปิดเผยว่าปัญหาการขาดแคลนชิปในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ทั่วโลก ส่งผลให้ปริมาณการผลิตเอสยูวีรุ่นแอสเตอร์เป็นไปอย่างจำกัด โดยเอ็มจีคาดการณ์ว่าสถานการณ์จะค่อยๆ ดีขึ้นนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 ที่จะถึงนี้ แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้ระบุว่าจะกลับมาเปิดรับจองจากลูกค้าได้เมื่อใด
ทั้งนี้ เอ็มจี แอสเตอร์ ถูกวางให้เป็นเอสยูวีระดับพรีเมียมในตลาดอินเดีย โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะแบบปัญญาประดิษฐ์ และระบบขับขี่อัตโนมัติเลเวล 2 เป็นเจ้าแรกในเซกเมนต์ ทั้งยังมีห้องโดยสารที่ถูกตกแต่งอย่างหรูหราด้วยวัสดุอ่อนนุ่ม ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาสำหรับลูกค้าชาวอินเดียที่เน้นซื้อรถเพื่อใช้งานเป็นหลัก โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 เกรด ประกอบด้วย Style, Super, Smart และ Sharp
ขณะที่ขุมพลังของ เอ็มจี แอสเตอร์ มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร VTi-TECH กำลังสูงสุด 110 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 114 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT หรือเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ รวมถึงเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.3 ลิตร กำลังสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
ขณะที่ราคาจำหน่ายในประเทศอินเดียถูกตั้งไว้ที่ 978,000 - 1,678,000 รูปีอินเดีย หรือคิดเป็นเงินไทยตกประมาณ 432,000 - 740,000 บาทเท่านั้น