นิสสันตั้งเป้าทำยอดจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้ได้ไม่ต่ำกว่า 40% ของยอดจำหน่ายรถยนต์ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาภายในปี 2573 หรือในอีก 8 ปีข้างหน้านี้
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา นิสสันอเมริกาเหนือประกาศว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ในตลาดสหรัฐอเมริกาปี 2573 จะต้องมีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEV) คิดเป็นสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 40% ส่วนรุ่นอื่นๆ ที่เหลือจะต้องมีมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบในการขับเคลื่อน เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายหลักของนิสสันมอเตอร์ที่มุ่งไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593
ทั้งนี้ นิสสันถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เนื่องจาก “นิสสัน ลีฟ” มียอดจำหน่ายสะสมจนถึงปัจจุบันกว่าครึ่งล้านคันนับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2553 อีกทั้งยังระบุด้วยว่ารถยนต์ลีฟทุกคันที่วิ่งอยู่บนท้องถนนมีระยะทางขับขี่รวมกันไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านไมล์ (หรือประมาณ 8 พันล้านกิโลเมตร)
นอกจากนี้ นิสสันยังเตรียมวางจำหน่ายครอสโอเวอร์พลังงานไฟฟ้า “อริยะ” (Ariya) เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์อเนกประสงค์ ซึ่งถือเป็นเซ็กเมนต์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน พร้อมทั้งระบุอีกว่าจะมีรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ตามมาอีกในอนาคตเพื่อให้ตรงตามความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า
ก่อนหน้านี้เพียงไม่นาน นิสสันได้ประกาศลดราคาจำหน่าย ลีฟ ในสหรัฐอเมริกาลงสูงสุดถึง 6,545 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยตกประมาณ 210,000 บาท ส่งผลให้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นดังกล่าวมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 28,375 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 940,000 บาทเท่านั้น ส่วน “ลีฟ พลัส” ที่เพิ่มขนาดแบตเตอรี่เป็น 62 กิโลวัตต์ชั่วโมง (รุ่นปกติมีขนาด 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง) มีราคาจำหน่ายเริ่มต้น 33,375 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,100,000 บาท