BMW i Vision Circular ต้นแบบรถคอมแพกต์คาร์แห่งอนาคต พัฒนาขึ้นภายใต้วิสัยทัศน์ “หรูหรา” (Luxury) และ “รักษ์โลก” (Sustainability) ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า 100% ผลิตด้วยวัสดุรีไซเคิล 100% และนำไปรีไซเคิลได้ 100%
BMW i Vision Circular ถูกออกแบบโดยใช้ดีไซน์คอนเซ็ปต์ใหม่ "Circular" ประกอบด้วย
1. RE:THINK "คิดต่าง" เปลี่ยนเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตใหม่ เพื่อลดการใช้พลังงาน ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต
2. RE:DUCE "ลด" ลดจำนวนชิ้นส่วน ลดชนิดวัสดุ ลดปริมาณวัตถุดิบ ลดคาร์บอนไดออกไซด์ ลดขั้นตอนการประกอบ และลดความยุ่งยากซับซ้อนในการใช้งาน
3. RE:USE "ใช้ซ้ำ" รถต้องมีแรงดึงดูดมากพอที่จะทำให้ผู้ใช้กลับมาใช้ซ้ำอยู่เรื่อย ๆ หรือใช้เป็นประจำ ต้องมีความทนทาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ซ่อมง่าย เปลี่ยนอะไหล่ง่าย ระบบดิจิทัลภายในต้องมีการอัปเดทสม่ำเสมอ อัตโนมัติ และไม่ยุ่งยาก
4. RE:CYCLE ใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิต และนำไปรีไซเคิลได้เมื่อหมดอายุการใช้งาน เลิกใช้กาว เปลี่ยนมาใช้เชือกและสลักในการยึดวัสดุต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อความง่ายในการถอดชิ้นส่วน เช่น ล้อ เบาะนั่ง และคอนโซลหน้า ไปรีไซเคิล
ทั้งนี้ BMW ได้มีการออกแบบสลักยึดขึ้นมาใหม่ มีความเป็นเอกลักษณ์ และเป็นสัญลักษณ์แทนของคำว่า Circular โดยเรียกมันว่า "Joyful Fusion"
ดีไซน์ด้านหน้ายังคงคอนเซ็ปต์ไตคู่ของ BMW เอาไว้ โดยรวมไฟหน้าและกระจังหน้าเข้าเป็นชิ้นเดียวกัน แยกฝั่งซ้ายและขวา และที่เห็นเป็นไฟหน้าและกระจังหน้านั้น จริง ๆ แล้วไม่ใช่กระจังหน้า แต่เป็นแผงไฟดิจิทัล เพราะรถยนต์ไฟฟ้าไม่จำเป็นต้องมีกระจังหน้า แต่ยังต้องคงเอาไว้เพื่อความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ กันชนเป็นพลาสติกรีไซเคิลตกแต่งผิวลายหินอ่อนเพื่อบอกให้รู้ว่านี่คือวัสดุรีไซเคิล ฝากระโปรงเป็นอะลูมิเนียมรีไซเคิลชุบอะโนไดซ์สีทอง ตรงส่วนของโลโก้ BMW ใช้วิธียิงเลเซอร์ฝังเข้าไปในเนื้ออะลูมิเนียมแทนการแปะเครื่องหมายแบบเดิม ๆ
พื้นห้องโดยสารเรียบเป็นชิ้นเดียวจากล้อหน้าถึงล้อหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารให้กว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ บอดี้เป็นอะลูมิเนียมรีไซเคิลชุบอะโนไดซ์สีทองทั้งหมด ส่วนด้านหลังที่เห็นเป็นสีฟ้าอมม่วงนั้น เกิดจากการนำอลูมิเนียมไปผ่านความร้อนเพื่อให้เปลี่ยนสีตามธรรมชาติในลักษณะเดียวกับปลายท่อไอเสีย
ล้อเป็นอะลูมิเนียมรีไซเคิล และออกแบบให้ใช้วัตถุดิบน้อยที่สุด ลายซี่เล็ก ๆ เฉียง ๆ ไม่ได้มีไว้แค่ความสวยงาม แต่ยังมีผลต่อการระบายความร้อนของระบบเบรกและแอโรไดนามิกด้วย ยางใช้วัสดุรีไซเคิลร่วมกับยางธรรมชาติที่ได้รับการรับรองและปลูกอย่างยั่งยืน เนื้อยางค่อนข้างใส ตกแต่งลายหินขัด เพื่อบ่งบอกว่าเป็นวัสดุรีไซเคิล
