เปอโยต์ 3008 เอสยูวี ใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมวางจำหน่ายแล้วในไทย เพิ่มความโดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบไร้กรอบ ปรับดีไซน์ภายนอกสปอร์ตดุดันยิ่งขึ้น ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 167 แรงม้า เคาะราคาจำหน่าย 1,689,000 บาท
เปอโยต์ ประเทศไทย เดินหน้าเปิดตัว “เปอโยต์ 3008 เอสยูวี” โฉมไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ปรับดีไซน์เน้นความโฉบเฉี่ยวและทันสมัยภายใต้แนวคิด “Face The New Face” ทำตลาดควบคู่ไปกับ “5008 เอสยูวี 7 ที่นั่ง” ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน
สุนทรพันธ์ เดชะเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปอโยต์ ประเทศไทย เผยว่า “ในนามของผู้แทน เปอโยต์ ประเทศไทย ขอขอบคุณลูกค้า เปอโยต์ ทุกท่าน ที่ได้ให้การต้อนรับการกลั
เปอโยต์ 3008 เอสยูวี โฉมใหม่ ถูกปรับดีไซน์ภายนอกให้ดูชัดเจนและทันสมัยยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าแบบไร้กรอบ (Frameless Grille) ที่ให้ความล้ำสมัยและความรู้สึกไหลลื่น ออกแบบรับกับไฟหน้าแบบฟูลแอลอีดีที่สามารถทำงานเป็นไฟตัดหมอก (Foggy Mode) ในตัว โดยเมื่อผู้ขับขี่เปิดไฟตัดหมอกหลัง ไฟหน้าจะติดขึ้นโดยอัตโนมัติด้วยระดับความเข้มแสงต่ำกว่าปกติ ขนาบข้างด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวันแนวตั้งดีไซน์คล้ายเขี้ยวสิงโต
ดีไซน์ด้านท้ายถูกติดตั้งไฟท้ายแบบฟูลแอลอีดีที่สะท้อนถึงกรงเล็บสิงโต (Lion Claws) พร้อมไฟเลี้ยวแบบไล่ระดับ ครอบด้วยกระจกรมดำที่พาดยาวจรดตัวถังทั้ง 2 ฝั่ง ช่วยให้ตัวรถดูกว้างขึ้น เสริมด้วยราวหลังคาดีไซน์ใหม่ที่ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น และสัญลักษณ์ 3008 รูปตัวนูนบริเวณฝากระโปรงหน้า
ภายในห้องโดยสารต้อนรับผู้โดยสารอย่างอบอุ่นด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง ตัดกับสีด้ายที่ใช้เย็บตะเข็บอย่างลงตัว ตกแต่งตามจุดต่างๆ ด้วยวัสดุผ้าคุณภาพสูงเพื่อให้สัมผัสที่นุ่มนวลและหรูหรา ติดตั้งมาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ที่ปรับปรุงเพิ่มความละเอียดยิ่งขึ้น และหน้าจอทัชสกรีนอเนกประสงค์ขนาด 10 นิ้ว รองรับการสั่งงานด้วยเสียง ทั้งระบบนำทาง, โทรศัพท์, เครื่องปรับอากาศ และวิทยุ มาพร้อม 7 สวิตช์แบบก้านเปียโน (Piano Key Toggle Switches) และระบบชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย (Wireless Charging)
นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ เช่น ระบบเปิดไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน, ระบบเตือนเมื่อรถวิ่งออกนอกเลน, ระบบเตือนรถในมุมอับสายตา, เซ็นเซอร์ช่วยจอด รวมไปถึงระบบเบรกมือไฟฟ้า และประตูท้ายแบบแฮนด์ฟรี เป็นต้น
เปอโยต์ 3008 เอสยูวี ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.6 ลิตร ทวินสกรอลล์เทอร์โบ 167 แรงม้า แรงบิด 245 นิวตันเมตร ที่ 1,400-4,000 รอบ/นาที สูงสุดในรถยนต์กลุ่มเดียวกัน ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ Electric Impulse พร้อม Advanced Grip Control กับ 5 โหมดการขับ (Normal, Snow, Mud, Sand และ ESP Off)
ทั้งนี้ เปอโยต์ ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับคุณภาพด้านบริการหลังการขาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Peugeot Care” ด้วยศักยภาพที่สามารถรองรับรถ เปอโยต์ ได้ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นปัจจุบัน มั่นใจได้กับอุปกรณ์อันทันสมัย, เครื่องมือพิเศษสำหรับวิเคราะห์เพื่อแก้ปัญหาอย่างตรงจุด รวมถึงทีมช่างมืออาชีพที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี
อีกทั้งยังเพิ่มอิสระในการเลือกซื้อให้ลูกค้า ด้วย 2 ทางเลือกเซอร์วิสแพ็กเกจ VALUE CARE บำรุงรักษา ครอบคลุมตั้งแต่ 10,000 กิโลเมตร ถึงสูงสุด 100,000 กิโลเมตร กับการเช็กระยะ 2 ครั้ง พร้อมส่วนลดค่าอะไหล่ 10% หรือการเช็กระยะ 4 ครั้ง พร้อมส่วนลดค่าอะไหล่ 15% โดยมาพร้อม การรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ทั่วประเทศ 3 ปีเต็ม
ปัจจุบัน เปอโยต์ มีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการครบวงจร 5 สาขาในกรุงเทพฯ และ 3 สาขาต่างจังหวัด คือ สุขุมวิท, เยาวราช, เกษตร-นวมินทร์, เปอโยต์ สตูดิโอ บริเวณชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เปอโยต์ สตูดิโอ สาขาวงเวียนพระราม 5-ราชพฤกษ์, สาขาอุบลราชธานี, สาขาภูเก็ต และสาขาหาดใหญ่ พร้อมให้บริการลูกค้าแล้ววันนี้
ราคาจำหน่าย เปอโยต์ 3008 เอสยูวี ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ อยู่ที่ 1,689,000 บาท ขายต่ำกว่ารุ่นเดิม 11,000 บาท คือราคา 1,700,000 บาท
สุนทรพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้ เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มคน Gen X ปลาย ๆ ถึง GEN Y ซึ่งเห็นได้ว่า ราคาที่เปิดตัวเป็นเจ้าของได้ง่ายมากขึ้น
"ช่วงระยะเวลา 2 ปี นับจากปี 2562 ที่เปอโยต์กลับมาทำตลาดในไทยอีกครั้งและในช่วง 8 เดือนที่นำเข้า 3008และ 5008 มาจำหน่ายมียอดขายทั้งสิ้น 248 คัน และตั้งเป้า 3008 รุ่นปรับโฉมใหม่ไว้ที่ 150 คันในสิ้นปีนี้ ไม่นับรวมรุ่น 2008 ที่จะเข้ามาทำตลาดในช่วงปลายปี จากนั้นในปี 2565 เปอโยต์จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่เพิ่มอีก 1 รุ่น เพื่อเจาะตลาดคอมเมอร์เชียล ซึ่งคาดว่าจะทำยอดขายรวมได้ 1,500 คัน มีมาร์เก็ตแชร์ 2 % ในกลุ่มรถ B-SUV และใน 3-5 ปีจะไต่อันดับขึ้นมาอยู่ที่ 15 จากปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 18 ของตลาดรถยนต์รวมในประเทศไทย สำหรับปีนี้เราตั้งเป้าไว้ 500-550 คัน " สุนทรพันธ์ กล่าวตบท้าย