ไฟท้ายเป็นแผงไฟดิจิทัล ปิดทับด้วยแก้วรมดำ ยาวเป็นชิ้นเดียวจากซ้ายจรดขวา ตรงกลางเป็นไฟรูปโลโก้ BMW กันชนเป็นพลาสติกรีไซเคิลแต่งลายหินอ่อนเหมือนกับด้านหน้า ออกแบบให้เป็นดิฟฟิวเซอร์ในตัว สวยสปอร์ต พร้อมกับช่วยเรื่องแอโรไดนามิก
ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป BMW i Vision Circular จะต้อนรับเราด้วยแสงสีเสียง สัมผัสได้ถึงความหรูหราอลังการ บานประตูเปิดออกไปทางด้านหน้าและด้านหลัง ไม่มีเสากลาง ทำให้ห้องโดยสารกว้างมาก และเข้าออกสะดวก
เบาะคู่หน้าดีไซน์เหมือนเก้าอี้พักผ่อนในห้องนั่งเล่น โครงเป็นอลูมิเนียม ตัวเบาะเป็นวัสดุรีไซเคิล ปิดกรอบด้วยอลูมิเนียม หลังเป็นพลาสติกรีไซเคิลลายหินขัด และยึดทั้งหมดไว้ด้วยกันด้วย Joyful Fusion
คอนโซลหน้าขึ้นรูปด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ปิดผิวด้วยวัสดุไม้และอลูมิเนียม และยึดเข้ากับตัวถังด้วย Joyful Fusion
กลางคอนโซลมีวัตถุคล้ายคริสตัลขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่ นั่นคือเรือนไมล์ เรืองแสงได้ และแสงนั้น ตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวของมือเราได้ ไฮเทคสุด ๆ ไม่มีจอแสดงผลที่บริเวณคอนโซล แต่จะส่งผลไปแสดงที่บริเวณขอบล่างกระจกหน้าแทน แบบ HUD (Head-Up Display)
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันลาย 4 ก้านดูแปลกตา ใช้วัสดุรีไซเคิลขึ้นรูปด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติอีกเช่นกัน ตกแต่งผิวด้วยไม้และอลูมิเนียม ปุ่มกดเป็นคริสตัล และแสดงผลบนกระจกหน้า
แผงข้างประตูก็ใช้วัสดุรีไซเคิลขึ้นรูปด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ตกแต่งผิวลายหินอ่อน ประดับด้วยเส้นคริสตัล พร้อมฝังปุ่มควบคุมเบาะนั่ง หน้าต่าง และประตูไว้ภายใน และยึดทุกอย่างไว้ด้วย Joyful Fusion
เมื่อเงยหน้าขึ้นไปก็พบกับหลังคาแก้ว ที่ยาวตั้งแต่หัวจรดท้าย ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในสนามหญ้าโล่ง ๆ
เบาะนั่งด้านหลังดีไซน์เป็นโซฟายาว วัสดุเช่นเดียวกับเบาะหน้า และยึดชิ้นส่วนต่าง ๆ ไว้ด้วย Joyful Fusion ระบบเสียงออกแบบโดยทีมวิศวกรของ BMW ให้รายละเอียดครบทุกมิติ เพิ่มความสุนทรีย์ถึงขีดสุด
นอกจากเรื่องวัสดุและดีไซน์แล้ว BMW i Vision Circular ยังมาพร้อมนวัตกรรมการจัดการจราจรอัจฉริยะ ที่มีการแชร์ข้อมูลจราจรร่วมกับรถคันอื่นแบบเรียลไทม์ ประมวลผลและจัดระเบียบการเดินรถโดยอัตโนมัติ รวมถึงการกำหนดความเร็วที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดการติดขัด ลดปริมาณการเผาผลาญพลังงาน ทำให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้ยังมาพร้อมแอปพลิเคชัน BMW i Insights Vision ที่ช่วยจัดสภาพแวดล้อมของ BMW i Vision Circular ให้เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ใช้แต่ละคน เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดด้วย
BMW ยังได้แสดงวิสัยทัศน์และนวัตกรรมใหม่ ๆ อีกมากมายในงาน IAA Mobility 2021 ติดตามได้ที่เว็บไซต์ BMW , Facebook: BMW และ Youtube: BMW
#THEiVisionCircular #BMWIAA #ReImagineToday #Luxury #Sustainability #FutureMobility #BMW #BMWTH #JOYisBMW #สุนทรียภาพแห่งการขับขี่